องค์ชายวายร้ายอยากเป็นพ่อ นิยาย บท 903

เมื่อประสานสายตากัน หนานกงเย่เดินเข้ามา "เจ้าไม่มีมโนธรรมเสียเลย คิดถึงข้าแล้วหรือ? รู้จักคิดถึงข้าแล้วหรือ?"

ฉีเฟยอวิ๋นเม้มปาก หายใจเข้าลึกๆ ครั้งนี้เธอไม่ได้พาใครมาด้วย เพราะเธอดูแลไม่ไหว เธอฝากฝังบุตรไว้กับสวีฝูและอวิ๋นจิ่น

ฉีเฟยอวิ๋นเดินเข้าไปสองก้าว "แล้วท่านอ๋องคิดถึงหม่อมฉันไหมเพคะ?"

"คิดถึงสิ ไยจึงไม่คิดถึงกันเล่า" หนานกงเย่เดินเข้าไปโอบกอดฉีเฟยอวิ๋น

"เจ้าไม่ควรมา ที่นี่หนาวเย็นนัก ทั้งยังสู้รบจนวุ่นวายอีก เกิดเรื่องแล้วจะทำเยี่ยงใด?" หนานกงเย่แค่คิดก็รู้สึกหวาดกลัวเต็มทรวง

ฉีเฟยอวิ๋นกลับส่ายหัว "ท่านลืมไปแล้ว ข้าเคยบอกว่า หากข้าช่วยท่านอ๋องทำสงครามครั้งนี้ ย่อมได้รับชัยชนะแน่นอน"

หนานกงเย่ปล่อยฉีเฟยอวิ๋นออก "ข้าเอาชนะเองได้"

"หม่อมฉันรู้ความสามารถท่านอ๋องดีเพคะ แต่ยืดเยื้อต่อไปก็ไม่ดีต่อผู้ใดเลย" ฉีเฟยอวิ๋นจับแก้มหนานกงเย่ เขย่งเท้าจุมพิตเขา หนานกงเย่กอดเธอ จากนั้นก็เปลี่ยนจากฝ่ายรับเป็นฝ่ายรุกแทน

ในห้องไม่มีผู้อื่น หลังปิดประตู หนานกงเย่พลันอุ้มฉีเฟยอวิ๋นขึ้นเตียง

หนานกงเย่สองไปสองชั่วยาม ซึ่งเป็นเพียงการนอนหลับครั้งเดียวในรอบสองเดือนที่ผ่านมา

ฉีเฟยอวิ๋นนอนสักพักก็ลุกขึ้น

หนานกงเย่รู้สึกเธอเคลื่อนไหว จึงรีบลุกขึ้นนั่ง

ฉีเฟยอวิ๋นใส่อาภรณ์ "ค่ำคืนนี้ข้าจะมอบของขวัญชิ้นใหญ่ให้ท่านอ๋องเพคะ"

ฉีเฟยอวิ๋นกล่าวจบพลันสวมหมวก จากนั้นก็เดินออกไป

หนานกงเย่ก็ตามไปที่กำแพงเมืองในเวลาต่อมา ทหารจำนวนหนึ่งบังคับรถม้ามายังกำแพงเมือง พอถึงข้างบน ฉีเฟยอวิ๋นสั่งให้จัดสิ่งของในรถม้าเป็นแถวอย่างระเบียบเรียบร้อย

พอใกล้ฟ้าสาง ฉีเฟยอวิ๋นดึงผ้าสีแดงลง หนานกงเย่รู้สึกมึนงง "อันนี้คือ?"

"อันนี้คือปืนใหญ่เพคะ หม่อมฉันเคยบอกท่านอ๋องแล้ว" สายตาฉีเฟยอวิ๋นอ่อนโยน ทว่ากลับเจือกลิ่นอายสังหารอันเย็นเยียบไว้ในทีด้วย

หนานกงเย่มองระเบิดลูกกลม ๆ ที่ขนาดไม่ได้เล็กศีรษะคน ด้านบนยังมีเชื้อก่อไฟอีกด้วย

"ของพวกนี้ปลอดภัยไหม?"

"ประเดี๋ยวก็รู้เพคะ ท่านอ๋อง ข้ากำลังท้อง ฟังเสียงพวกนี้ไม่ได้ ท่านรอดูเลยเพคะ" ฉีเฟยอวิ๋นกำชับตงเอ๋อร์ ตงเอ๋อร์พยักหน้ารับ ก่อนจะยกมือขึ้น ซึ่งในมือถือธงสีแดงสามเหลี่ยมไว้ จากนั้นก็มีคนย่อเข่าทันที บ้างก็เตรียมไฟ บ้างก็เตรียมปล่อยลูกระเบิดออก

ฉีเฟยอวิ๋นหมุนกายเดินไปด้านล่าง เดินไปอยู่ในระยะไกลๆ

ส่วนหนานกงเย่ยืนเอามือไพล่หลัง รอดูสิ่งที่จะเกิดขึ้น

ฉีเฟยอวิ๋นเดินไปไกลแล้ว ตงเอ๋อร์คำนวณระยะห่างเสร็จสรรพก็โบกธงก็เกิดการเคลื่อนไหวอันร้อนแรงที่ปืนใหญ่ ลูกระเบิดเกิดเสียง ปัง หนานกงเย่รู้สึกแผ่นดินไหวใต้เท้า เขากวาดสายตามอง พลางเห็นทหารเริ่มเคลื่อนไหว ทหารในค่ายล้วนวิ่งออกมาดู ทว่าหนานกงเย่กลับมีสีหน้าเงียบสงบ

ลูกระเบิดหล่นใส่ค่ายของศัตรู เกิดเสียงครึกโครมที่น่ากลัวกว่าเสียงฟ้าผ่า

จากนั้นเพียงแค่ครึ่งชั่วยามก็ทำให้ทหารในค่ายของศัตรูทิ้งเกราะ ทิ้งอาวุธลง

ตงเอ๋อร์ลงธงลงมา ก่อนจะปัดไว้ที่ด้านหลังเอว หนานกงเย่ดูค่ายทหารของศัตรู ที่นั่นมีกลุ่มควันลุกขึ้นทั่วทิศ มีการบาดเจ็บล้มตายจำนวนมาก ทหารจำนวนเจ็ดแสนนายคล้ายกับเม็ดทรายที่กระจัดกระจายในชั่วพริบตา บางคนหนีตายอย่างหัวซุกหัวซุน

หนานกงเย่เดินไปหาฉีเฟยอวิ๋น

หยุดก้าวเดิน หนานกงเย่พลันเอ่ยปากถาม "เจ้าไม่ให้ข้าทำ แต่เจ้ากลับทำเสียเอง?"

"หากพวกเขาไม่ข่มเหงเกินไป ใครอยากจะทำเยี่ยงนี้?" ฉีเฟยอวิ๋นไม่สะทกสะท้าน ทว่าเธอก็เดินไปยังกำแพงเมืองดูลงไปด้านล่าง

ฉีเฟยอวิ๋นกล่าว "สังหารคนมากมายเช่นนี้ต้องได้รับกรรม"

"พูดเพ้อเจ้อ พวกเขารังแกข้าก่อนต่างหาก" ใบหน้าหนานกงเย่เรียบเฉย

ด้านล่างกำแพงมีแม่ทัพวิ่งมามากมาย เมื่อเห็นฉีเฟยอวิ๋นก็ทำความเคารพ "ข้าน้อยคารวะพระชายาพ่ะย่ะค่ะ"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายวายร้ายอยากเป็นพ่อ