กลับถึงบ้านเดี่ยว ฉีเฟยอวิ๋นเดินเข้าไปเห็นซูมู่หรงกำลังต้มหมี่อยู่
เมนูถนัดของซูมู่หรงคือหมี่และเนื้อสแปม
"คุณอยากกินอะไรอีก?" ซูมู่หรงถามโดยหันหลังให้ฉีเฟยอวิ๋น
"ฉันไม่หิวค่ะ" ฉีเฟยอวิ๋นหมุนกายเดินไปตรงหน้าโทรทัศน์ จากนั้นก็เปิดดูว่าตอนนี้เป็นเวลาที่เธอพึ่งตายจากไปหรือไม่
ทว่าเวลากลับเป็นปี 2019 ไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไร กระทั่งวันที่ก็ยังเหมือนกัน
ฉีเฟยอวิ๋นจ้องโทรทัศน์อย่างเหม่อลอย เธอจะเป็นโรคซูมเศร้าหรือไม่
ซูมู่หรงยกหมี่ออกมาสองถ้วยและเนื้อสแปมหนึ่งกระป๋อง
เขานั่งลง จากนั้นก็ยื่นหมี่ให้ฉีเฟยอวิ๋นหนึ่งถ้วย เปิดเนื้อสแปมออก มือด้านหนึ่งรองก้นกระป๋อง ส่วนมืออีกด้านก็ตัดเนื้อแบ่งกันกินคนละครึ่ง แบ่งเสร็จก็คีบใส่ให้ฉีเฟยอวิ๋น
ฉีเฟยอวิ๋นมองปราดหนึ่ง "ฉันไม่หิวค่ะ"
"ไม่หิวก็ต้องกิน กินสิ"
ซูมู่หรงเริ่มกินหมี่ ส่วนฉีเฟยอวิ๋นกินไม่ลง กลับไปนอนที่ห้อง
ระหว่างที่นอนฝันเห็นหนานกงเย่มีผมหงอกเต็มศีรษะ เขานั่งใจลอยอยู่ที่ศาลา หิมะเริงระบำอยู่รอบๆทำให้อากาศหนาวเหน็บยิ่ง ทว่าเขาก็ไม่กลัว ด้านข้างมีเฟยอิงยืนอยู่ เฟยอิงเอาเสื้อมาคลุมให้เขา
ฉีเฟยอวิ๋นตื่นจากฝันก็รีบดูเวลา พบว่าเป็นช่วงฤดูร้อน ทว่าเธอกลับรู้สึกหนาวสุดขั้ว
ฉีเฟยอวิ๋นลุกขึ้นไปเปิดประตูพลันพบว่าฟ้ามืดแล้ว
เธอใส่เสื้อและรองเท้า จากนั้นก็ลงไปชั้นล่าง
ฉีเฟยอวิ๋นยืนถือมีด แล้วมายืนแงะอยู่หน้าประตู พึ่งลงมือ ด้านหลังก็มีเสียงฝีเท้าส่งเข้ามา "ดึกแล้วยังไม่นอนอีก จะไปไหนหรือ?"
ฉีเฟยอวิ๋นหันไปมอง ซูมู่หรงเดินมาถึงตรงหน้าแล้ว ฉีเฟยอวิ๋นกำลังตรึกตรองว่าจะตอบเช่นไรดี ซูมู่หรงก็เข้ามาแนบลำตัว ฉีเฟยอวิ๋นรีบยกมือขึ้นเพื่อจะผลักซูมู่หรงออก "ครูฝึก ฉันไม่อยากชกต่อยนะ ตอนนี้ฉันอยากศึกษาทดลองอย่างเดียว"
ซูมู่หรงหลุบตาลง มุมปากยกขึ้น "ผมเคยบอกคุณในสายแล้วว่า ผมชอบคุณ อยากแต่งงานกับคุณ พวกเราลองมาเป็นเพื่อนกันก่อนเถอะ
หรือถ้าหากคุณคิดว่า พวกเรารู้จักกันนานขนาดนี้ ไม่จำเป็นต้องเป็นเพื่อนเพื่อศึกษาดูใจกัน งั้นก็แต่งงานเลยก็ได้"
ฉีเฟยอวิ๋นอ้าปาก ผ่านไปเนิ่นนานกว่าจะพูดขึ้นมาว่า "ครูฝึก ฉันแต่งงานแล้ว คุณลืมแล้วหรือ?"
ซูมู่หรงรู้สึกประหลาดใจ "เหลวไหล ผมมีข้อมูลของคุณ คุณแต่งงานเมื่อไหร่กัน?"
"อันที่จริงครูฝึกรู้ว่าตอนไหน ถึงฉันจะไม่รู้ว่าที่นี่เกิดอะไรขึ้น แต่ฉันมีสามีแล้ว และยังมีลูกด้วย" ฉีเฟยอวิ๋นหันหลัง หมายจะไป ทว่าถูกซูมู่หรงโอบเอวกอดไว้ ฉีเฟยอวิ๋นดิ้นรน ซูมู่หรงกดฉีเฟยอวิ๋นไว้ที่กั้นประตู ก่อนจะก้มหน้าจูบ ฉีเฟยอวิ๋นส่ายหัว ซูมู่หรงรีบกดเธอไว้
ทั้งสองสู้กันได้สักพักหนึ่ง ฉีเฟยอวิ๋นก็หยุดนิ่ง ซูมู่หรงผละตัวออกจากฉีเฟยอวิ๋น เธอตะเบ็งเสียงเกรี้ยวกราด "ฉันไม่ชอบคุณ"
ฉีเฟยอวิ๋นผลักซูมู่หรงออก จากนั้นก็ใช้แรงเขย่าที่กั้นประตูไปพลาง สบถด้วยเสียงโกรธขึ้งไปพลาง "ฉันจะกลับไป ไม่งั้นเขาอาจตายได้"
ฉีเฟยอวิ๋นใกล้จะเป็นบ้าแล้ว เธอรู้สึกได้ว่าตอนนี้หนานกงเย่เจ็บปวดมาก เจ็บเจียมตาย เขาใกล้จะตายแล้ว
ซูมู่หรงดึงแขนของเธอแล้วโยนไปอีกทาง ทั้งสองสบตากัน คล้ายกับเสือชีตาห์สองตัวในยามราตรีไม่มีผิดเพี้ยน จ้องอีกฝ่ายอย่างดุดัน ชนิดที่ไม่มีใครยอมใคร
ฉีเฟยอวิ๋นหันหน้าวิ่งไปที่กั้นประตู การเคลื่อนไหวรวดเร็วมาก เธอยกตัวกระโดดก็ขึ้นไปอยู่บนนั้นสำเร็จ ความเร็วดุจตุ๊กแกปีนขึ้นกำแพงเลย
ซูมู่หรงที่อยู่ด้านหลังรีบไล่ตาม เท้าของเขาแตะก็กระโดดเร็วกว่าฉีเฟยอวิ๋นเป็นเท่าตัว เธอพลิกตัวหนี ทว่าถูกซูมู่หรงจับได้แล้วโยนลงพื้น
ฉีเฟยอวิ๋นล้มขาตั้ง ทว่าก็รีบลุกขึ้นยืน
ซูมู่หรงกระโดดลงมา ทั้งสองประสานสายตากัน ฉีเฟยอวิ๋นโกรธจนหายใจหอบ "ฉันไม่สนว่าตอนนี้เกิดอะไรขึ้น ฉันรู้เพียงว่าฉันรักเขา พรากจากเขาไม่ได้"
ซูมู่หรงขบฟัน "ให้เขามา ผมจะดูหน้าเขา"
ฉีเฟยอวิ๋นมองอีกฝ่าย "ฉันเกือบคิดว่าคุณเป็นตัวจริง แต่คุณไม่ใช่"
ฉีเฟยอวิ๋นไม่ออกไปแล้ว หมุนกายกลับเข้าบ้าน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายวายร้ายอยากเป็นพ่อ