หลินชิงเหยายิ้มอย่างขมขื่นพลางหลับตารอความตาย
ดาบเคลื่อนลงมาอย่างรวดเร็ว ดูเหมือนว่าหลินชิงเหยากำลังจะพบกับจุดจบอันน่าเศร้า
ในช่วงเวลาวิกฤตินี้ มีร่างหนึ่งกระโดดลงจากหลังม้า!
ในขณะที่คนผู้นั้นนี้ยื่นมือออกเพื่อดึงหลินชิงเหยาออกมา มืออีกข้างของเขาก็คว้าดาบอย่างรวดเร็วและช่ำชอง
ในชั่วพริบตา ดาบในมือของฉินหงก็ถูกคนผู้นั้นคว้าไป ในเวลาเดียวกัน ดาบเย็นก็กดลงบนคอของเขาในทันใด!
หลังจากที่ฉินหงตระหนักได้ถึงสิ่งที่เกิดขึ้นเขาก็ตกตะลึงจนอ้าปากค้าง!
“ฉินซู เหตุใดจึงเป็นเจ้า!”
เขาตกใจมาก!
ฉินซูผู้ไร้ประโยชน์มีทักษะถึงเพียงนี้ได้อย่างไร? เขาสามารถปลดอาวุธได้ด้วยมือเปล่าจริง ๆ หรือ?
องครักษ์ที่อยู่รอบ ๆ ฉินหงต่างก็ทำหน้าเคร่งขรึม พลันชักมีดออกมาพร้อมกัน!
ดวงตาของฉินซูเย็นชา ดาบในมือของเขากลายเป็นแสงสีขาว ฟันไปที่หัวหน้าองครักษ์ที่อยู่ด้านหน้า
ม่านตาของหัวหน้าองครักษ์หดตัวลงทันที และพยายามหลบเลี่ยงโดยสัญชาตญาณ
ทว่าก่อนที่เขาจะขยับเท้าได้ ดาบก็ฟาดลงมาแล้ว
“ฉึก!”
โลหิตพลันพุ่งออกมา ศีรษะของหัวหน้าองครักษ์ลอยขึ้นไปในอากาศ จากนั้นก็ร่วงหล่นลงมาและกลิ้งไปบนพื้นสองสามครั้งก่อนที่มันหยุดลง
ร่างที่ไร้ศีรษะของเขาสั่นสองครั้งก่อนที่จะล้มลง
เมื่อเห็นฉากนี้ หนังศีรษะของทุกคนก็ชาวาบ!
องค์รัชทายาทผู้ไร้ค่าที่เคยหมกมุ่นอยู่แต่กับสุราเคล้านารีทุกเมื่อเชื่อวันตลอด บัดนี้กำลังสังหารคนโดยมิแม้แต่กะพริบตา!
ความแตกต่างนี้ทำให้พวกเขาหวาดกลัวจริง ๆ
หลังจากที่ฉินหงฟื้นจากอาการตกใจ เขาก็ตะโกนถามว่า “ฉินซู เจ้าสังหารหัวหน้าองครักษ์ของตัวข้าด้วยเหตุใด?”
ฉินซูพูดอย่างเย็นชา “หึ กล้าถืออาวุธต่อหน้าข้า เหตุใดเล่า พวกเจ้าคิดจะกบฏรึ?”
เมื่อได้ยินสิ่งนี้ องครักษ์คนอื่น ๆ ก็รีบโยนดาบในมือทิ้งไป พลันคุกเข่าลงพร้อม ๆ กัน
ฉินซูยกดาบขึ้นฟาดฟันคนเหล่านั้น
คนที่เหลือต่างหวาดกลัวจนหน้าซีด และร้องขอความเมตตาซ้ำแล้วซ้ำเล่า
“องค์รัชทายาท โปรดไว้ชีวิตข้าน้อยด้วยเถิด ข้าน้อยผิดไปแล้วพ่ะย่ะค่ะ”
“ใช่แล้ว องค์รัชทายาท พวกเราเห็นพระองค์ทรงเอาดาบจ่อที่คอของท่านอ๋องฉี พวกเราหุนหันพลันแล่นจึงชักดาบออกมาโดยมิคิด พวกเรามิได้จะดูหมิ่นพระองค์แม้แต่น้อยพ่ะย่ะค่ะ”
ฉินซูตะคอกเบา ๆ “หึ ครั้งนี้ตัวข้าจะมิทำเยี่ยงเดิมให้พวกเจ้าเห็น หากมีครั้งหน้า ตายสถานเดียว!”
“ขอบพระทัยองค์รัชทายาท ขอบพระทัยองค์รัชทายาทที่ไว้ชีวิตข้าน้อยพ่ะย่ะค่ะ”
เหล่าองครักษ์โขกหัวคำนับซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ฉินหงกัดฟันพูดอย่างดุ ๆ “ฉินซู ปล่อย…”
ก่อนที่เขาจะพูดจบ ดาบในมือของฉินซูก็ถูกวางลงบนคอของเขาอีกครั้ง
เขาตกใจมากจนกลืนคำพูดกลับไป
หลินซีเตือนอย่างสั่นเทา “องค์รัชทายาท ท่านทั้งสองเป็นพี่น้องกัน ท่านมิอาจหุนหันพลันแล่น โปรดวางดาบลงเถิดพ่ะย่ะค่ะ มิเช่นนั้นจะเป็นการยากที่จะรายงานต่อองค์จักรพรรดิหนาพ่ะย่ะค่ะ”
ฉินซูเยาะเย้ยอย่างสงบ “หากเสด็จพ่อตำหนิข้า ตัวข้าจะมีข้อแก้ตัวเอง!"
“ส่วนเจ้า ฉินหง ในแง่ของความอาวุโส ตัวข้าเป็นพี่ของเจ้า ในแง่ของสถานะ ตัวข้าเป็นองค์รัชทายาทแห่งตำหนักบูรพา”
“เจ้ามิทำความเคารพเมื่อเห็นข้า อีกทั้งยังกล้าปล่อยให้ผู้ใต้บังคับบัญชาของเจ้าจ่อดาบใส่ข้า เป็นเพราะเจ้ามิอยู่ในตำแหน่งจวิ้นอ๋อง เลยมิต้องทำความเคารพข้าหรือไร”
หลังจากได้ยินคำพูดของฉินซูแล้วฉินหงและหลินซีก็ตกตะลึง
หากพวกเขามิได้เห็นด้วยตาตนเอง พวกเขาคงไม่มีวันเชื่อว่า คำพูดเช่นนี้จะออกมาจากปากขององค์รัชทายาทไร้ค่าผู้นี้
ตามมารยาทแม้แต่องค์ชายรุ่นเดียวกันก็ต้องโค้งคำนับเมื่อพบกับองค์รัชทายาท
ในเวลานี้ แม้แต่เด็กอายุสามขวบก็ยังเข้าใจอารมณ์ที่ปะปนอยู่ในแววตาของหลินชิงเหยาได้
ฉินหงระงับความโกรธและพูดว่า “ชิงเหยา บอกข้าสิ เจ้าอยู่กับฉินซู…”
“ใช่! หากท่านต้องการจะฆ่าหม่อมฉันก็ทำเลยเถิด หากไม่ หม่อมฉันก็ขอทูลลา”
หลินชิงเหยามองไปที่ฉินหงอย่างเย็นชา
ก่อนหน้านี้นางรู้สึกผิดกับฉินหง ทว่าหลังจากที่ฉินหงชักดาบออกมาใส่นาง หัวใจของนางก็ได้ตายไปแล้ว
ฉินหงโกรธมากจนตัวสั่นด้วย เขากำหมัดกำแน่น
หลินชิงเหยาเหลือบมองเขา จากนั้นก็หันหลังเดินออกไปอย่างเด็ดเดี่ยว
ฉินหงคำรามอย่างมิเต็มใจ “เหตุใด เหตุใดเจ้าจึงทรยศตัวข้า!”
“เพราะตั้งแต่แรกเริ่ม ท่านปฏิบัติต่อหม่อมฉันเหมือนเบี้ยที่จะถูกทิ้งเมื่อใดก็ได้ หากท่านมีหม่อมฉันอยู่ในใจจริง ๆ ท่านจะมิยอมใช้หม่อมฉันเป็นกับดักสำหรับองค์รัชทายาท”
เมื่อหลินชิงเหยาพูดจบ ร่างนั้นก็หายไปจากสุดสายตาของฉินหง
ฉินหงโกรธจนเลือดขึ้นหน้า
ไหล่ของเขาสั่นอย่างควบคุมมิได้ เห็นได้ชัดว่าเขาพยายามอย่างเต็มที่เพื่อระงับความโกรธที่โหมกระหน่ำในใจ
หลินซีรีบปลอบใจ “ท่านอ๋อง ชิงเหยาแค่พูดด้วยความโกรธ โปรดอย่าได้ใส่พระทัยเลยพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมจะลองโน้มน้าวนางอีกครั้ง นางจะต้องเปลี่ยนใจเป็นแน่พ่ะย่ะค่ะ”
“มิจำเป็น! ด้วยสถานะของตัวข้า ยังต้องกังวลเรื่องไม่มีสตรีด้วยรึ? แต่ตัวเจ้า ใต้เท้าหลิน ตอนนี้บุตรีของเจ้าหันมาต่อต้านข้าแล้ว เจ้าในฐานะบิดา เจ้ามิควร... “
ก่อนที่เขาจะพูดจบหลินซีก็คุกเข่าลงและอธิบายอย่างจริงจัง
“ท่านอ๋อง กระหม่อมภักดีต่อท่านอย่างสุดหัวใจ ชัดเจนดั่งพระอาทิตย์และพระจันทร์ เหตุผลที่ชิงเหยาเป็นแบบนี้ก็เพราะว่านางยังเด็กและโง่เขลา ท่านอ๋อง องค์รัชทายาทจะถูกปลดก่อนถึงวันซุนเฟินในปีหน้า มิว่ากระหม่อมจะโง่เพียงใด กระหม่อมก็ไม่มีวันอยู่ข้างองค์รัชทายาทเป็นแน่”
อารมณ์ของฉินหงผ่อนคลายเล็กน้อย จากนั้นก็ถามว่า “ข้อตกลงกับชิ่งกั๋วกงเป็นอย่างไรบ้าง?”
“ท่านอ๋องโปรดวางพระทัย ชิ่งกั๋วกงได้เตรียมการทั้งหมดแล้ว และเซี่ยหลานก็เห็นด้วย ตอนนี้ทุกอย่างพร้อมแล้ว เพียงรอช่วงเวลาที่เหมาะสม!!"
“เซี่ยหลานผู้นั้น นางจะมิเป็นเหมือนบุตรีของเจ้ารึ?”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน