เฉินฮวนฮวนไม่อยากไปเลยสักนิด เพราะเธอไม่อยากเห็นเฟิงหานชวน
ฉากที่หลีซืออวิ๋นอยู่ในอ้อมกอดของเฟิงหานชวน ยังคงตราตรึงอยู่ในห้วงความทรงจำของเธอ
“เฉินฮวนฮวน มานี่เร็ว!” เมื่อเฉินเฟยหยางเห็นเฉินฮวนฮวนยังคงอึ้งอยู่ตรงนั้น จึงตะโกนเรียกเสียงดัง
เฉินฮวนฮวนจึงได้สติกลับมา จากนั้นก็เดินไปหาเฉินเฟยหยางภายใต้สายตาของทุกคน
ภายใต้สถานการณ์แบบนี้ เธอต้องไปห้องทำงานของคุณหนีซวง ไม่อย่างนั้นต้องถูกทุกคนสงสัยอย่างแน่นอน
เธอ จำใจต้องไปเจอเฟิงหานชวน ไม่มีทางเลือกอื่น
หลังจากที่เธอก้าวตรงไปยังประตูห้องทำงานได้เพียงแค่ 2 ก้าว จู่ ๆ ก็เหมือนจะคิดอะไรได้ จึงหันหน้าไปพูดกับติงเซียงว่า : “เซียงเซียง เดี๋ยวหยางหยางจะมาหาพวกเรา คุณกลับไปกับเธอก่อนนะ ฉันไม่รู้ว่าต้องกรอกเอกสารถึงตอนไหน”
เฉินฮวนฮวนสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ เธอเตรียมตัวเจรจากับเฟิงหานชวนเรียบร้อยแล้ว
ในเมื่อเฟิงหานชวนมีหลีซืออวิ๋นอยู่แล้ว สิ่งที่เรียกว่าการอยู่ก่อนแต่งหรือว่าการแต่งงานระหว่างพวกเขาสองคนควรจะสิ้นสุดลงได้แล้ว
เมื่อกำชับกับติงเซียงแล้ว เฉินฮวนฮวนก็รีบวิ่งไปหาเฉินเฟยหยางทันที และพูดกับเขาว่า : “เฉินเฟยหยาง ฉันไปเองได้ ดึกขนาดนี้แล้ว คุณรีบกลับไปพักผ่อนเถอะ”
พนักงานทุกคนจะอยู่ในหอพักของค่าย รวมทั้งทีมออกแบบท่าเต้น ทีมโลจิสติกส์และทีมกล้อง เป็นต้น ที่ต้องให้ทีมออกแบบท่าเต้นอยู่ประจำการก็เพื่อจะได้รู้ถึงสถานการณ์ของเด็กฝึกได้อย่างสะดวกยิ่งขึ้น ส่วนทีมกล้องก็เพื่อจับภาพที่น่าสนใจของการฝึกในค่าย
ถึงแม้จะบอกว่าเด็กฝึกทั้งหมดจะมีแค่ 100 คนก็ตาม แต่ถ้ารวมครูฝึก ไหนจะพนักงานในทีมอื่น รวมทั้งคุณป้าทำความสะอาดและแม่ครัวทำในครัวบางส่วน รวม ๆ แล้วก็ประมาณ 200 คนเห็นจะได้ ซึ่งถือว่าเป็นจำนวนที่ค่อนข้างเยอะมากทีเดียว
“ผมกลัวว่าผู้อำนวยการหนีจะกล่าวหาว่าผมทำงานไม่ได้เรื่อง ผมถึงต้องไปส่งคุณ” เฉินเฟยหยางพูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม จากนั้นก็ผายมือออกไป
เฉินเฟยหยางยังอ่อนต่อโลกมาก แถมยังเป็นแค่นักศึกษาฝึกงานด้วย เอกสารการฝึกงานจำเป็นต้องมีลายเซ็นของคุณหนีซวง ดังนั้นคุณหนีซวงจึงชอบไหว้วานให้เฉินเฟยหยางไปจัดการธุระต่าง ๆ มาโดยตลอด
ถึงแม้ว่าเขาจะกลัวคุณหนีซวงก็ตาม แต่ก็ไม่ถึงขนาดนี้ ที่เขามาส่งเฉินฮวนฮวนที่ห้องทำงาน เพียงแค่อยากจะหาโอกาสคุยกับเฉินฮวนฮวนสักสองสามประโยคเท่านั้น
จริง ๆ แล้วตอนที่เขาอยู่ในค่าย ก็ไม่ได้ยุ่งมาก บางครั้งก็ว่างเสียจนน่าเบื่อ แต่เฉินฮวนฮวนนั้นยุ่งมาก เพราะเด็กฝึกจะต้องเข้าฝึกซ้อมตามตารางทุกวัน เขาแทบจะหาโอกาสเข้ามาคุยกับเฉินฮวนฮวนไม่ได้เลย
“คุณส่งฉันแค่ตรงบันไดก็พอค่ะ” เฉินฮวนฮวนแค่คิดว่าเฉินเฟยหยางอาจจะถูกตำหนิ จึงอยากให้เขาส่งตัวเองที่ชั้น 5 ก็พอ
ห้องเรียนของเฉินฮวนฮวนอยู่บนชั้น 2 ห้องทำงานของคุณหนีซวงอยู่ชั้น 5 ดังนั้นขึ้นบันไดไปอีกนิดเดียวก็ถึงแล้ว
“เฉินเฟยหยาง ฉันไปเองได้ คุณรีบกลับไปเถอะ ดึกมากแล้ว” เมื่อเฉินฮวนฮวนเดินมาถึงหน้าบันไดของชั้น 5 ก็รีบหมุนตัวกลับมาโบกมือลากับเฉินเฟยหยางทันที
เฉินเฟยหยางพูดอย่างไม่ยอมลดละ : “ให้ผมอยู่รอคุณดีไหม ท้องฟ้าก็มืดแล้ว คุณกลับไปคนเดียวไม่กลัวเหรอครับ?”
ตึกเรียนและห้องพักของเด็กฝึก ใช้เวลาเดินเพียงแค่ 5 นาทีเท่านั้น ซึ่งถูกคั่นกลางด้วยโรงอาหาร แล้วก็ยังมีพื้นที่สีเขียวที่ปกคลุมไปด้วยต้นไม้ เห็นได้ชัดว่าเวลากลางคืนมืดมากขนาดไหน
“ไม่เป็นไรหรอก ทางแค่นี้เอง ฉันไม่กลัวหรอก! ฉันเดินกลางคืนบ่อยจะตายไป แล้วฉันก็ไม่รู้ด้วยว่าจะได้กลับตอนไหน คุณรีบกลับไปพักผ่อนเถอะ” เฉินฮวนฮวนรู้สึกว่าเฉินเฟยหยางนั้นใจดีมาก ดูแลเด็กฝึกผู้หญิงเป็นอย่างดี เป็นผู้ชายที่มีความสุภาพบุรุษมาก
แต่ว่า เธอไม่จำเป็นต้องให้เฉินเฟยหยางต้องมาปกป้อง เพราะเธอเคยทำงานพาร์ทไทม์ในรอบดึกมาก่อน จึงมักจะเดินทางในตอนกลางคืนบ่อย ๆ แต่ตอนนี้เธออยู่ในค่ายแล้ว ไม่จำเป็นต้องเป็นกังวลเรื่องคนโรคจิตอีกแล้ว
“คุณไปกรอกเอกสารก่อนเถอะ รีบกรอกให้เสร็จแล้วรีบกลับไปพักผ่อน คุณฝึกมาทั้งวันแล้วคงจะเหนื่อยแย่” เฉินเฟยหยางรู้สึกว่าเฉินฮวนฮวนในสัปดาห์นี้ ผอมลงมากทีเดียว
เขารู้ว่าความเข้มงวดในการฝึกของที่นี่นั้นโหดมาก อีกทั้งตอนนี้ก็ยังเหลือเวลาอีก 1 สัปดาห์เท่านั้น ครูหลายท่านต้องเพิ่มระดับความยากให้กับเด็กฝึกมากขึ้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อ้อนรัก คุณภรรยาคนสวย