เมื่อได้ยินคำอธิบายของเฉินฮวนฮวน เฟิงเหลยถิงซึ่งนั่งอยู่ในที่นั่งหัวโต๊ะก็พยักหน้าอย่างพึงพอใจ ในสายตาของเขามีแต่ความชื่นชมและเห็นด้วย
ในช่วงเวลานี้ ทุกครั้งที่เขาคิดถึงเรื่องนี้ เขารู้สึกว่าการตัดสินใจตามอำเภอใจของเขานั้นถูกต้องเป็นพิเศษ
และเป็นเพราะความหุนหันพลันแล่นของเขาในขณะนั้น ถึงช่วยส่งเสริมให้ลูกชายคนที่สามของเขาเฟิงหานชวน และลูกสะใภ้คนที่สามเฉินฮวนฮวนมีช่วงเวลาแต่งงานที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้
“เอาล่ะ ไม่ต้องหารือเรื่องนี้อีก อย่างไรฮวนฮวนก็ยังเรียนมหาวิทยาลัยอยู่และยังต้องเข้าร่วมการประกวด อยากมีลูกต้องรอเรียนจบก่อนค่อยมาหารือเรื่องนี้”
เฟิงเหลยถิงเป็นคนเริ่มเปิดหัวข้อสนทนา และถามลูกชายคนโตว่า "เจิ้งหมิง โครงการใหม่ของบริษัทตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง?"
“พ่อครับ โครงการกำลังดำเนินไปได้ด้วยดี ผมคิดว่าไม่น่ามีปัญหาอะไร ผลกำไรน่าจะเป็นไปตามที่คาดไว้” เฟิงเจิ้งหมิงตอบทันที
ด้วยวิธีนี้ หัวข้อนี้จึงถูกดึงเข้าไปยังเฟิงซื่อกรุ๊ป เฉินฮวนฮวนฟังไม่เข้าใจและไม่ต้องการฟัง ดังนั้นเธอจึงทานผักใบเขียว ยาสมุนไพรป่าและพวกอาหารมังสวิรัติเอง
หลินเจินนั่งเยื้องๆฝั่งตรงข้ามกับเฉินฮวนฮวนพอดี เธอมองไปที่เฉินฮวนฮวนเป็นระยะๆตลอดเวลา และพบว่าเฉินฮวนฮวนไม่ทานเนื้อหมูตุ๋นที่แม่บ้านหลี่ทำเลยสักคำ และเธอก็กินแต่อาหารมังสวิรัติจืดๆ
เมื่อเธอเห็นว่าเฉินฮวนฮวนผอมมาก เธอจึงเริ่มคีบน่องไก่ชิ้นหนึ่งให้เฉินฮวนฮวนและกล่าวว่า “เด็กผู้หญิงยังคงลดน้ำหนักอยู่ ก็ยังต้องทานอาหารพวกที่มีโปรตีนจากเนื้อสัตว์ มีประโยชน์ต่อสุขภาพร่างกาย"
เฉินฮวนฮวนตกใจกับน่องไก่ที่จู่ๆ ก็โผล่มาในชาม น่องใหญ่ขนาดนี้ ชิ้นใหญ่กว่าชิ้นหมูตุ๋นมาก
เมื่อเห็นเฉินฮวนฮวนตะลึงเล็กน้อย เฟิงหานชวนคิดถึงการสนทนาระหว่างทั้งสองเมื่อเขาอยู่ในห้องน้ำ และพูดอย่างเย็นชาว่า "ฮวนฮวนไม่ชอบทานน่องไก่"
เขายื่นตะเกียบออกและกำลังจะคีบน่องไก่ แต่ถูกเฉินฮวนหวนที่คืนสติหยุดไว้
“พี่สะใภ้รองหวังดี ฉันไม่เลือกทานหรอก ฉันทานได้หมด” เฉินฮวนฮวนยิ้มให้เฟิงหานฉวน จากนั้นก็หยิบตะเกียบ กัดน่องไก่คำหนึ่งแล้วยกศีรษะมองไปที่หลินเจินและรีบกล่าวคำขอบคุณ
เฟิงหานชวนขมวดคิ้วและพูดด้วยน้ำเสียงที่เข้มว่า “ในเมื่อคุณไม่อยากทาน ก็ไม่ต้องทาน”
น้ำเสียงของเขาจริงจังจนทุกคนในที่นั้นตกตะลึง
“อาหาน!” เฉินฮวนฮวนรีบหยิกแขนเฟิงหานชวน และพูดทันทีว่า: “ฉันอยากทาน ฉันจะทานเดี๋ยวนี้”
ด้วยความที่ทุกคนต่างจ้องมองมาที่พวกเขา และในโอกาสที่สำคัญเช่นนี้ เฉินฮวนฮวนไม่ต้องการให้ตัวเองเป็นสาเหตุที่ทำให้เสียบรรยากาศ
รอสักประเดี๋ยวเธอต้องพูดกับเฟิงหานชวนหน่อย หลินเจินก็เพราะหวังดีถึงได้คีบน่องไก่ให้เธอ หากไม่ใช่เพราะเธอหยุดยั้งไว้ทันเวลา เฟิงหานชวนจะทำให้เธอหาทางลงไม่เจอ
เพียงแต่ว่า เมื่อเธอคิดถึงเรื่องนี้เสร็จ เสียงเย็นชาของเฟิงหานชวนรวมกับความโกรธ: “ถ้าคุณอยากทานจริงๆ เมื่อครู่ตอนที่คุณคีบผัก น่องไก่ชามเบ้อเร่อ ตะเกียบทำไมไม่แตะสักหน่อย? "
“…” เฉินฮวนฮวนตะลึงทันที
เธอควรต่อบทสนทนานี้อย่างไร? เธอรู้สึกว่าEQ ของเฟิงหานชวนต่ำไปหน่อย
ก่อนที่เธอจะเอ่ยปาก หลินเจินรีบหยิบน่องไก่ในชามกลับอย่างรวดเร็วและรีบอธิบายอย่างรวดเร็ว: “ฉันก็แค่หวังดีอยากให้ฮวนฮวนทานมากหน่อย ไม่รู้ว่าฮวนฮวนไม่ทานน่องไก่ ฉันขอโทษนะฮวนฮวน ....... "
หลังจากที่หลินเจินขอโทษ ก็ถูกสามีของตัวเองเฟิงเจิ้งซวินจ้องตาเขม็ง ใบหน้าของเธอแดงทำอะไรไม่ถูก
เมื่อเจอสถานการณ์แบบนี้ เฉินฮวนฮวนรีบแก้ตัว: “พี่สะใภ้รอง คุณหวังดีกับฉัน ขอบคุณมากจริงๆ เพียงแต่วันนี้ฉันรู้สึกไม่ค่อยสบาย และไม่สามารถทานอาหารที่มีกลิ่นฉุนได้ ฉันจึงทานแต่มังสวิรัติ ไม่ได้จงใจลดน้ำหนัก"
สถานการณ์ในตอนนี้ ทำให้เธอไม่สามารถอาการของเธอไว้ได้ เธอจึงตอบตามความเป็นจริง
“ฮวนฮวน คุณอยากอาเจียนหลังจากดมอาหารที่มีกลิ่นฉุนใช่ไหม?” ซ่งหวั่นโหรวพูดแทรกขึ้นมาในเวลานี้
“อืม ใช่แล้ว” เฉินฮวนฮวนพยักหน้า
“คุณเข้ามาในบ้านตระกูลเฟิงเกือบเดือนแล้วใช่ไหม?” ซ่งหวั่นโหรวถามอีก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อ้อนรัก คุณภรรยาคนสวย