ในแก้วทรงสูงก้านยาวยังมีของเหลวสีไวน์แดงที่ยังดื่มไม่หมด
“ไวน์…แดง?” ความงุนงงปรากฎขึ้นบนใบหน้าของเป๋าฮวน แน่นอนว่าเธอพยักหน้าตอบ “มีค่ะ!”
นี่เธอไม่ได้กำลังดื่มอยู่หรอกเหรอ แน่นอนว่าต้องมีไวน์แดงสิ นี่เฟิงหานชวนไม่ได้ถามไร้สาระใช่ไหม
“ผมขอยืมสักแก้วได้ไหม” เฟิงหานชวนเลิกคิ้วเล็กน้อย เสียงทุ้มต่ำค่อยๆ เอ่ยทำลายความเงียบยามค่ำคืน
บรรยากาศราวกับถูกแช่เเข็งไปหลายวินาที เมื่อเป๋าฮวนได้สติกลับมา ความงุนงงยิ่งฉายชัดออกมาให้เห็นบนใบหน้าของเธอ “ยืม…ไวน์แดง?”
“ดึกมากแล้ว ผมขี้เกียจติดต่อพนักงานของโรงแรมอีก สู้ยืมคุณสักแก้วดีกว่า?” ใบหน้าของเฟิงหานชวนสงบนิ่งมาก ราวกับไม่รู้สึกว่าไม่สมควรทำแต่อย่างใด
เป๋าฮวนถามโดยไม่รู้ตัว “คุณก็นอนไม่หลับเหรอคะ”
เฟิงหานชวนผงะไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็ตอบกลับไปว่า “ครับ”
“โอเค งั้นคุณรอฉันตรงนี้” เป๋าฮวนครุ่นคิดอยู่หลายวินาที ก่อนจะพยักหน้าเป็นเชิงตกลง
“ครับ” หลังจากเฟิงหานชวนเอ่ยตอบ เขาก็หันหลังหายไปในความมืด
เมื่อเป๋าฮวนรู้สึกตัวอีกครั้ง ทันใดนั้น เธอตระหนักได้ถึงความวู่วามของตัวเอง ทำไมเธอถึงยอมให้เฟิงหานชวนยืมไวน์แดง
คุยกันแล้วว่าให้ทำเหมือนคนแปลกหน้าไม่ใช่เหรอ ทำไมเฟิงหานชวนถึงมาถามขอยืมไวน์แดงกับเธอ
นี่มันอะไรกันเนี่ย
“แปะ” เธอตบแก้มของตัวเองเบาๆ เธอรู้สึกเจ็บเล็กน้อย นี่ไม่ใช่ความฝัน แต่เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริง
ช่างเถอะ ช่างเถอะ แค่ไวน์แดงเเก้วเดียวเองไม่ใช่เหรอ ไม่มีอะไรนี่ ยืมแล้วก็ยืมไปสิ
ขณะที่เป๋าฮวนกำลังคิดอะไรอยู่ เสียงเคาะประตูก็ดังเข้ามาข้างใน เธอรีบออกไปเปิดประตู
ทันทีที่เปิดประตู เป๋าฮวนเห็นเฟิงหานชวนยืนอยู่หน้าประตู เขายังคงอยู่ในชุดนอนสีน้ำเงินเข้มตัวเดิม รังสีแห่งความสูงส่งแทบจะกระแทกใบหน้าของเธอเลยทีเดียว
ภายใต้แสงไฟสีส้มที่สาดส่องลงบนโถงทางเดิน ราวกับพระเจ้าย่างกรายมาก็ไม่ปาน
เป๋าฮวนกำลังตกอยู่ในภวังค์ของตัวเอง จนกระทั่งเสียงทุ้มต่ำของชายหนุ่มดังขึ้น “สะดวกให้ผมเข้าไปไหม”
“หะ?” เป๋าฮวนได้สติกลับมาทันที เธอถอยหลังไปสองก้าว ก่อนจะเม้มปากแล้วกล่าวว่า “เข้ามาสิ”
เธอกล่าวพร้อมกับเดินนำเฟิงหานชวนไปที่ตู้เก็บไวน์ และมาหยุดยืนอยู่ข้างตู้เก็บไวน์ เธอกล่าวว่า “ในนี้มีไวน์แดงหลายขวด คุณเลือกได้ตามใจเลย”
เฟิงหานชวนไม่ลังเลที่จะหยิบขวดไวน์แดงที่เป๋าฮวนเปิดไว้แล้วขึ้นมา จากนั้นก็หยิบแก้วทรงสูงก้านยาวใบใหม่มาหนึ่งใบ หลังจากล้างทำความสะอาด ก็เทไวน์ลงในแก้ว
เขาถือแก้วทรงสูงในมือพร้อมกับนั่งลงบนโซฟา ก่อนจะยกขาข้างหนึ่งขึ้นด้วยท่าทางเกียจคร้านสุดขีด
เป๋าฮวนอยากจะเอ่ยปากไล่แขกผู้มาเยือน เมื่อเห็นว่าเฟิงหานชวนราวกับเป็นเจ้าของบ้าน กวัดแกว่งแก้วไวน์แดงในมือเบาๆ จากนั้นก้มลงแตะริมฝีปากที่ขอบแก้ว แล้วจิบไปอึกหนึ่ง
การเคลื่อนไหวของเขาดูไหลลื่นเป็นธรรมชาติ ทั้งยังเต็มไปด้วยความสง่างาม ไม่มีข้อบกพร่องใดๆ เลยแม้แต่น้อย ทำให้คนอดไม่ได้ที่จะจ้องมองเขาตลอดเวลา
เป๋าฮวนก็ไม่มีข้อยกเว้น
จนกระทั่งเฟิงหานชวนเหลือบตาขึ้นมองเธอ เธอถึงได้รู้ว่าตัวเองลืมตัวจนเสียกิริยา จึงรีบกล่าวว่า “ฉันยกขวดนี้ให้คุณเลย คุณเอากลับไปดื่มเถอะ!”
“คุณเป๋า คุณรังเกียจผมขนาดนี้ เพราะว่าก่อนหน้านี้ผมจำคนผิด และลวนลามคุณใช่ไหม” เฟิงหานชวนวางแก้วลงบนโต๊ะกาแฟ สองมือสอดประสานกุมกันไว้ด้วยท่าทีสบายๆ
“…” เป๋าฮวนชะงักไปครู่หนึ่ง เธอไม่คิดว่าจู่ๆ เฟิงหานชวนจะถามเธอแบบนี้
เธอทำสีหน้าเรียบนิ่ง ก่อนจะพยักหน้าตอบ “ใช่”
เหตุผลที่ตอบเช่นนี้ เพราะว่าเธอทำได้เพียงยอมรับเช่นนี้ ไม่อย่างนั้นเธอจะไม่สามารถอธิบายได้ว่าทำไมเธอถึงเกลียดเฟิงหานชวน
“เรื่องนี้เป็นเรื่องเข้าใจผิด ผมเคยขอโทษคุณไปแล้ว” เฟิงหานชวนชะงักไปหลายวินาที ก่อนจะตอบเสียงเบา
เป๋าฮวน “???”
นี่เฟิงหานชวนหมายถึงอะไร เขาอยากจะตีสนิทเธอเหรอ
ได้เลย เธอก็อยากจะเห็นเหมือนกัน เขาจะใช้ลูกไม้อะไรกันแน่!
“คุณเฟิงบอกว่า อยากทำกับฉันเหมือนคนแปลกหน้าไม่ใช่เหรอคะ ทำไมจู่ๆ ถึง…” เป๋าฮวนพิงกำแพง จงใจจัดท่าตัวเองให้ดูมีเสน่ห์ยั่วยวน และมองไปที่เฟิงหานชวนด้วยสายตาหยาดเยิ้ม
น้ำเสียงสะบัดสะบิ้งเสียเหลือเกิน
เธอจงใจทำ
ทันใดนั้น เฟิงหานชวนถึงกับสำลักออกมา แต่ก็กลับคืนสู่สภาวะปกติในทันที ไม่ได้ถูกเป๋าฮวนจับพิรุธได้แต่อย่างใด
เขายิ้มน้อยๆ แล้วตอบด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง “ไม่มีอะไร แค่ในฐานะเพื่อนบ้านเท่านั้น ผมหวังว่าความสัมพันธ์ของเราจะผ่อนคลายลงบ้าง คนแปลกหน้าดูจะใจจืดใจดำไปหน่อย”
“เพื่อนบ้าน?” เป๋าฮวนสับสน
“คุณกับผมอยู่ชั้นเดียวกัน แถมยังอยู่ห้องข้างกัน ไม่ใช่เพื่อนบ้านแล้วจะเป็นอะไร” เฟิงหานชวนถาม
“คุณ…อยู่ที่นี่ตลอดเลยเหรอ” เป๋าฮวนยิ่งงุนงงหนักไปอีก
“ที่นี่ใกล้กับบริษัทของผมมาก ถ้าสะดวกผมจะอยู่ประจำที่นี่เลย” เฟิงหานชวนตอบ
“โอ้ แต่เราน่าจะนับว่าเป็นเพื่อนบ้านกันไม่ได้ เพราะว่าอีกไม่นานฉันอาจจะไปจากที่นี้แล้ว” เป๋าฮวนม้วนผมลอนยาวของตัวเองเล่น
เมื่อได้ฟังประโยคนี้ เฟิงหานชวนยกแก้วขึ้น แล้วดื่มของเหลวสีไวน์แดงในแก้วจนหมด นัยน์ตาฉายแววเย็นเยือก จ้องเขม็งไปข้างหน้าอย่างเงียบๆ
เมื่อเห็นท่าทีของเขา เป๋าฮวนก็หัวเราะเบาๆ และอดไม่ได้ที่จะถามว่า “นี่คุณไม่อยากให้ฉันไปเหรอ”
หลังจากที่เธอถามจบ เฟิงหานชวนเงียบไม่ตอบอะไร ทว่าเขาก้มหน้าลงเล็กน้อย
ภายในห้องตกอยู่ในความเงียบทันที
เป๋าฮวนขมวดคิ้วเข้าหากัน ไม่แน่ใจว่าเฟิงหานชวนกำลังคิดอะไรอยู่กันแน่ เธอใช้ความกล้าอย่างมาก เดินบิดสะโพกไปหยุดอยู่ด้านข้างชายหนุ่มอย่างช้าๆ
เฟิงหานชวนนั่งบนโซฟา เธอนั่งบนโต๊ะกาแฟตรงข้ามกับเขา ก่อนจะถามเสียงหวานหยด “คุณเฟิง ทำไมคุณ…ไม่ตอบล่ะ หรือว่าจริงๆ แล้ว…”
“ใช่ ผมไม่อยากให้คุณไป” ทันทีที่ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้น ขอบตาของเขาแดงก่ำ
ร่างทั้งร่างของเป๋าฮวนนิ่งค้างไป
วินาทีต่อมา ฝ่าใหญ่อุ่นร้อนของชายหนุ่มก็คว้าหมับที่ข้อมือของเธอไว้ก่อนจะออกเเรงดึง เธอถูกชายหนุ่มดึงเข้ามาอยู่ในอ้อมอกของเขา
“อ๊ะ!” เป๋าฮวนสะดุ้งแล้วร้องขึ้นด้วยความตกใจ
เมื่อเธอตอบสนอง เธอก็อยู่ในอ้อมกอดของเฟิงหานชวนเสียแล้ว เธอนั่งบนตักของเขา ร่างกายส่วนบนของเธอถูกโอบล้อมด้วยแขนยาวสองข้างของเขาอย่างแน่นหนา
“เฟิงหานชวน คุณทำอะไร!” ใบหน้าของเป๋าฮวนบึ้งตึงขึ้น เธอตะโกนเสียงดังใส่ชายหนุ่ม
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อ้อนรัก คุณภรรยาคนสวย