สำหรับฉินฟางฟาง เดิมทีเป๋าฮวนก็ไม่ได้อยู่ในสถานะใดของตระกูลเวิน
ถ้าเวินซือเหยี่ยนหรือตระกูลเวินยอมรับในสถานะของเป๋าฮวน ก็คงจะไม่สามารถปิดบังได้ ถึงอย่างไรสถานะของเวินซือเหยี่ยนก็ไม่จำเป็นต้องเหมือนไอดอลชายเหล่านั้น มีความรักก็คบกันต่อได้
ดังนั้นท่าทางของฉินฟางฟางจึงค่อนข้างดูหมิ่นเล็กน้อย
“ตระกูลเวิน?” เป๋าฮวนหลุดหัวเราะออกมา
เฉียวหว่านอันนั่งอยู่ข้างกายของเป๋าฮวน เมื่อได้ยินคำพูดของฉินฟางฟาง จึงแสดงปฏิกิริยาเหมือนกับเป๋าฮวน หัวเราะเริงร่า จนถึงขนาดเอนกายพิงไหล่ของเป๋าฮวนเลยทีเดียว
“ฮ่า ๆๆ ........ พวกคุณสามคนตลกเกินไปแล้วนะ! พวกคุณหมายถึงฮวนฮวนและซือเหยี่ยน? ความคิดของพวกคุณสร้างสรรค์เกินไปแล้วนะ?” คำพูดของเฉียวหว่านอันเป็นการช่วยเป๋าฮวนปฏิเสธความจริงอย่างเห็นได้ชัด
ใบหน้าของเป๋าฮวนกลับมาเย็นชาอีกครั้ง จากนั้นก็เอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า : “ฉันกับซือเหยี่ยนเป็นเพื่อนกัน ฉันต้องพูดประโยคนี้อีกกี่ครั้งเนี่ย? ฉินฟางฟาง คุณมีจินตนาการขนาดนี้ จะเป็นนักแสดงทำไม สู้ไปเขียนบทประพันธ์ดีกว่ามั้ง?”
“นี่.......” สีหน้าของฉินฟางฟางแข็งทื่อในทันที
อันเยว่และติงเซียงก็เป็น พวกเธอเดาว่าช่วงบ่าย แต่กลับเดาผิดอย่างไม่น่าเชื่อ!
งั้นเป๋าฮวนเป็นอะไรกันแน่เนี่ย?
ในใจของทั้ง 3 คน ราวกับมีมดไต่ตัว ลุกลี้ลุกลนอยู่ไม่ถูก อยากจะให้เป๋าฮวนพูดความจริงออกมาแทบขาดใจ
เป๋าฮวนมองไปทางทั้ง 3 คนด้วยสายตาเรียบเฉย เธอรู้แก่ใจดีว่าพวกเธอ 3 คนกำลังคิดอะไร แต่ก็ไม่ยอมพูด ให้พวกเธอได้ลิ้มลองความขมขื่น
มุมปากยกยิ้ม เธอยกแก้วไวน์ขึ้น และจิบไวน์แดงด้วยท่าทางหยิ่งผยอง
.......
หลังจากที่กินมื้อเย็นเสร็จแล้ว สีหน้าของติงเซียงทั้ง 3 คนไม่ค่อยสู้ดีนัก
ไม่ว่าพวกเธอจะพูดตีวัวกระทบคราดยังไง ตั้งแต่ต้นจนจบเป๋าฮวนก็ไม่ได้ตอบคำถามใด ๆ
การรอให้มื้อค่ำจบลงไม่ใช่เรื่องง่าย ติงเซียงรีบควงแขนของเป๋าฮวนทันที และพูดว่า : “ฮวนฮวน เธอพักอยู่ห้องไหน? ฉันจะไปเที่ยวเล่นห้องของเธอหน่อย”
เป๋าฮวนมองออกว่าเธอยืนข้างอันเยว่และฉินฟางฟาง ไม่ได้สนใจจะมีปฏิสัมพันธ์กับเธออีกแต่อย่างใด
“ขอโทษนะติงเซียง ตอนนี้ไม่มีซีนของฉันชั่วคราว ฉันจะไม่พักโรงแรม อีกสองสามวันถึงจะกลับ” เป๋าฮวนหยิบตารางงานล่วงหน้าขึ้นมา ที่เธอมาครั้งนี้ แค่เพื่อจะเข้าร่วมพิธีเปิดกล้องเท่านั้น
“อ่า! ตอนนี้เธอไม่พักโรงแรมเหรอ? งั้นเธอก็กลับบ้านนะสิ? เธอจะกลับเมืองเป่ยเฉิงใช่ไหม?” ติงเซียงยังคงซักไซ้ถามอย่างไม่มีทีท่าจะหยุด
“อื้อ” เป๋าฮวนตอบกลับไปอย่างไม่ใส่ใจ
เธอไม่ได้ถือกระเป๋าเดินทาง ในมือถือแค่กระเป๋าใบเล็กที่ตัวเองออกแบบใบหนึ่ง ไม่มีโลโก้ใด ๆ
เวลานี้จู่ ๆ โทรศัพท์ในกระเป๋าก็สั่นขึ้น เธอล้วงหยิบออกมาดู ก็เห็นว่าสายที่โทรเข้ามาคือจิ่งมั่ว
จิ่งมั่วต้องถามแน่ว่าตัวเองนั้นเสร็จภารกิจแล้วรึยัง เป๋าฮวนมองไปทางติงเซียงที่ควงแขนตัวเอง จากนั้นก็ตัดสายไป
“ติงเซียง เธอรีบกลับไปพักผ่อนเถอะ ฉันขอตัวกลับก่อน” เป๋าฮวนดึงแขนของตัวเองออก จากนั้นก็เดินไปยังทิศทางของประตูโรงแรม
ติงเซียงไม่มีเหตุผลใดจะตามไป เวลานี้อันเยว่และฉินฟางฟางได้พุ่งตัวออกมาจากมุมกำแพง
ฉินฟางฟางลากแขนของเธอมาถามว่า : “ปล่อยเธอไปได้ยังไง? เธอไปทำอะไร?”
พวกเธอมีความสัมพันธ์ที่ไม่ดีกับเป๋าฮวน ดังนั้นจึงไม่ได้รุดหน้าตามไป เลยสั่งให้ติงเซียงไปถามเป๋าฮวนแทน เพราะต้องซ่อนตัวเว้นระยะ จึงไม่ได้ยินบทสนทนาระหว่างติงเซียงและเป๋าฮวน
“เธอบอกว่าจะกลับเมืองเป่ยเฉิง สองสามวันนี้ไม่มีซีนถ่าย จึงไม่ได้พักอยู่ในโรงแรมชั่วคราว” ติงเซียงตอบความจริงออกไป
“ว่าไงนะ! แล้วคุณถามถึงสามีของเธอว่าเป็นใครรึเปล่า?” ฉินฟางฟางรีบถามขึ้นทันที
“ไม่นะ เธอไม่ยอมบอกฉัน เลี่ยงหัวข้อนี้ตลอด” ติงเซียงเองก็จนปัญญา เธอรู้ว่าเป๋าฮวนต้องบาดหมางกับเธอแน่ ถึงอย่างไรตอนนี้เธอและฉินฟางฟางก็เป็นเพื่อนกัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อ้อนรัก คุณภรรยาคนสวย