ฮั่วเทียนหลันตรงไปที่โรงพยาบาลอย่างรีบร้อน คุณหมอยืนรอรับอยู่ด้านหน้าประตู พอไปถึงมู่เหว่ยก็ถูกส่งตัวไปที่ห้องผ่าตัดโดยทันที
ฮั่วเทียนหลันเดินไปมาอยู่หน้าห้องอย่างเป็นกังวล ขณะนั้นเองมิลลี่ที่ได้รับแจ้งข่าวก็รีบบึ่งมาที่โรงพยาบาล แล้วรีบวิ่งตรงเข้ามาหาเขา
ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความกังวล ก่อนจะเอ่ยถามขึ้นมา : "นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นคะ คุณชายฮั่ว"
ฮั่วเทียนหลันในตอนนี้ไม่ต้องการที่จะถูกรบกวน แต่มิลลี่เป็นผู้ช่วยของมู่เหว่ย เขาจึงทำได้เพียงตอบไปอย่างใจเย็น
สีหน้าของมิลลี่เปลี่ยนไปในพริบตา น้ำเสียงของเธอเศร้าขึ้นมาเล็กน้อย : "ฉันรู้ ... ฉันรู้ว่ามันจะต้องกลายเป็นแบบนี้! ’
ฮั่วเทียนหลันชะงักเท้า เขาฟังออกว่าสิ่งที่มิลลี่พูดขึ้นมานั้นเหมือนจะมีอะไรแอบแฝงอยู่ จึงรีบเอ่ยถามขึ้นมา : "เธอว่ายังไงนะ ตกลงว่ามันเกิดอะไรขึ้น รีบบอกฉันมา!"
ร่างกายของฮั่วเทียนสั่นขึ้นมาราวอยู่ในที่ที่มีอาการหนาวเหน็บ ใจของมิลลี่ก็มีสั่นขึ้นมาเล็กน้อย ก่อนจะหยิบซองจดหมายออกมาจากกระเป๋า แล้วเอ่ยขึ้น : "นี่คือสิ่งที่คุณเหว่ยให้กับฉันไว้ เธอบอกว่าถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับเธอ ให้ฉันส่งมันไปให้คุณ……"
เธอพูดยังไม่ทันจบ ฮั่วเทียนหลันก็แย่งซองจดหมายในมือถือมาทันที เขาเปิดมันออก ก่อนจะกวาดสายตาอ่านอย่างรวดเร็ว ด้วยความรู้สึกที่ตีกันไปหมดอยู่ภายในใจ
"เทียนหลัน เพียงพริบตาเดียวเราก็รู้จักกันมาหลายปีแล้วเนอะ ฉันเคยคิดนะว่าฉันจะได้เป็นภรรยาของคุณ มีลูกที่น่ารักกับคุณ และก็ใช้ชีวิตด้วยกันกับคุณอย่างมีความสุข แต่ราวกับว่าโชคชะตาจะเล่นตลกกับฉัน ฉันไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่า อันหรัน เพื่อนที่ดีที่สุดของฉันกลับกลายมาเป็นภรรยาของคุณแทน ฉันรู้ดีว่าคุณรู้สึกเสียใจที่เข้ามาแทรกแซงตรงกลางระหว่างความเป็นเพื่อนของเรา ทุกครั้งที่เห็นคุณโศกเศร้า ในใจของฉันก็ไม่มีความสุขเอาเสียเลย ฉันอยากจะหนีไปจากคุณให้พ้นๆ แต่กลับทำใจไม่ได้ ทุกครั้งที่เห็นคุณแสดงความเบื่อหน่ายและลำบากใจที่จะต้องเลือก ใจของฉันก็แทบจะแตกสลาย ช่วงนี้ฉันครุ่นคิดอย่างหนักเลยล่ะ คิดเรื่องของเราในอนาคต แล้วก็คิดว่าฉันควรไปที่ไหนดี วันนี้ฉันตัดสินใจดีแล้ว ฉันจะไปคุยกับอันหรันให้รู้เรื่อง ถ้าหากว่าเธอไม่ยอมรับฉัน ฉันก็จะไปให้ไกลที่สุด... "
ข้อความช่วงท้ายๆ ฮั่วเทียนหลันเริ่มจะมองไม่ชัดแล้ว
เขาที่เป็นลูกผู้ชายแข็งแกร่งมาตลอด ในตอนนี้บริเวณรอบดวงตากลับรู้สึกร้อนผ่าวขึ้นมาซะอย่างนั้น
อาจจะเป็นเพราะลมที่โรงพยาบาลค่อนข้างแรงล่ะมั้ง!
เขาหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะเก็บจดหมายที่เขียนโดยมู่เหว่ยใส่กลับลงไปในซองดังเดิม และยัดมันเข้ามาอยู่ในอ้อมแขน
เขาเงยหน้าขึ้น สายตาของเขาเย็นเฉียบอย่างยากจะอธิบาย : "เธอรู้อยู่แล้วว่าถ้ามู่เหว่ยไปจะเกิดอันตรายอย่างงั้นเหรอ"
มิลลี่ตอบกลับไปเสียงเบาและสั่นเล็กน้อย : "ใช่ ใช่ค่ะ... เพราะฉันรู้ดีว่าอันหรันมีนิสัยที่ดุร้ายมาก ทั้งยังจอมวางแผน ดังนั้นจึง... "
"แล้วทำไมเธอถึงไม่ห้าม!” ฮั่วเทียนหลันในตอนนี้มีความรู้สึกอยากจะต่อยคนระบายอารมณ์อยู่เต็มที
"ฉันห้ามแล้ว... แต่ก็ไม่มีประโยชน์ ... เพราะเรื่องของเหลียวซิรง คุณเหว่ยเธอก็มีความกดดันมากพออยู่แล้ว แต่เหลียวซิรงกลับเป็นคนสนิทของอันหรันด้วย ดังนั้นคนของ Fahrenheit Group ก็ไม่สามารถเอาผิดอย่างเป็นกลางได้... คุณเหว่ยเธอพยายามโต้แย้งด้วยเหตุผลอยู่หลายครั้ง แต่เกือบจะโดนแบนซะด้วยซ้ำ!”
มิลลี่ยิ่งพูดเสียงของเธอก็ยิ่งเบาลง จนในที่สุดตอนพูดเรื่องโดนแบนเสียงของเธอก็เบาลงราวกับเป็นเสียงบินของยุงเท่านั้น
ฮั่วเทียนหลันตกใจยิ่งกว่าเดิม เขามองไปที่มิลลี่อย่างเย็นชา แล้วพูดขึ้นเสียงเรียบขลึม : "โดนแบน หมายความว่ายังไง"
มิลลี่ตอบเสียงสั่น : "ตอนนี้คุณเหว่ยไม่มีละครเข้ามาเซ็นสัญญาด้วยเลย แม้ว่าเธอจะยังได้ออกกล้องบ้าง แต่ก็เป็นเพียงโฆษณาเล็กๆน้อยๆเท่านั้น ฉันเคยไปแอบถามมา เขาบอกว่ามีคนสั่งมาอย่างนั้น ดังนั้นก็เลย..."
หมากกระดานนี้ถูกวางอย่างรวดเร็ว ทำให้มิลลี่ยิ่งพูดยิ่งหาจุดลงไม่ได้
แล้วเธอคิดไม่ถึงว่ามู่เหว่ยจะทนไม่ได้จนเริ่มเดินเกมก่อนเวลาที่กำหนดแบบนี้
แค่หวังว่าฮั่วเทียนหลันจะไม่ไปสืบเรื่องนี้ต่อ มิฉะนั้นไม่ช้าก็เร็วความลับจะต้องถูกเปิดเผยออกมาแน่ๆ
หลังจากที่ฮั่วเทียนหลันครุ่นคิดได้สักพัก จึงกดโทรไปหาผู้รับผิดชอบแผนกภาพยนตร์และโทรทัศน์ : "ทำไมต้องแบนมู่เหว่ย"
ทันทีที่มีคนรับสาย ฮั่วเทียนหลันก็เอ่ยถามออกไปอย่างพร้อมจะโจมตีได้ทุกเมื่อ
หยูเหว่ยหัวหน้าแผนกภาพยนตร์และโทรทัศน์รู้สึกตัวสั่นขึ้นมาทันที เรื่องแบนมู่เหว่ยนั้นคือคำสั่งของคุณแม่เขาเอง ผู้ที่ออกคำสั่งแก่เขาได้นั้น ใน Fahrenheit Group มีเพียงแค่สองคนเท่านั้นที่ทำได้
"ท่านประธานฮั่วครับ นายหญิงฮัวคือคนที่สั่งให้พวกเราทำแบบนี้... ท่านเองก็รู้... ”
ปลายสายยังไม่ทันได้เอ่ยจบ ก็มีเสียงแทรกเข้ามาก่อน ฮั่วเทียนหลันจึงกดวางสายทันที
คิ้วของฮั่วเทียนหลันขมวดจนยุ่ง คุณแม่ยื่นมือเข้ามายุ่งอีกแล้วนะ
หรือเป็นเพราะท่าทีของเขาในช่วงนี้ จึงทำให้เธอตัดสินใจที่จะทำให้มู่เหว่ยออกไปจากชีวิตเขา
แต่เมื่อคิดถึงตอนนี้ ฮั่วเทียนหลันกลับรู้สึกว่าไม่น่าจะใช่
เพราะแม่ของเขาทำเรื่องต่างๆด้วยความเหมาะสมมาเสมอ เธอรู้ว่าฮั่วเทียนหลันเกลียดการที่มีคนเข้ามายุ่งเรื่องส่วนตัวเป็นอย่างมาก และยิ่งไม่ยอมให้ใครเข้ามาคุกคามได้โดยเด็ดขาด
เว้นแต่ว่า เธอถูกใครกระตุ้นมาอีกที!
เขาใช้สายตามองไปที่มิลลี่ ก่อนจะเอ่ยขึ้น : "ยังมีเรื่องอะไรที่ปิดบังฉันอีกไหม"
มิลลี่ตัวสั่น เธอเอ่ยขึ้นเบาๆ : "ไม่ ไม่มีค่ะ... แต่ได้ยินคนพูดกันว่า วันนั้นนายหญิงฮัวมาที่โรงพยาบาล เหมือนกับจะพูดอะไรไม่ดีกับคุณเหว่ย...เขาว่ากันว่าเรื่องที่พูดออกมานั้นก็ฟังมาจากคุณหนูฮั่วอีกที... ”
มาที่โรงพยาบาลวันนั้นอย่างงั้นเหรอ
ฮั่วเทียนหลันร่างกายตอบสนองกลับมา ดูเหมือนว่าเรื่องนี้คงจะไม่พ้นอันหรันก่อขึ้นมาอีกแล้วแน่นอน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: โชคชะตาตื้นมาก แต่ความรักนั้นลึกซึ้ง