โชคชะตาตื้นมาก แต่ความรักนั้นลึกซึ้ง นิยาย บท 230

ฮั่วเทียนหลันโกรธถึงขั้นที่ควบคุมตัวเองไม่ได้

ผู้หญิงคนนี้สมองเลอะเลือนไปแล้วหรอ ยังจะมาพูดถึงความรู้สึกปลอดภัยกับเขาอีก?

“นอนดีๆ! ไม่ต้องพูดเรื่องกำไรข้อมือแล้ว ไม่อย่างนั้นฉันจะทำให้มันหายไป!”

คำพูดของฮั่วเทียนหลันทำให้อันหรันทำอะไรไม่ถูก

เธอรีบนอนลงไปนิ่งๆทันที แม้แต่นิ้วยังไม่อยากจะขยับ

อันหรันนอนพักฟื้นอยู่ที่โรงพยาบาลสองวัน ตอนแรกคุณหมอจะให้เธอนอนต่ออีกสักระยะเพื่อรอดูอาการ

เนื่องจากเธอเป็นคนสำคัญ ถ้าหากรักษาไม่ดี อาจจะเป็นปัญหาใหญ่ขึ้นในอนาคต

แต่ว่าอันหรันก็กลัวหลี่รูยาจะรู้เรื่องนี้ ดังนั้นหลังจากที่เธอไปคุณกับคุณหมออย่างเป็นทางการ คุณหมอก็พิจารณาจากผลตรวจสามครั้งล่าสุดของเธอ จึงอนุญาตให้เธอออกจากโรงพยาบาลได้

เมื่อฮั่วเทียนหลันรู้ว่าอันหรันสามารถออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว เขาก็ไม่ได้ปรับเธอด้วยตัวเอง แต่สั่งให้โจวหยวนไปรับแทน

เมื่อโจวหยวนมารับอันหรันแล้ว จึงถามกับเธอว่า “คุณนายต้องการจะไปที่ไหนครับ?”

อันหรันมองไปที่กำไลหยกบนข้อมือของเธอ และบอกที่อยู่ออกมา

โจวหยวนตะลึง แต่แล้วเขาสตาร์ทรถและขับรถไปที่นั่น

เขารู้ว่าสถานที่ที่เธอจะไปคือสุสานของครอบครัวอัน

พอไปถึงจุดหมาย โจวหยวนก็รออยู่ด้านนอกปล่อยให้อันหรันเข้าไปคนเดียว

เมื่อเธอเดินเข้าไปถึงหลุมศพของพ่อแม่ เธอก็คุกเข่าลงและพูดอะไรบางอย่างออกมา

เธอมีความทุกข์มาก อยากจะบ่น แต่ไม่มีคนในครอบครัวของเธออยู่เลย

มีวิธีเดียวที่สามารถทำให้เธอคลายความทุกข์ได้ ก็คือมาที่สุสานของครอบครัวอันและเล่าเรื่องราวทั้งหมดหน้าหลุมฝังศพ

ลมที่พัดอย่างรุนแรงบนภูเขา ทำให้อันหรันรู้สึกเจ็บที่ใบหน้า

หลังจากที่ผ่านไปหนึ่งชั่วโมงครึ่ง เธอก็ออกจากที่นี่

พอกลับมาถึงที่คฤหาสน์ก็พลบค่ำแล้ว

เมื่อเห็นอันหรันกลับมาถึงบ้าน ป้าdingก็รู้สึกแปลกใจเล็กน้อยจึงถามออกมาว่า “คุณนาย ไม่ใช่ว่าคุณออกไปเที่ยวหรอ?”

เพื่อทำให้หลี่รูยาไม่ต้องกังวล อันหรันจึงอ้างว่าเธอไปเที่ยวทางภาคใต้เพิ่งจะกลับมา

“ที่นั่นไม่ค่อยมีอะไรน่าเที่ยว ฉันจึงรีบกลับมา” อันหรันพยายามอย่างที่สุดเพื่อยิ้มออกมากลบเกลื่อน แต่รอยยิ้มนั้นก็ดูฝืนใจเล็กน้อย

ป้าdingตอบรับ แต่เมื่อเธอเห็นท่าทางการขึ้นบันไดของอันหรัน เธอจึงคิดว่ามันแปลกไป

โจวหยวนยังไม่ได้ไปไหน เพราะอาหารเสริมที่ฮั่วเทียนหลันสั่งให้เขาซื้อไว้อยู่บนรถ

แน่นอน ฮั่วเทียนหลันไม่ได้อธิบายอะไร เขาพูดออกมาแค่คำเดียว “ตอนนี้ร่างกายของเธอกำลังอ่อนแออยู่ใช่ไหม?”

ในความเข้าใจของโจวหยวน นี่คือของที่ฮั่วเทียนหลันแอบไปซื้อมาเพื่อบำรุงร่างกายของคุณนาย

ป้าdingจึงเดินเข้าไปหาโจวหยวนแล้วถามออกมาว่า “โจวหยวน คุณนายไปเที่ยวมาจริงๆใช่ไหม?”

โจวหยวนรู้สึกไม่ค่อยสบายใจ แต่เขาก็ทำเกี่ยวกับเรื่องแบบนี้ เขาพบเจอผู้คนมามาก เขาจึงตอบกลับไปว่า “ป้าding ผมไปรับคุณนายมาจากสนามบิน เธอไปเที่ยวที่ไหนบ้างบ้าง ผมเองก็ไม่รู้”

สายตาของป้าdingราวกับสามารถมองเธอจิตใจคนได้ เธอรู้ว่าโจวหยวนพูดออกมาด้วยความไม่สบายใจ

“พวกเธอนี่นะ!”

หลังจากที่โจวหยวนกลับไปได้ไม่ถึงชั่วโมง ฮั่วเทียนหลันก็กลับมา

ตอนนี้ป้าdingกำลังทำอาหารอยู่ อันหรันก็ยังไม่ได้ลงมา

ช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมามีปัญหาเกิดขึ้นมากมาย Fahrenheit Group

ถ้าไม่ใช่เป็นเพราะอันหรันนอนอยู่ที่โรงพยาบาล เขาคงบินไปต่างประเทศไปแล้ว

เขานั่งอยู่ที่โต๊ะอาหาร อันหรันก็ลงมาพอดี

ฮั่วเทียนหลันหันมามองที่อันหรัน แล้วก็ค่อยๆหรี่ตาลง

อันหรันเอากำไลหยกอันนั้นมาใส่ที่ข้อมืออีกแล้ว

หลังจากนั้นไม่นาน ความโกรธที่ไร้ขอบเขตของฮั่วเทียนหลันแทบจะเผาโต๊ะที่เข้านั่งอยู่ให้มอดเป็นเถ้าถ่าน

ทำไมผู้หญิงคนนี้ถึงได้อวดดีนักนะ!

อันหรันสัมผัสได้ถึงสายตาที่มีกลิ่นอายของความตาย เธอจึงนำข้อมือของเธอไขว้ไปไว้ด้านหลัง

ตอนรับประทานอาหาร จากเดิมที่เธอใช้มือขวา แต่ครั้งนี้กลับมาเป็นมือซ้าย

ท่าทางทานข้าวที่น่าเกลียด ทำให้ป้าdingอดไม่ได้ที่ถามออกมา “คุณนาย มือขวาของคุณไปโดนอะไรมาหรือ?”

อันหรันส่ายหัว เธออยากจะพูดออกไปว่าไม่มีอะไร แต่จู่ๆก็ฉุกคิดขึ้นมาได้ถึงท่าทางรับประทานอาหารของเธอ

ดังนั้นจึงตอบกลับไปเบาๆว่า “ป้าding ฉันเจ็บข้อนิดหน่อย อาจจะเป็นเพราะได้รับความเย็นมากเกินไป!”

ป้าdingพูดต่อออกมาด้วยความเป็นห่วง “แบบนั้นก็ต้องรีบไปโรงพยาบาล” ฮั่วเทียนหลันทนไม่ไหว ดวงตาทั้งสองข้างของเขาจ้องเขม่นไปที่อันหรัน

ผู้หญิงคนนี้เป็นคนโง่?

นี่มันคือเหตุผลอะไร? ไปเที่ยวที่ภาคใต้มา อุณหภูมิที่นั่นอยู่ราวๆ 20 องศา แล้วบอกว่ารู้สึกหนาว ไปอาบน้ำเย็นจากที่ไหนมาหรือเปล่า?

หลังจากที่ทานอาหารเสร็จ เดิมทีอันหรันจะต้องช่วยป้าdingเก็บภาชนะ

แต่เธอดันถูกฮั่วเทียนหลันดึงแขน และลากเธอออกไปเดินเล่นด้านนอกด้วยวิธีการที่ดูอ่อนโยน

พอออกมาด้านนอกได้ไม่นาน ฮั่วเทียนหลันก็จับอันหรันไปพิงไว้ใต้ต้นไม้ใหญ่และพูดออกมาด้วยเสียงทุ้มๆว่า “ใครอนุญาตให้เธอใส่มัน?”

ด้วยการกระทำที่ฮั่วเทียนหลันทำกับเธอ จึงทำให้อันหรันรู้สึกกลัว เธอจึงกระซิบออกมาว่า “คุณฮั่ว ฉันเคยพูดไปแล้ว ฉันใส่กำไลหยกวงนี้แล้วฉันรู้สึกปลอดภัย!”

รู้สึกปลอดภัย? ฮั่วเทียนหลันคิดว่ามันน่าหัวเราะ

ในบ้านของเธอ ก็มีสามีอยู่ด้วย เธอยังไม่รู้สึกปลอดภัยอีกหรอ?

นี่ไม่ใช่เธอกำลังจะบอกว่า เธออยู่กับฉันแล้วไม่มีความสุขแบบนั้นหรอ?

“เธอยังสร้างความวุ่นวายไม่พอ?”

ฮั่วเทียนหลันมีเส้นขอบเขตของเขา ดังนั้นเขาจึงไม่อนุญาตให้อันหรันเหยียบเส้นนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า

อันหรันไม่เข้าใจว่าฮั่วเทียนหลันกำลังพูดถึงเรื่องอะไร

เธอได้อธิบายเหตุผลทุกอย่างให้ฮั่วเทียนหลันฟังอย่างชัดเจนแล้ว แต่ทำไมเขายังไม่เชื่อใจเธอ?

ถ้าหากแค่นี้ยังไม่เชื่อ ถ้าอย่างนั้นทุกอย่างที่เธอเคยบอกกับฮั่วเทียนหลันมาหละ เขาจะเชื่อเธอไหม?

อันหรันหุบปากของเธอ เลือกที่จะเงียบ

ด้วยท่าทางที่อันหรันทำ ทำสีหน้าของฮั่วเทียนหลันค่อยๆดุดันมากขึ้นเรื่อยๆ

เขาก้าวออกมาสองก้าว จนหน้าของพวกเขาทั้งสองเกือบจะชิดกันอยู่แล้วพร้อมกับพูดออกมาว่า “เธอชอบกำไลหยกแบบนี้มากหรอ? ฉันสามารถซื้อให้เธอได้ แม้กระทั่งเหมืองหยกก็ซื้อให้ได้ แต่ว่าอันหรัน เธอคือภรรยาของฮั่วเทียนหลัน ตราบใดที่เธอยังยืนอยู่ ณ จุดๆนี้ ฉันก็ไม่อนุญาตให้เธอเอาของที่ผู้ชายคนอื่นให้มาใส่”

อันหรันตกตะลึง แต่เดิมสายตาของเธอที่กำลังมองต่ำ ตอนนี้ค่อยๆแหงนมามองที่หน้าของฮั่วเทียนหลัน

“คุณฮั่ว ฉันเคยบอกกับคุณไปแล้ว กำไลหยกอันนี้เป็น....”

อันหรันยังไม่ทันอธิบายจบ ก็ถูกฮั่วเทียนหลันนำมือขึ้นมาปิดปาก

หน้าของเขามืดมนจนน่ากลัว และพูดออกมาด้วยความโกรธ “ฉันยอมให้เธอมามากละ! อันหรัน เธอคิดอะไรอยู่กันแน่? เธอให้เกียรติผู้ชายคนอื่น แต่กลับมาเหยียบย่ำศักดิ์ศรีของฉัน!”

อันหรันสลัดตัวออก มันไม่ง่ายเลยกว่าเธอจะหลุดออกมาจากเนื้อมือของฮั่วเทียนหลันได้ เธอพูดออกมาว่า “คุณฮั่ว ที่เราคุยกันตอนนั้นมันไม่ใช่แบบนี้ คุณเคยพูด ตราบใดที่ฉันให้คุณ....คุณก็จะให้สร้อยข้อมือกับฉัน”

ทันทีที่เสียงของอันหรันเงียบลง ฮั่วเทียนหลันก็พูดขึ้นมา “ฉันยังไม่ได้ให้กำไลข้อมือกับเธอหรอ?”

อันหรันพูดออกมาโดยไม่รู้ตัว “งั้นฉันจะใส่มัน!”

“ตอนนั้นเราได้พูดถึงเรื่องนี้กันไหม?”

“ยังต้องพูดอะไรอีก?”

“ได้?”

อันหรันตกตะลึง และเธอคิดว่าฮัวเทียนหลันไม่มีเหตุผล

และด้วยความไม่มีเหตุผลของเขา เธอจึงไม่สามารถหาอะไรมาหักล้างได้

ทำได้แค่เงียบ เพื่อต่อสู้กับความไม่มีเหตุผลของฮั่วเทียนหลัน

สิ่งนี้ทำให้ฮั่วเทียนหลันโกรธมากยิ่งขึ้น

เขาดึงมือของอันหรัน จากนั้นเปิดประตูรถและโยนเธอเข้าไป

ถ้าภาษาคำพูดมันไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ เราคงต้องใช้ภาษากายเข้ามาแทน

อันหรันสงสัย ว่าผู้ชายคนนี้คิดจะทำอะไร

เดิมที่เธอก็ไม่มีเรี่ยวแรงมากพอที่จะขัดขืนฮั่วเทียนหลัน

ถูกฮั่วเทียนหลันกดลงบนเบาะรถ จากนั้นก็เขาฉีกเสื้อผ้าของเธออย่างเกรี้ยวกราด

อันหรันรู้สึกกลัว เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนเธอจะกลายเป็นโรคฮิสทีเรียอยู่แล้ว

เธอพยายามดิ้นอย่างสุดแรง และก็ตะโกนออกมา “อย่า อย่านะ คุณฮั่ว ปล่อยฉันไป....”

แต่เมื่อเธอยิ่งขัดขืน ก็ยิ่งไปกระตุ้นความรู้สึกของฮั่วเทียนหลันมากขึ้นเท่านั้น

เขาลูบลงไปที่จุดสำคัญกลางลำตัวของเธอ

อันหรันตกใจมาก เธอหยิบของบางอย่างจากที่เก็บของในรถออกมา จากนั้นก็กระแทกมัน!

ปัง! เมื่อเสียงนี้ดังขึ้นมา เธอก็รู้สึกถึงของเหลวที่อุ่นๆออกมาจากศีรษะของฮั่วเทียนหลัน

ไม่ช้า ก็มีน้ำสีแดงๆไหลลงมาจากหน้าผากของเขา

ฮั่วเทียนหลันตะลึง เขาไม่เคยคิดมาก่อนว่าผู้หญิงคนนี้จะกล้าทำอะไรกับเขาแบบนี้

เขาไม่ได้ไปจับที่บาดแผล แต่เขากลับจ้องไปที่อันหรันด้วยแววตาที่อยากจะฉีกเธอออกให้เป็นชิ้นๆ

อันหรันก็ตกใจเหมือนกัน เธอมองไปที่กระป๋องโค้กในมือของเธอ ที่มีรอยเลือดติดอยู่เล็กน้อย

เธอกลัวมาก และปล่อยของที่เธออยู่อย่างไม่รู้ตัว

เธอรู้สึกเจ็บ แต่ก็คงเจ็บไม่เท่ากับความรู้สึกของฮั่วเทียนหลัน

อันหรันปากสั่นและพูดตะกุกตะกัก “คุณ คุณฮั่ว ฉัน ฉันไม่ได้.....

ดังนั้นสิ่งที่เธอต้องการจะอธิบายออกมาทั้งหมด มันก็หมดประโยชน์แล้ว

เนื่องจากเธอทำผิดไป และเรื่องนี้มันก็รุนแรงมาก

เธอทำร้ายฮั่วเทียนหลันด้วยมือของเธอเอง เขาซึ่งเป็นสามีของเธอ และเป็นพ่อของลั่นลาน

ฮั่วเทียนหลันปล่อยอันหรัน และก็ลุกขึ้นมายืนอยู่ข้างรถ

เขาไม่ได้ไปไหน และไม่ได้พูดอะไรออกมา

อันหรันรู้สึกประหม่าและตกใจกับสิ่งที่เธอทำลงไป เธอลุกขึ้นมาจัดเครื่องแต่งกาย และฉีกเสื้อผ้าที่ขาดออกอย่างไม่เสียดาย

เธอมองเห็นเลือดที่ติดอยู่บนเสื้อผ้าของเธอ จากนั้นเธอคิดได้ว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดตอนนี้คือการช่วยฮั่วเทียนหลันห้ามเลือด

ดังนั้นเธอคิดที่จะลงมาจากรถ แต่เธอแค่ทำท่าว่าจะลง ก็ถูกฮั่วเทียนหลันดันกลับเข้ามา

“คุณฮั่ว บาดแผลของคุณตอนนี้ต้องรีบห้ามเลือด.....”

อันหรันรีบพูดออกมาด้วยความกังวล แต่ฮั่วเทียนหลันก็ถามพูดไปอีกเรื่องหนึ่งว่า “เธอรังเกียจฉันหรอ?”

“ไม่ ไม่ใช่....” อันหรันอยากที่จะอธิบายออกมา แต่เรื่องที่เธอเพิ่งจะทำลงไป ถึงจะอธิบายยังไงก็ไม่มีประโยชน์

“ไม่ใช่? ไม่ใช่อะไร? ถ้ากระป๋องนี้กลายเป็นมีดหละ? ถ้ามีดมันแทงเข้ามาที่ศีรษะของฉัน ตอนนี้ฉันก็คงตายไปแล้ว” คำพูดของฮั่วเทียนหลันเหมือนกับค้อนที่ทุบเข้ามาในใจของอันหรัน

เธอทำได้เพียงแค่ส่ายหน้า และพูดออกมาว่า “คุณฮั่ว มันไม่ใช่อย่างนั้น ไม่ใช่นะ...ฉันรักคุณ...ฉัน....”

“หุบปาก! อันหรัน เธอยังจะมีหน้ามาพูดอีก เธอทำกับฉันขนาดนี้ สุดท้ายกลับเปลี่ยนมาพูดดีด้วย?”

เนื่องจากเขาโกรธมาก เขาจึงทุบประตูด้านในของรถ

อันหรันเห็นประตูด้านในรถพัง เธอตกใจมาก

“ฉันขอโทษ....ถ้างั้น คุณมาลงที่ฉันแทนเถอะ!”

อันหรันมองลงไปที่กระป๋องที่ตกอยู่บนพื้น แล้วพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่รู้สึกผิด

ฮั่วเทียนหลันมองไปที่อันหรันด้วยความเยือกเย็นพร้อมกับพูดว่า “ฉันไม่อยากทำให้มือฉันสกปรก!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: โชคชะตาตื้นมาก แต่ความรักนั้นลึกซึ้ง