ยี่เฉียวถงสังเกตความเคลื่อนไหวในห้องรับแขกอยู่ตลอดเวลา เธอได้ยินอันหรันกล้าขัดขืนคำสั่งของอันหงไชเพื่อจะปกป้องคนรับใช้
จู่ๆเธอก็ใช้มีดสับลงไปที่เขียงอย่างรุนแรง ยัยเด็กคนนี้ คิดว่าจะพึ่งพาคนอื่นได้ตลอดอย่างนั้นหรอ?
เธอปลอกผลไม้ออกมาสองจาน และรีบเดินเอามันมาวางไว้ที่โต๊ะอาหาร “เทียนหลัน หรันหรัน ทานผลไม้สักหน่อยไหม? วันนี้อากาศค่อนข้างแห้ง ทานของที่มีวิตามินเข้าไปทำได้ทำให้ร่างกายสดชื่น”
ฮั่วเทียนหลันค่อยๆนั่งลงข้างตัวของอันหรัน เขาเอื้อมมือไปหยิบมะเขือเทศราชินี และก็ค่อยๆบีบมัน
สีแดงที่ไหลลงมา เหมือนกับเลือดของอันหรันที่เพิ่งหยดลงไป เสียงแผวเบาดังขึ้น “ช่วยบำรุงเลือดด้วยหรอ?”
ยี่เฉียวถงตะลึงและกระวนกระวายใจเป็นอย่างมาก จึงตอบกลับไปว่า “ช่วย ช่วยมั้ง?”
“ดังนั้นเลยต้องทำให้อันหรันได้รับบาดเจ็บจนถึงขั้นมีเลือดออก?” คำพูดของฮั่วเทียนหลันก็รุนแรงขึ้นทันที
ยี่เฉียวถงขาอ่อนขึ้นทันที และก้าวถอยหลังโดยไม่ได้ตั้งใจ
“นี่เธอ เธอเป็นอะไร?”
อันหงไชจึงรีบลุกขึ้นเพื่อที่ไปพยุงตัวของยี่เฉียวถง และมองไปที่เธอด้วยสายตาที่ไม่พอใจ
มันเป็นเพราะเธอ ที่ลงมือกับอันหรัน แน่นอนว่าตอนนี้ฮั่วเทียนหลันกำลังต้องการคำอธิบาย
“โรคโลหิตจาง เธอเป็นโรคโลหิตจาง.....” แน่นอนว่ายี่เฉียวถงกลัวจนไม่กล้าที่จะพูดอะไรออกมา
อันหงไชมองไปที่อันหรันด้วยแววตาที่น่าสงสาร และหวังว่าเธอจะพูดออกมาว่าเธอล้มลงไปเอง
แต่แววตาของอันหรันก็เบิกขึ้นเล็กน้อย และไม่ได้พูดอะไรออกมา
ฮั่วเทียนหลันหยิบผ้าขนหนูที่อยู่ในมือของอันหรันออกมา จากนั้นก็ค่อยๆเช็ดรอยแดงบนใบหน้าของเธอ
จมูกของเธอแดงมาก แค่มองก็รู้ว่าเธอไม่ได้ล้มลงไปเบาๆ
ฮั่วเทียนหลันเช็ดเบาๆต่อไป แต่อันหรันขมวดคิ้วขึ้นมาเพราะความเจ็บปวด
“เทียนหลัน นี่เป็นเพราะหรันหรันไม่ระวังจึงล้มลง พวกเราไม่ได้......” อันหงไชกัดฟันที่จะอธิบายออกมา
แต่ยิ่งพูดก็ยิ่งรู้สึกละอายใจ
ยี่เฉียวถงควบคุมสติได้จึงช่วยอธิบายออกมาอีกว่า “เทียนหลัน คุณกำลังเข้าใจผิดพวกเราอยู่ ตั้งแต่พ่อแม่ของเธอจากไป ฉันและลุงของเธอก็ช่วยดูแลเธอมาโดยตลอด อย่าโทษว่าพวกเราเป็นทำ มันไม่มีทางเป็นไปได้หรอก! เมื่อสักครู่เธอลื่นล้ม จมูกไปกระแทกกับพื้น พวกเราก็เป็นห่วงเธอเหมือน........”
พอพูดถึงตรงนี้ ดวงตาของยี่เฉียวถงก็แดงขึ้น และไม่นานน้ำตาก็ไหลออกมา
แต่ว่าการแสดงของเธอ ไม่ได้อยู่ในสายตาของฮั่วเทียนหลันเลยแม้แต่น้อย
เขามองไปที่อันหรัน พูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน “เธอหกล้มหรอ?”
อันหรันเม้มริมฝีปากหายใจเข้าลึก ๆ แล้วพูดว่า “ใช่”
ฮั่วเทียนหลันหยิบผ้าขนหนูที่อยู่ในมือของเธอออกมา จากนั้นก็ค่อยๆใช้แรงบิดจนเลือดที่อยู่ในนั้นหยดลงมาที่บนโซฟา
นี่ทำให้อันหงไชรีบยื่นแขนออกมาพร้อมพูดว่า “ผ้าขนหนูมันเย็นหมดแล้ว เดี๋ยวฉันเอาผืนใหม่มาให้”
ฮั่วเทียนหลันปล่อยมือ ผ้าขนหนูตกลงมาผ่านมือของอันหงไช และร่วงลงไปที่พื้น
สีหน้าของอันหงไชแข็งกระด้าง แต่เขาก็ยังโน้มตัวไปหยิบมันมาจากพื้น แล้วก็ยื่นให้คนรับใช้
บรรยากาศเต็มไปด้วยความอึดอัด ยี่เฉียวถงจึงพูดออกมาว่า “หรันหรัน เธอยังรู้สึกเจ็บตรงไหนอยู่หรือเปล่า? ฉันพาเธอไปตรวจที่โรงพยาบาลหน่อยดีไหม?”
ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความอ่อนโยน ราวกับว่าเธอเป็นป้าที่รักของอันหรันจริงๆ
อันรันอ้าปากรู้สึกอ่อนแรงและพูดว่า “ไม่จำเป็น”
ห้องรับแขกถูกปกคลุมไปด้วยความเงียบงันอีกครั้ง แต่โชคดีที่ไม่นานความเงียบนั้นก็ถูกทำลายลง เพราะอาหารกลางวันทำเสร็จแล้ว
บนโต๊ะมีอาหารทั้งหมดสิบแปดอย่าง มีทั้งเนื้อสัตว์และผัก ซึ่งหรูหรามาก
อันหรันคีบข้าวที่อยู่ตรงหน้าของเธอขึ้นมาทานทีละเม็ดทีละเม็ด เหมือนกับมีความรู้สึกเบื่ออาหาร
แต่ยี่เฉียวถงกับอันหงไชกลัวว่าฮั่วเทียนหลันจะรู้ว่าพวกเธอทำอะไรไม่ดีไว้กับอันหรัน พวกเขาจึงเลื่อนอาหารมาให้อันหรันสองสามอย่าง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: โชคชะตาตื้นมาก แต่ความรักนั้นลึกซึ้ง