“จะทำยังไงกันดี” เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ขึ้นมา ยี่เฉียวถงก็กลับมาเงียบอีกครั้ง
เธอเป็นผู้หญิงที่มีอารมณ์และความคิดค่อนข้างรุนแรง ทั้งยังถูกความหยิ่งผยองเข้าครอบงำ ช่วงเวลาที่ผ่านมาเธอทำเรื่องเลวร้ายมานับไม่ถ้วน
แต่ตลอดเวลาที่อยู่กับอันหงไช เธอก็มีจิตใจเด็ดเดี่ยวมาโดยตลอด ทั้งยังสามารถต่อต้านการถูกล่อลวงจากโลกภายนอกได้เสมอมา
"รอให้มีโอกาสค่อยเรียกอันหรันออกมาคนเดียว"
“ครั้งที่แล้วเธอรับปากว่าจะเอาเงินมาให้ แต่ก็ยังไม่ให้สักที ตอนนั้นเธอยังบอกฉันอย่างหยิ่งผยองอีกว่าอย่างมากก็อาจจะตายด้วยกันทั้งหมด! หลานสาวของคุณมันก็เป็นคนที่โหดเหี้ยมมากเช่นกันนั่นแหละ!" ยี่เฉียวถงพูดให้อันหรันอย่างไม่ได้คำนึงว่าเหมาะสมหรือไม่แต่อย่างใด ราวกับว่าตัวเองเป็นแม่พระเสียอย่างนั้น
สีหน้าของอันหงไชดูไม่ดีนัก เขาเอ่ยขึ้น : "ถ้าตอนนั้นไม่ใช่เพราะชิงเอ๋อเสพยาเสพติด เราก็คงไม่ต้องพึ่งเธอหรอก ทุกวันนี้ที่โทรเข้ามาก็มีแต่โทรมาขอเงินทั้งนั้น ไอ้ลูกสาวคนนี้ เฮ้อ!"
อันหงไชถอนหายใจเฮือกใหญ่ สิ่งเดียวที่เป็นข้อดีของลูกสาวที่เขาคิดออกในตอนนี้ก็คงจะเป็นตอนที่เธอยังเป็นเด็กที่น่ารักและเชื่อฟังคนนั้น
"คุณหมายความว่ายังไงอันหงไช นี่คุณกำลังพูดดูถูกลูกสาวแท้ๆของเรางั้นเหรอ"
อันชิงคือหัวใจของยี่เฉียวถง เธอไม่อนุญาตให้ใครมาพูดถึงลูกสาวที่รักของเธออย่างนี้เด็ดขาด
“คุณก็ดูที่ลูกสาวสุดที่รักของคุณพูดกับผมเมื่อวานสิ!”
เมื่อพูดถึงอันชิงขึ้นมา อันหงไชก็เริ่มจะโมโหขึ้นมาอีกรอบ
เขาเปิดโทรศัพท์มือถือ ก่อนจะเปิดข้อความที่อันชิงแชทคุยกับตนเมื่อวานให้ดู
ยี่เฉียวถงรับเอาโทรศัพท์มือถือมาดู ข้อความทั้งหมดเป็นอันชิงที่ส่งมาขอเงิน และทุกครั้งที่ขอก็ไม่เคยต่ำกว่าหนึ่งล้านหยวนเลยสักครั้ง
ข้อความล่าสุดเมื่อวาน อันชิงส่งมาบอกอันหงไชว่าเธอต้องการวิลล่าและเรือยอร์ช ทั้งยังต้องการเงินอีกหนึ่งร้อยล้านหยวนในการจับจ่ายใช้สอย
หลังจากเลื่อนอ่านข้อความคร่าวๆแล้ว ยี่เฉียวถงก็ถึงกับอ้าปากค้างในทันที
ลูกคนนี้บ้าไปแล้วเหรอ ใช้เงินฟุ่ยเฟือยขนาดนี้ คิดว่าเงินปลิวมากับลมอย่างงั้นหรือ
"เห็นหรือยังล่ะ" อันหงไชเอ่ยขึ้นอย่างไม่สบอารมณ์
"อืม" ยี่เฉียวถงตอบรับเสียงเบา แต่ทันใดนั้นเธอก็เอ่ยขึ้นมาอีกครั้งอย่างไม่ค่อยมีความมั่นใจ : "แต่ถึงอย่างไรนั่นก็เป็นลูกของพวกเราไม่ใช่เหรอ คุณคิดว่าจะให้เธอกลับมาเมื่อไหร่"
"รอไปก่อน! รอโอกาสเหมาะสมกว่านี้ คุณไปบอกลูกด้วยแล้วกันว่าอย่าออกไปก่อเรื่องอะไรอีก ช่วงนี้อดทนไปก่อน ถ้าหากว่าไปก่อเหตุขึ้นมาจนพลาดโอกาสอีกล่ะก็ ได้เสียใจไปตลอดชีวิตแน่"
ทันทีที่อันหงไชเอ่ยเสร็จ ยี่เฉียวถงก็สวนกับด้วยเสียงแหลมคมทันที : "อันหงไช คุณคิดว่าชิงเอ๋อเป็นคนยังไงกัน!"
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว อากาศตอนนี้เริ่มหนาวเย็นลงมากแล้ว
หิมะที่ตกหนักอย่างต่อเนื่องทำให้เมือง Z ถูกปกคลุมด้วยสีขาวทั้งเมือง
อุณหภูมิที่ดลงอย่างรวดเร็ว ทำให้อันหรันผู้ที่ไม่ชอบความหนาวเย็นนี้ แม้จะอยู่ในบ้านที่อากาศอบอุ่นมากๆ แต่เธอก็ยังห่อตัวเองด้วยเสื้อกันหนาวอย่างหนาแน่น
เธอถ่ายวิดีโอสั้นๆส่งให้ลั่นลานดู เนื่องจากเมือง W นั่นตั้งอยู่ทางใต้สุดและไม่เคยมีโอกาสได้เจอหิมะตกเลย
เมื่อเห็นความสวยงามของสโนว์คันทรีจากวิดีโอที่อันหรันส่งมา ลั่นลานก็ส่งเสียงร้องอย่างตื่นเต้น และถามอันหรันว่าเมื่อไหร่จะพาเธอไปเล่นหิมะด้วย
อันหรันกำโทรศัพท์มือถือไว้ในมือ ก่อนจะมองมองออกไปนอกหน้าต่างอย่างเหม่อลอย
พาลั่นลานกลับไปที่เมือง Z งั้นเหรอ เกรงว่าชีวิตนี้คงจะไม่มีหวังแล้วล่ะ
เธอจึงตอบกลับไปว่า : "รอคุณแม่อีกนิดนะลูก เดี๋ยวคุณแม่ก็กลับไปแล้ว พอถึงตอนนั้นหนูอยากไปที่ไหน คุณแม่จะพาไปทุกที่เลย"
หลังจากคุยกับลั่นลานเสร็จแล้ว ป้าเฉินก็คุยกับอันหรันต่ออีกสักพัก
อีกไม่นานลั่นลานก็ต้องเข้าเรียนชั้นป.1 แล้ว และจะมีการถ่ายรูปวันจบการศึกษาระดับชั้นอนุบาลด้วย คุณครูเขาอยากให้ผู้ปกครองมาร่วมถ่ายรูป จึงถามอันหรันว่าเธอสามารถกลับไปได้หรือเปล่า
อันหรันรู้สึกแสบจมูกขึ้นมา เธอไม่ได้ไม่อยากกลับไปเลย
แต่ตอนนี้มันมีบางอย่างที่ทำให้ไม่สามารถเลือกได้
เธอจึงได้แค่บอกกับป้าเฉินว่าจะพยายาม แต่ถ้าหากเธอกลับไปไม่ได้ก็ให้ป้าเฉินเป็นคนไปร่วมงานแทน
ขณะนั้นเอง Knight XV สีดำก็ขับตามถนนสีขาวเข้ามาอย่างช้าๆ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: โชคชะตาตื้นมาก แต่ความรักนั้นลึกซึ้ง