โชคชะตาตื้นมาก แต่ความรักนั้นลึกซึ้ง นิยาย บท 240

“จะทำยังไงกันดี” เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ขึ้นมา ยี่เฉียวถงก็กลับมาเงียบอีกครั้ง

เธอเป็นผู้หญิงที่มีอารมณ์และความคิดค่อนข้างรุนแรง ทั้งยังถูกความหยิ่งผยองเข้าครอบงำ ช่วงเวลาที่ผ่านมาเธอทำเรื่องเลวร้ายมานับไม่ถ้วน

แต่ตลอดเวลาที่อยู่กับอันหงไช เธอก็มีจิตใจเด็ดเดี่ยวมาโดยตลอด ทั้งยังสามารถต่อต้านการถูกล่อลวงจากโลกภายนอกได้เสมอมา

"รอให้มีโอกาสค่อยเรียกอันหรันออกมาคนเดียว"

“ครั้งที่แล้วเธอรับปากว่าจะเอาเงินมาให้ แต่ก็ยังไม่ให้สักที ตอนนั้นเธอยังบอกฉันอย่างหยิ่งผยองอีกว่าอย่างมากก็อาจจะตายด้วยกันทั้งหมด! หลานสาวของคุณมันก็เป็นคนที่โหดเหี้ยมมากเช่นกันนั่นแหละ!" ยี่เฉียวถงพูดให้อันหรันอย่างไม่ได้คำนึงว่าเหมาะสมหรือไม่แต่อย่างใด ราวกับว่าตัวเองเป็นแม่พระเสียอย่างนั้น

สีหน้าของอันหงไชดูไม่ดีนัก เขาเอ่ยขึ้น : "ถ้าตอนนั้นไม่ใช่เพราะชิงเอ๋อเสพยาเสพติด เราก็คงไม่ต้องพึ่งเธอหรอก ทุกวันนี้ที่โทรเข้ามาก็มีแต่โทรมาขอเงินทั้งนั้น ไอ้ลูกสาวคนนี้ เฮ้อ!"

อันหงไชถอนหายใจเฮือกใหญ่ สิ่งเดียวที่เป็นข้อดีของลูกสาวที่เขาคิดออกในตอนนี้ก็คงจะเป็นตอนที่เธอยังเป็นเด็กที่น่ารักและเชื่อฟังคนนั้น

"คุณหมายความว่ายังไงอันหงไช นี่คุณกำลังพูดดูถูกลูกสาวแท้ๆของเรางั้นเหรอ"

อันชิงคือหัวใจของยี่เฉียวถง เธอไม่อนุญาตให้ใครมาพูดถึงลูกสาวที่รักของเธออย่างนี้เด็ดขาด

“คุณก็ดูที่ลูกสาวสุดที่รักของคุณพูดกับผมเมื่อวานสิ!”

เมื่อพูดถึงอันชิงขึ้นมา อันหงไชก็เริ่มจะโมโหขึ้นมาอีกรอบ

เขาเปิดโทรศัพท์มือถือ ก่อนจะเปิดข้อความที่อันชิงแชทคุยกับตนเมื่อวานให้ดู

ยี่เฉียวถงรับเอาโทรศัพท์มือถือมาดู ข้อความทั้งหมดเป็นอันชิงที่ส่งมาขอเงิน และทุกครั้งที่ขอก็ไม่เคยต่ำกว่าหนึ่งล้านหยวนเลยสักครั้ง

ข้อความล่าสุดเมื่อวาน อันชิงส่งมาบอกอันหงไชว่าเธอต้องการวิลล่าและเรือยอร์ช ทั้งยังต้องการเงินอีกหนึ่งร้อยล้านหยวนในการจับจ่ายใช้สอย

หลังจากเลื่อนอ่านข้อความคร่าวๆแล้ว ยี่เฉียวถงก็ถึงกับอ้าปากค้างในทันที

ลูกคนนี้บ้าไปแล้วเหรอ ใช้เงินฟุ่ยเฟือยขนาดนี้ คิดว่าเงินปลิวมากับลมอย่างงั้นหรือ

"เห็นหรือยังล่ะ" อันหงไชเอ่ยขึ้นอย่างไม่สบอารมณ์

"อืม" ยี่เฉียวถงตอบรับเสียงเบา แต่ทันใดนั้นเธอก็เอ่ยขึ้นมาอีกครั้งอย่างไม่ค่อยมีความมั่นใจ : "แต่ถึงอย่างไรนั่นก็เป็นลูกของพวกเราไม่ใช่เหรอ คุณคิดว่าจะให้เธอกลับมาเมื่อไหร่"

"รอไปก่อน! รอโอกาสเหมาะสมกว่านี้ คุณไปบอกลูกด้วยแล้วกันว่าอย่าออกไปก่อเรื่องอะไรอีก ช่วงนี้อดทนไปก่อน ถ้าหากว่าไปก่อเหตุขึ้นมาจนพลาดโอกาสอีกล่ะก็ ได้เสียใจไปตลอดชีวิตแน่"

ทันทีที่อันหงไชเอ่ยเสร็จ ยี่เฉียวถงก็สวนกับด้วยเสียงแหลมคมทันที : "อันหงไช คุณคิดว่าชิงเอ๋อเป็นคนยังไงกัน!"

เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว อากาศตอนนี้เริ่มหนาวเย็นลงมากแล้ว

หิมะที่ตกหนักอย่างต่อเนื่องทำให้เมือง Z ถูกปกคลุมด้วยสีขาวทั้งเมือง

อุณหภูมิที่ดลงอย่างรวดเร็ว ทำให้อันหรันผู้ที่ไม่ชอบความหนาวเย็นนี้ แม้จะอยู่ในบ้านที่อากาศอบอุ่นมากๆ แต่เธอก็ยังห่อตัวเองด้วยเสื้อกันหนาวอย่างหนาแน่น

เธอถ่ายวิดีโอสั้นๆส่งให้ลั่นลานดู เนื่องจากเมือง W นั่นตั้งอยู่ทางใต้สุดและไม่เคยมีโอกาสได้เจอหิมะตกเลย

เมื่อเห็นความสวยงามของสโนว์คันทรีจากวิดีโอที่อันหรันส่งมา ลั่นลานก็ส่งเสียงร้องอย่างตื่นเต้น และถามอันหรันว่าเมื่อไหร่จะพาเธอไปเล่นหิมะด้วย

อันหรันกำโทรศัพท์มือถือไว้ในมือ ก่อนจะมองมองออกไปนอกหน้าต่างอย่างเหม่อลอย

พาลั่นลานกลับไปที่เมือง Z งั้นเหรอ เกรงว่าชีวิตนี้คงจะไม่มีหวังแล้วล่ะ

เธอจึงตอบกลับไปว่า : "รอคุณแม่อีกนิดนะลูก เดี๋ยวคุณแม่ก็กลับไปแล้ว พอถึงตอนนั้นหนูอยากไปที่ไหน คุณแม่จะพาไปทุกที่เลย"

หลังจากคุยกับลั่นลานเสร็จแล้ว ป้าเฉินก็คุยกับอันหรันต่ออีกสักพัก

อีกไม่นานลั่นลานก็ต้องเข้าเรียนชั้นป.1 แล้ว และจะมีการถ่ายรูปวันจบการศึกษาระดับชั้นอนุบาลด้วย คุณครูเขาอยากให้ผู้ปกครองมาร่วมถ่ายรูป จึงถามอันหรันว่าเธอสามารถกลับไปได้หรือเปล่า

อันหรันรู้สึกแสบจมูกขึ้นมา เธอไม่ได้ไม่อยากกลับไปเลย

แต่ตอนนี้มันมีบางอย่างที่ทำให้ไม่สามารถเลือกได้

เธอจึงได้แค่บอกกับป้าเฉินว่าจะพยายาม แต่ถ้าหากเธอกลับไปไม่ได้ก็ให้ป้าเฉินเป็นคนไปร่วมงานแทน

ขณะนั้นเอง Knight XV สีดำก็ขับตามถนนสีขาวเข้ามาอย่างช้าๆ

อันหรันลุกขึ้นและลงไปชั้นล่างเพื่อต้อนรับการกลับมาของฮั่วเทียนหลัน

ป้า Ding ตอนนี้กำลังเตรียมอาหารเย็นอยู่ในครัว ขณะที่อันหรันเปิดประตูออก ลมหนาวก็พัดเข้ามากระทบใบหน้าในทันที จนทำให้เธอตัวสั่นขึ้นมาด้วยความหนาว

ฮั่วเทียนหลันจอดรถเสร็จก็เดินตามทางที่ปกคลุมด้วยหิมะเข้ามา เขาเงยหน้าขึ้นและพบว่าอันหรันกำลังยืนรอรับอยู่ที่ประตูหน้าบ้าน จึงเอ่ยขึ้นเชิงตำหนิ : "อากาศหนาวเย็นขนาดนี้ ใครบอกให้เธอออกมาจากบ้าน"

อันหรันยื่นมือออกไปปัดเกล็ดหิมะที่เกาะอยู่บนตัวฮั่วเทียนหลัน ก่อนจะส่งแก้วน้ำชาร้อนให้ : "เห็นคุณกลับมา ฉันก็เลยออกมารอรับ"

ฮั่วเทียนหลันเหลือบมองอันหรันอยู่ครู่นึง ก่อนจะดันตัวเธอเข้าไปข้างในบ้าน

ช่วงนี้เขากลับมาที่บ้านแทบทุกวัน ส่วนเหตุผลที่ทำให้เขากลับมานั้น ฮั่วเทียนหลันเองก็ไม่แน่ใจเช่นเดียวกัน

ดูเหมือนว่าผู้หญิงคนนี้จะมีผลต่อหัวใจของเขาเพิ่มมากขึ้นไม่น้อยเลย

และด้วยเหตุนี้จึงทำให้มู่เหว่ยชวนเขาทะเลาะด้วยทุกครั้ง

ทุกครั้งที่ทะเลาะกันฮั่วเทียนหลันก็เป็นคนจัดการให้ทุกที

ภายใต้การดำเนินการของเขา มู่เหว่ยที่เคยโดนแบนตอนนี้ก็สามารถออกงานได้ตามปกติแล้ว

การเซ็นสัญญาต่างๆดำเนินต่อไป แต่รายได้ที่เข้ามาก็เริ่มน้อยลงทุกที

ส่วนคุณนายฮัวนั้นก็ไม่ได้ออกมาพูดอะไรเลยตั้งแต่ตอนนั้น

เพราะเธอเห็นว่าความสัมพันธ์ระหว่างลูกชายและลูกสะใภ้ของเธอเริ่มจะดีขึ้นแล้ว จึงสามารถที่จะประนีประนอมกับเรื่องนี้ได้

หลังอาหารมื้อค่ำจบลง ฮั่วเทียนหลันก็จูงมืออันหรันไปที่ชั้นดาดฟ้าของบ้านเพื่อชมฉากหิมะตก

ตอนนี้ท้องฟ้ากำลังจะมืดลงแล้ว แต่ยังมีแสงระเรื่อจากพระอาทิตย์ที่พึ่งลาลับขอบฟ้าไปเมื่อกี้ เมื่อมองออกไปจากห้องกระจก ภาพที่เห็นคือเกล็ดหิมะที่กำลังโปรยลงสู่พื้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้โลกดูสวยงามขึ้นมาถนัดตา

มือที่เคยกอบกุมอยู่นั้นถูกปล่อยออก ก่อนที่ฮั่วเทียนหลันจะโอบกอดอันหรันเอาไว้ พร้อมทั้งมือของเขาที่เริ่มจะอยู่ไม่นิ่ง

อันหรันยื่นมือออกไปหลายครั้ง เธอต้องการห้ามมือปลาหมึกของฮั่วเทียนหลันที่กำลังลูบไล้ไปทั่วร่างหายของเธออยู่ตอนนี้ให้อยู่นิ่ง

แต่ยิ่งเธอพยายามห้ามเท่าไหร่ ก็ยิ่งเป็นการยุเขามาขึ้นเท่านั้น เธอจึงปล่อยมือออกจากเขาอย่างยอมแพ้

มือของฮั่วเทียนหลันสอดเข้าไปข้างในเสื้อผ้าของอันหรัน ก่อนจะหยอกล้อที่จุดอ่อนไหวของเธอเบาๆ

"อาบน้ำแล้วเหรอ"

"อืม" อันหรันตอบ ก่อนจะจับความผิดปกติได้จึงรีบเอ่ยขึ้นมาอีกครั้ง : "ไม่ใช่ ยังไม่ได้อาบค่ะ... "

"สายไปแล้วล่ะ!" ฮั่วเทียนหลันยิ้มขึ้นอย่างชั่วร้าย ก่อนจะผลักอันหรันให้นอนลงบนโซฟา โดยที่ขาข้างหนึ่งของเขาแทรกตรงกลางระหว่างขาทั้งสองข้างของเธออยู่ด้วยท่าที่ค่อนข้างจะล่อแหลม

แม้ว่าความสัมพันธ์แบบนี้จะเกิดขึ้นแทบทุกวัน หรือกระทั่งบางทีสองครั้งต่อวันเลยก็มี แต่อันหรันก็ยังรู้สึกประหม่าอยู่ดี

เธอยื่นมือขึ้นไปดันแผ่นอกแกร่งของฮั่วเทียนหลันเอาไว้ ก่อนจะเอ่ยเสียงอ่อน : "คุณชายฮั่วคะ เรากลับไปที่ห้องดีไหม เผื่อว่าป้า Ding ... "

ฮั่วเทียนหลันยกยิ้มมุมปากขึ้นอย่างชั่วร้าย ก่อนจะเอ่ยขึ้น : "ไม่ต้องกังวลไปหรอก พอป้า Ding แกได้ยินเสียง แกก็ไม่เข้ามากวนแล้ว!"

หน้าของอันแดงก่ำ ผู้ชายคนนี้นับวันยิ่งหน้าหนาขึ้นไปทุกที เธอแอบคิดในใจ

มือของฮั่วเทียนหลันลูบไล้ไปบนผิวเนียนของอันหรันอย่างเอาแต่ใจ

ผิวของเธอขาวเนียนดึงดูดสายตาเป็นอย่างมาก จนอยากจะยกคำชมทุกคำที่มีอยู่ในพจนานุกรมมารวมกันไว้บนร่างกายของเธอ

ฉะนั้นจึงทำให้เขาค่อนข้างที่จะเสพติดมัน

น้องชายของเขาตอนนี้เริ่มลุกโด่ขึ้นมาประท้วงซะแล้วล่ะ

ความรู้สึกที่ถูกดันขึ้นมาทั้งหมดในตอนนี้ หากไม่ได้รับการปลดปล่อยคงไม่ไหวเป็นแน่

ฮั่วเทียนหลันจับมืออันหรันวางลงบนกางเกงของเขา ก่อนจะส่งสายตาไปหาเธอราวกับต้องการสื่ออะไรบางอย่าง

อันหรันมือสั่นเล็กน้อยด้วยความประหม่า แต่ในใจของเธอนั้นราวกับกำลังคาดหวังอะไรบางอย่างอยู่ นั่นจึงทำให้เธอรู้สึกอับอายขึ้นมา

“คุณ คุณชายฮั่วคะ วันนี้เราพักเรื่องนี้ก่อนได้ไหมคะ”

ฮั่วเทียนหลันอืมตอบ ก่อนจะจับตัวอันหรันให้ยกขึ้นแล้ววางเธอลงบนตัวของเขาอีกที จากนั้นเอ่ยขึ้นมาอย่างทีเล่นทีจริง : "ถ้าอย่างนั้นเธอก็ขึ้นให้ฉันสิ เดี๋ยวฉันจะพักเอง!"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: โชคชะตาตื้นมาก แต่ความรักนั้นลึกซึ้ง