เมื่อนึกถึงชายคนนั้น หยางหลิงรุ่ยก็รู้สึกว่าริมฝีปากของเธอรู้สึกเสียวซ่า
ช่างป่าเถื่อนและไร้ยางอายเกินไปแล้ว
ทำไมคนคนนี้ถึงได้ไม่มีเหตุผลขนาดนี้
เมื่อมองเสื้อสูทที่ถูกตัดจนขาด ก็ยิ่งทำให้เธอไม่สามารถระบายความโกรธข้างในใจออกไปได้
ก่อนจะหยิบคว้ามันและนำไปโยนทิ้งถังขยะข้างนอกตัวบ้านที่อยู่ชั้นล่าง
หึ กล้ารังแกฉันแบบนี้ ฉันจะแก้แค้นนายให้หนักกว่านี้เลยคอยดู!
หลังจากกลับเข้ามาในห้องนอน เธอก็เดินเข้าไปในห้องน้ำ
และแช่ตัวอยู่ในห้องน้ำนานกว่าสองชั่วโมง จนผิวหนังของเธอเริ่มแดงเถือกเธอถึงเดินออกมา
หยางหลิงรุ่ยนอนอยู่บนเตียงก่อนจะหยิบมือถือขึ้นดูสักพัก แต่สุดท้ายเธอก็ไม่ได้กดโทรหาพี่ชายใหญ่ของเธอ
ทันใดนั้นเอง มือถือของเธอก็สั่นขึ้นเนื่องจากมีข้อความส่งมาในวีแชท
เธอชำเลืองมองเล็กน้อยก่อนจะหรี่ตาลง เป็นจางรันที่ส่งข้อความมา
หลังจากเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น หยางหลิงรุ่ยก็รู้สึกละอายใจต่อจางรันเล็กน้อย
"หลิงรุ่ย นอนหรือยัง"
"ยังค่ะ"
"เมื่อคืนเธอไม่เป็นไรใช่ไหม ฉันเห็นเธอใส่เสื้อสูทของผู้ชาย"
"เมื่อตอนค่ำอากาศค่อนข้างหนาว ตอนที่ฉันเดินเล่นริมแม่น้ำฉันเจอผู้ชายใจดีคนหนึ่ง เขาเห็นว่าฉันหนาวจนตัวสั่นจึงถอดเสื้อสูทให้กับฉันน่ะ นี่ก็ว่าวันหลังจะให้คนเอาเสื้อไปคืนเขาให้อยู่เหมือนกัน"
หยางหลิงรุ่ยรู้สึกกังวลเล็กน้อยเเพราะเธอพึ่งเคยโกหกเป็นครั้งแรก
ความจริงแล้วผู้ชายคนนั้นทำเสื้อผ้าของเธอเปียกและยับเยินไปหมด เธอจึงจำเป็นต้องใส่เสื้อสูทของเขา
“อืม…ผู้ชายคนนั้นช่างเป็นคนดีจริงๆ!”
เดิมทีจางหรันอยากจะใส่เครื่องหมายคำพูดตรงคำ'คนดี' แต่พอคิดแล้วก็รู้สึกว่ามันค่อนข้างชัดเจนเกินไป ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงใส่เครื่องหมายอัศเจรีย์เพื่อแสดงความไม่พอใจ
ภาษาจีนได้รับการสืบทอดมาเป็นเวลาหลายพันปี คำคำเดียวกันแต่ถ้าใส่เครื่องหมายหรือสัญลักษณ์อื่นๆลงไปด้วยก็สามารถตีความได้แตกต่างกัน
จางรันจับมือถือบนมือแน่น
หลังจากหยางหลิงรุ่ยเดินจากไป เขาได้ยืนรออยู่ที่ทางเดินสักพัก
และเขาก็เห็นผู้ชายคนที่เขาเกลียดนักหนาคนนั้น
ฮั่วเทียนหลันเดินตรงออกมาโดยสวมเพียงแค่เสื้อเชิ้ตเท่านั้น
สายตาที่ดุร้ายของเขาถูกฮั่วเทียนหลันมองข้ามไม่สนใจ
ในตอนที่เขากำลังจะเดินผ่านไป จางรันจึงเอื้อมมือไปคว้าเสื้อของฮั่วเทียนหลันไว้
“ประธานฮั่วครับ คุณหยางเป็นผู้หญิงของผม!” จางรันเน้นเสียงสี่คำสุดท้าย
ในตอนนั้นเองฮั่วเทียนหลันถึงได้ตระหนักว่ามีบุคคลเช่นนี้ยืนอยู่ข้างๆเขา เขามองไปที่จางรันอย่างไม่แยแส ก่อนจะเอ่ยขึ้นเสียงนิ่ง : "ปล่อย!"
จางรันหยุดนิ่งสองสามวิ แต่สุดท้ายก็ยอมปล่อยมือ
แม้ว่าจะรู้ว่าฮั่วเทียนหลันเคยติดต่อกับหยางหลิงรุ่ยมาก่อน แต่เขาก็ไม่มีหลักฐานมายืนยัน
และฮั่วเทียนหลันเป็นคนที่เขาจะไปยั่วยุได้ที่ไหนกัน
"ฉันจำนายได้ นายคือจางรัน และนายได้ร่วมลงทุนในโครงการบางอย่างที่เมื่อ Z" คำพูดของฮั่วเทียนหลันแฝงไปด้วยน้ำเสียงข่มขู่ชัดเจน
จางรันนิ่งงัน ในตอนที่ได้สติและกำลังจะเอ่ยขึ้นมานั้นฮั่วเทียนหลันก็เดินออกไปไกลแล้ว
เขามองไปที่ร่างของผู้ชายคนนี้ที่ห่างออกไป ก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมา
จางรันคิดมาตลอดว่าการที่ตนพยายามดิ้นรนจนถึงตอนนี้จะสามารถแข่งกับผู้ชายคนนี้ได้อย่างทัดเทียม แต่ใครจะรู้ว่าตนนั้นถูกกดให้ต่ำได้เพียงประโยคไม่กี่ประโยคที่เขาเอ่ยออกมา
“ดึกมากแล้ว รีบพักผ่อนเถอะ!” เป็นครั้งแรกที่จางรันคุยกับหยางหลิงรุ่ยและเป็นคนเอ่ยปิดบทสนทนาเช่นนี้
"อืม... " หยางหลิงรุ่ยเองก็รู้สึกเศร้าในใจเล็กน้อย
จางรันรู้สึกกลัดกลุ้มใจ เขาปิดหน้าจอมือถือก่อนจะโยนไปด้านข้าง
ทันใดนั้นเองโทรศัพท์มือถือก็สั่นขึ้นอีกรอบ
เขาหยิบมันมาดูและพบว่าเป็นข้อความจากหยางหลิงรุ่ย : "อารัน... "
“มีอะไรหรือเปล่า”
"เปล่า ไม่มีอะไร... วันนี้คุณเหนื่อยมากแล้ว รีบเข้านอนด้วยนะ แล้วก็อย่าลืมอาบน้ำ... "
หยางหลิงรุ่ยลังเลอยู่นาน แต่ก็ยังไม่ได้พูดเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้ออกมา
หลังจากกลับมา เธอได้ค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับฮั่วเทียนหลันบนอินเทอร์เน็ต เขาประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุยังน้อย ได้ครอบครองทรัพย์สินมหาศาลของฟาเรนไฮต์ และยังมีวิสัยทัศน์เชิงกลยุทธ์...
คำชมเชยและเยินยอมากมายที่ถูกเขียนลงในนั้นทำให้คนอ่านแทบตาลาย
ต่อมาเธอก็เห็นชื่ออันหรันที่ถูกพูดขึ้นโดยผู้ชายคนนั้น
มีทั้งเสียงชื่นชมและคำวิพากษ์วิจารณ์ปะปนกันไป แต่สุดท้ายก็น่าสังเวชที่ต้องจบชีวิตด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ มีลูกสาวเพียงคนเดียวที่หลงเหลือไว้ให้ดูต่างหน้า
เมื่อมองดูรูปถ่ายที่ค่อนข้างเบลอของอันหรันแล้วก็รู้สึกว่ามีความคล้ายตัวเองอยู่มากเหมือนกัน
ไม่แปลกใจเลยที่ผู้ชายคนนั้นจะมองผิดไป!
จู่ๆหยางหลิงรุ่ยก็รู้สึกเจ็บปวดในหัวใจขึ้นมาเสียดื้อๆ
เธอรู้สึกแปลกๆเล็กน้อยแต่ก็คิดว่าเป็นเรื่องปกติ เพราะเธอเป็นคนที่ค่อนข้างอินกับอะไรง่ายๆ และเมื่อสักครู่คงคิดว่าตัวเองเป็นผู้หญิงที่ชื่ออันหรันอยู่ล่ะมั้ง
เธอนอนอยู่บนเตียงสักพัก แต่สุดท้ายก็นอนไม่หลับสักที
ทันใดนั้นก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น
วิธีการเคาะที่คุ้นเคยนี้ทำให้หยางหลิงรุ่ยตัวสั่นขึ้นมา
แย่แล้ว เธอลืมเรื่องสำคัญไปเลย เพราะวันนี้มั่วแต่อารมณ์เสียให้กับผู้ชายที่ชื่อฮั่วเทียนหลันจนลืมไปรับชิงหรงมา
เธอรีบลุกจากเตียงและเดินไปเปิดประตู
ด้านนอกประตู ชิงหรงปากคว้ำ รอบดวงตาของเธอขึ้นสีแดง ใบหน้าเล็กน่ารักของเธอยับยู้ยี้เพราะความโกรธ
พี่สะใภ้ตงเหยียนที่ทำหน้าบอกบุญไม่รับจึงเอ่ยขึ้น : "หรงหรงแกนอนไม่ได้ ขยับตัวพลิกไปมาไม่ยอมหลับสักทีเพราะอยากกลับมาที่นี่ ถ้าหากไม่ได้กลับมาเกรงว่าแกจะไม่ยอมนอนจริงๆ ฉันก็เลยทำได้แค่พาแกมาส่ง ... "
หยางหลิงรุ่ยยิ้มขึ้นอย่างรู้สึกผิดก่อนจะเอ่ย : "พี่สะใภ้ไปนอนเถอะค่ะ เดี๋ยวหรงหรงฉันจะดูแลเอง ฉันกลับมาด้วยความรีบร้อนและคิดว่าหรงหรงคงหลับไปแล้วก็เลยไม่ได้ไปรับแกมา"
ตงเหยียนตอบรับก่อนจะกล่าวราตรีสวัสดิ์แล้วเดินลงไปที่ชั้นล่าง
หยางหลิงรุ่ยโน้มตัวลงไปเพื่อที่จะอุ้มหรงหรง
แต่ชิงหรงกลับผลักเธอออก ก่อนจะเอ่ยขึ้นอย่างไม่พอใจ : "คุณแม่นิสัยไม่ดี!"
หยางหลิงรุ่ยไม่สนใจคำพูดอีกฝ่าย เธอก้มลงไปอุ้มตัวชิงหรงแกมบังคับพร้อมทั้งเอ่ยขึ้นอย่างรู้สึกขอโทษ : "ขอโทษนะลูกรัก วันนี้หัวใจของคุณแม่ก็สับสนมากเลย"
“เพราะงั้นถึงไม่ต้องการหนูแล้วใช่ไหม” ชิงหรงเอ่ยขึ้นมาฉับพลัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: โชคชะตาตื้นมาก แต่ความรักนั้นลึกซึ้ง