โชคชะตาตื้นมาก แต่ความรักนั้นลึกซึ้ง นิยาย บท 328

“ใครเป็นคนพูดว่าเธอคือตัวซวยของตระกูลหยาง!”

หยางหลินยังไม่ทันได้ตอบกลับ ก็มีเสียงที่น่าประทับใจก็ดังมาจากด้านหลัง

น้ำเสียงที่คุ้นเคยนี้ ทำให้เขาหันกลับไปโดยไม่ได้ตั้งใจ และคนที่มานั้นก็คือพี่ใหญ่

หยางหยวนพาเขามาหาหยางหลิน

เขาเห็นไฟสีแดงที่ติดอยู่หน้าห้องผ่าตัดจึงขมวดคิ้ว แต่เพื่อไม่ทำให้หยางหลิงรุ่ยต้องกังวล เขาก็เลยเลิกทำ เขาค่อยๆยื่นมือไปลูบผมของหยางหลิงรุ่ยเบาๆ

“ไม่ต้องกังวล เขาจะต้องไม่เป็นไร”

“พี่ใหญ่.....” เสียงของหยางหลิงรุ่ยสั่น เธอกอดมาที่ขาของหยางหยวน ตัวเธอสั่นไปทั้งตัว

หยางหยวนไม่ได้พูดอะไร เขาถอนหายใจออกมา และลูบไปที่หลังของเธอเบาๆ

“หลิงรุ่ย อย่ากลัวไป ฉันจะอยู่ข้างๆเธอเอง”

ทุกคนกำลังรออยู่ที่หน้าห้องผ่าตัด แต่จู่ๆประตูห้องผ่าตัดก็เปิดออกมา

พยาบาลท่านหนึ่งรีบวิ่งออกมาพร้อมตะโกนว่า “ใครเป็นญาติของคนไข้!”

“ฉัน ฉันเป็น.....” หยางหลิงรุ่ยรีบลุกขึ้น แต่ด้วยอารมณ์ที่เศร้าและนั่งนานเกินไปเธอเวียนหัวและล้มลงกับพื้น

หยางเทียนรีบเข้ามาพยุงเธอ และพูดออกมาว่า “คุณพยาบาล เกิดอะไรขึ้นกับเขา?”

นางพยาบาลรีบตอบออกมาว่า “ตอนนี้ผู้ป่วยเสียเลือดออกมาก และยังคงถ่ายเลือดต่อไป แต่ผู้ป่วยมีเลือด RH ที่หายากและไม่มีเลือดชนิดดังกล่าวเหลืออยู่ในคลังเลือด”

ประโยคนี้ทำให้คนที่ล้มลงไปอย่างอ่อนแรงแบบหยางหลิงรุ่ยถึงกับตะลึง

เธอพูดออกมาอย่างสิ้นหวังว่า “คุณพยาบาล คุณพยาบาล ขอร้องหละ ช่วยหาเลือดให้เขาที ช่วยชีวิตเขาด้วย!”

หยางหลิงรุ่ยไม่กล้าที่จะจินตนาการ ถ้าหากจางรันต้องมีเหตุการเสียชีวิตจากเธอ หลังจากนี้เธอจะใช้ชีวิตต่อไปอย่างไร

เธอเลือดกรุ๊ป AB ไม่เหมือนใครสักคนในตระกูลหยาง

หยางหยวนขมวดคิ้ว เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรให้คนรีบหาเลือดชนิดนี้ให้

และพยาบาลคนนี้จะติดต่อสถานีวิทยุกระจายเสียงของโรงพยาบาล เพื่อหาว่ามีคนกรุ๊ปเลือด RH ที่อยู่ในโรงพยาบาลหรือไม่

เวลาที่ผ่านไป ยิ่งทำให้ความหวังของหยางหลิงรุ่ยค่อยๆเลือนลาง

เธอรู้ดีว่า จางรันอาจจะหมดหวังแล้ว

แม่ของจางรันมีเลือดกรุ๊ปเดียวกับเขา แต่เธออยู่ที่ประเทศm ต่อให้นั่งเครื่องบินที่เร็วที่สุดมา กว่าจะถึงก็คงสายไปแล้ว

ตอนนี้ฉันทำได้เพียงอธิษฐานต่อพระเจ้าเพื่อให้เขามีโอกาสมีชีวิตอยู่

แต่จู่ๆก็มีพยาบาลอีกคนเดินเข้ามากระซิบอะไรบางอย่างข้างหูพยาบาลคนนี้

พยาบาลหญิงดูเคร่งขรึมและดูเหมือนเธอจะคิดอะไรบางอย่างได้ จากนั้นเธอก็ส่ายหัวและพูดว่า “ไม่ได้ ร่างกายของคนไข้อ่อนแอมากจะถ่ายเลือดได้อย่างไร?”

ถ่ายเลือด? เมื่อได้ยินสองคำนี้ หยางหลิงรุ่ยก็รู้สึกว่าเธอเห็นความหวังขึ้นมาอีกครั้ง

“คุณพยาบาล มีเลือดแล้วใช่ไหมคะ หาคนที่มีเลือดตรงกันกับเขาได้แล้วใช่ไหมคะ?” หยางหลิงรุ่ยยื่นมือออกไปเขย่าแขนของนางพยาบาล

เธอไม่ได้สังเกตเลยว่าตอนนี้เธอเหมือนกับคนที่ตีโพยตีพายอะไรไปเอง

พยาบาลเอามือของเธอออกแล้วตอบอย่างหลีกเลี่ยง “ขอโทษด้วยนะคะ เงื่อนไขของคนนั้นไม่เพียงพอ”

“เป็นแบบนั้นไปได้อย่างไร? เขาคือใคร ฉันจะไปหาเขาเดี๋ยวนี้! แค่เขายอมถ่ายเลือด อยากได้อะไรฉันก็ยอม!” การใช้ชีวิตในครอบครัวของนักธุรกิจเป็นเวลานาน หยางหลิงรุ่ยก็ซึมซับนิสัยเหล่านั้นมาบ้าง

สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ เธอไม่อยากเห็นความหวังที่มีอยู่ตรงหน้าหลุดลอยไป และปล่อยให้จางรันต้องตาย

พยาบาลยังคงลังเล และหยางหยวนที่สังเกตเห็นกิริยาของพวกเธอจึงไอออกมาหนึ่งครั้งแล้วพูดออกมาว่า “เชิญ ผอ. ของพวกคุณมาที!”

พยาบาลมองมาที่ชายวัยกลางคนคนนี้ด้วยความประหลาดใจ ยังไม่ได้ทำอะไรเลยทำไมต้องเรียก ผอ. มาด้วย?

ในโรงพยาบาลนี้มีคนไข้เยอะแยะมากมาย ถ้าหาก ผอ. ต้องออกมารับหน้าตลอด เขาจะไม่ต้องวิ่งจนขาหักหรอ?

เธอกำลังจะพูดออกมา แต่ในตอนนั้นหยางเทียนก็พาคนใส่ชุดคลุมสีขาวมาสองสามคน

ผอ. ของโรงพยาบาลกลางวิ่งเหงื่อท่วมมาพร้อมกับพุงกางๆของเขา

“คุณหยาง คุณมาด้วยตัวเองเลยหรอ ทำไมไม่บอกกันก่อนสักคำ!”

ผอ. โรงพยาบาลโค้งตัวเพื่อเป็นการทักทาย แต่หยางหยวนกลับทำหน้านิ่งๆพร้อมพูดออกไปว่า “ตอนนี้ฉันมีเรื่องอยากจะขอร้องคุณหนึ่งเรื่อง”

“ขอร้อง? ไม่ต้องขนาดนั้นครับ คุณหยางมีอะไรให้ผมช่วยบอกมาได้เลยครับ แค่คุณหยางมาหาผมก็ถือว่าเป็นเกียรติมากแล้ว!”

ผอ. โรงพยาบาลแห่งนี้เป็นเด็กกำพร้า และเติบโตมาจากสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าของตระกูลหยาง ไม่ว่าจะเป็นค่าเล่าเรียนหรือค่าอาหาร ตระกูลหยางเป็นคนจัดการให้เขาจนเขามีทุกวันนี้ได้

สำหรับตระกูลหยางแล้ว โดยเฉพาะเป็นหยางหยวนผู้ยิ่งใหญ่แล้ว เขาเคารพอย่างใจจริง

หยางหยวนไม่ได้พูดอะไร เขาแค่มองมาที่นางพยาบาลคนนั้น

นางพยาบาลรู้ดีว่าเขาต้องการอะไร เธอจึงเดินมากระซิบข้างๆหูของ ผอ. สองสามคำ

ตอนแรกสีหน้าของ ผอ. ก็ดูผ่อนคลาย แต่เมื่อได้ยินสิ่งที่นางพยาบาลพูดออกมาแล้วสีหน้าของเขาก็เคร่งเครียดขึ้นมา

เขาลังเลอยู่นาน จนสุดท้ายก็กัดฟันพูดขึ้นมาว่า “คุณหยาง รอผมสักครู่ ผมจะไปติดต่อกับเขาเดี๋ยวนี้”

ผอ. รีบเดินไปที่ลิฟท์ หยางหลิงรุ่ยก็เดินตามไป หยางเทียนเดินตามหลังเธอไปอีกที

เมื่อเห็นลิฟท์หยุดที่ชั้นบนสุด หยางหลิงรุ่ยถึงกับตะลึง

ที่ชั้นบนสุดมีคนไข้อยู่เพียงคนเดียวเท่านั้น กรุ๊ปเลือดของบอดี้การ์ดหลายสิบคน โรงพยาบาลแห่งนี้คนยังไม่เคยตรวจสอบ

หรือว่าจะเป็นฮั่วเทียนหลันที่มีเลือดRH?

เมื่อประตูลิฟท์เปิดออก เธอจู่ๆเธอก็ถามกับตัวเองว่าควรออกไปดีไหม

ร่างกายของฮั่วเทียนหลันเป็นอย่างไร เธอเองก็รู้ดี

เขาเป็นคนป่วย และเขาก็เพิ่งติดเชื้อมา เขาอ่อนแอมาก

ด้านหนึ่งเป็นคนที่อ่อนแอ อีกด้านหนึ่งคือคนที่พร้อมจะตาย

หยางหลิงรุ่ยลังเลอยู่สักพักก่อนที่จะก้าวออกไปจากลิฟท์

ออกจากลิฟท์มาได้ไม่นาน เธอก็เห็น ผอ. ถูกบอดี้การ์ดขวางทางอยู่ เขาจึงพูดออกไปอย่างกระวนกระวายใจว่า “รบกวนคุณช่วยไปบอกท่านประธานฮั่วหน่อยว่า ฉันมีเรื่องด่วนจะมาขอพบ”

แต่บอดี้การ์ดก็ส่ายหัวและพูดว่า “ท่านประธานไม่รับแขก!”

ผอ. ร้อนรน เขาไม่รู้จะทำอย่างไรต่อไป

แต่ตอนนั้นผู้หญิงที่อยู่ด้านหลังเขาก็พูดขึ้นมา “งั้นฉันขอพบคุณฮั่วได้ไหม?”

“คุณหนูหยาง เชิญเลยครับ!” บอดี้การ์ดพวกนี้ได้รับคำสั่งจากโจวหยวน ถ้าหากหยางหลิงรุ่ยมาที่นี่ก็อย่าไปขัดขวางเธอ

หยางหลิงรุ่ยเดินมาที่ประตูห้อง เคาะประตูก่อนที่จะเปิดเข้าไป

เธอเดินเข้ามาในห้องนอน และเห็นฮั่วเทียนหลันที่เพิ่งปิดคอมพิวเตอร์

“คุณฮั่ว....”

เธอไม่ต่อความยาวสาวความยืด เธอพูดออกมาด้วยเสียงที่อ้อนวอน ฮั่วเทียนหลันจึงขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อย

เขาไม่ได้เชิญให้หยางหลิงรุ่ยมา และเมื่อสักครู่ก็ได้ยินโรงยาบาลประกาศจากห้องประชาสัมพันธ์ เขาก็พอจะเดาได้ว่าเธอมาทำไม

“คุณหนูหยางมาในวันนี้ มีคำแนะนำอะไรหรือไม่?”

เสียงของเขาเพิ่งจะเงียบไป เขาก็เพิ่งสังเกตเห็นรอยแดงที่คอของหยางหลิงรุ่ย เขาขมวดคิ้ว ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความโกรธ

“เกิดอะไรขึ้น? ใครทำร้ายเธอ!”

เขาลุกจากโต๊ะหนังสือ และเดินมาหาเธออย่างรวดเร็ว

“มันเป็นแค่อุบัติเหตุ ฉันล้มลงโดยไม่ได้ตั้งใจ” หยางหลิงรุ่ยรีบไขข้อคล่องใจของเขา

ความโกรธมหึมาที่ชายคนนี้แผ่ออกมาด้วยเหตุผลบางประการทำให้หยางหลิงรุ่ยรู้สึกประหม่า

ฮั่วเทียนหลันยื่นมือออกมา จับคางของเธอเงยขึ้น มองไปที่รอยแผลเป็นที่คอของเธอและสร้อยคอก็หายไป

“เธอบอกว่าไม่มีอะไร แต่มันต้องมีอะไรแน่ๆใช่ไหม?”

รอยแผลที่อยู่ตรงคอของหยางหลิงรุ่ยนั้นไม่ธรรมดา และยิ่งถูกฮั่วเทียนหลันจับเงยคางขึ้น ยิ่งทำให้เธอเจ็บจนพูดไม่ถูก

เธอเจ็บมาก แต่เธอก็ต้องทนกับความเจ็บนั้นพร้อมพูดขึ้นมาว่า “คุณฮั่ว ฉันขอร้องอะไรคุณอย่างหนึ่งได้ไหม?”

ฮั่วเทียนหลันสังเกตเห็นความผิดปกติที่มือของตัวเอง เขาจึงถอยหลังออกมาสองก้าว จากนั้นก็พาหยางหลิงรุ่ยไปนั่งบนโซฟาแล้วพูดว่า “คุณหนูหยางเชิญพูด!”

หยางหลิงรุ่ยกัดริมฝีปากของตัวเอง ตอนนี้ในใจของเธอกำลังสับสน

เมื่อสักครู่หยางหลิงรุ่ยสัมผัสได้ถึงอุณหภูมิของร่างกายฮั่วเทียนหลัน มันค่อนข้างสูงเลย ใบหน้าของเขาก็ยังแดงๆอยู่ ไม่เหมือนกับคนที่มีร่างกายแข็งแรงเลย

แต่ตอนนี้ความหวังเดียวก็เธอ ก็คือเขา

ถ้าหากเขาไม่ยอมช่วยหละก็ จางรันก็คง....

ฮั่วเทียนหลันไม่ได้เร่งให้เธอพูดออกมา เขารอหยางหลิงรุ่ยพูดออกมาเอง ถึงแม้ว่าเขาจะรู้คำขอร้องนั้นแล้วก็ตาม

“คุณฮั่ว เกิดเรื่องขึ้นกับจางรัน กรุ๊ปเลือดของเขาคือRH และตอนนี้ที่คลังเลือดสำรองก็ไม่มีเลือดชนิดนี้ ในโรงพยาบาลนี้มีแค่คุณที่สามารถช่วยเขาได้ ขอร้องหละ คุณช่วยชีวิตเขาทีเถอะ! ”

หยางหลิงรุ่ยกัดฟันพูดประโยคนี้ออกมา เธอเกร็งจนร่างกายของเธอเกือบจะเป็นตะคริว

เธอรู้ว่า คำขอร้องนี้ของเธอมันน่าหัวเราะ

ถ้าหากร่างกายของฮั่วเทียนหลันแข็งแรงเหมือนปกติหละก็ คงไม่จำเป็นต้องพักอยู่ที่โรงพยาบาลนานขนาดนี้

ขอร้องผู้ป่วยคนหนึ่ง ให้ไปถ่ายเลือดให้ผู้ป่วยอีกคน

เกร่งว่าเรื่องแบบนี้ คงไม่มีใครเห็นด้วย

ดังนั้นหัวใจของเธอจึงตัดใจความความหวังนี้แล้ว และเธอก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกหดหู่

ฮั่วเทียนหลันมองไปที่ผู้หญิงที่อยู่ด้านหน้าของเขาอย่างลึกซึ้ง เธอดูเหมือนแบกรับความโศกเศร้าไว้มาก มือทั้งสองข้างที่กุมกันอยู่แน่น ทั้งหมดแสดงให้เห็นถึงความท้อแท้และความกังวัลในหัวใจของเธอ

“คุณหนูหยาง ถ้าคู่แข่งของคุณกำลังจะตาย คุณจะรีบไปช่วยชีวิตเขา หรือปล่อยให้เขาตายไปแบบนั้น?”

ฮั่วเทียนหลันไม่ได้ตอบคำถามนี้มาตรงๆ แต่กลับถามหยางหลิงรุ่ยแทน

หยางหลิงรุ่ยถอนหายใจ ที่แท้ก็เป็นแบบที่เธอคิด เรื่องนี้มันไม่มีความหวังตั้งแต่แรก

“ขอโทษคะคุณฮั่ว ที่ฉันมาล่วงเกิน ดูแลตัวเองดีๆนะ!” หยางหลิงรุ่ยลุกขึ้นเตรียมที่จะออกไป

ตอนนี้จางรันกำลังตกอยู่ในอันตราย ถึงแม้นี้มันจะเป็นช่วงเวลาสุดท้าย เธอก็ยังอยากที่จะไปอยู่ข้างๆเขา

เธอไม่ได้เกลียดฮั่วเทียนหลัน เขาไม่ต้องมาคิดกับเหตุผลนี้ วิเคราะห์จากปัจจัยทางกายภาพแล้ว เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะมาช่วยจางรัน

มองเห็นเงาหลังของหยางหลิงรุ่ยที่เดินไปอย่างโซซัดโซเซ

ฮั่วเทียนหลันรู้สึกปวดเวียนหัวเล็กน้อย เขาฟุบไปบนเตียงและสูดหายใจเข้าสองสามครั้งเพื่อเป็นการผ่อนคลาย

“คุณหนูหยาง เธอคุณจากไปแบบนี้ จางรันต้องตายแน่ๆ!”

หยางหลิงรุ่ยสะดุ้ง เธอไม่คิดว่าถึงขั้นนี้แล้วฮั่วเทียนหลันยังจะพูดอะไรแบบนี้ออกมาอีก

“จะเป็นหรือตายสวรรค์เป็นคนกำหนด คุณฮั่ว ฉันไปก่อน”

“ถ้าขอร้องฉันดีๆ ฉันอาจจะไปช่วยเขา!”

หยางหลิงรุ่ยที่กำลังจับลูกบิดประตูเพื่อจะเปิดออกไป มือของเธอที่กำลังสั่นอยู่ก็หยุดนิ่ง

สุดท้ายเธอก็เปิดประตูและเดินออกไป

ออกไปจากห้องผู้ป่วย เธอออกไปสูดอากาศสดชื่นจากด้านนอก ทำให้เธอรู้สึกสดชื่นขึ้นมาเล็กน้อย

ในความเป็นจริงมันไม่สำคัญว่าเธอจะขอร้องฮั่วเทียนหลันหรือไม่

เรื่องของศักดิ์ศรีมันมีค่าอะไร?

แต่ว่า การหายใจหอบ และสภาพร่างกายที่ไม่แข็งแรงของผู้ชายคนนั้น

ทำให้เธอไม่กล้าที่จะเอ่ยปากออกไป

เธอไม่สามารถเอาผู้ป่วยที่มีอาการหนักหนึ่งคนมาช่วยผู้ป่วยที่กำลังจะตายอีกคนได้

หยางหลิงรุ่ยเดินเข้าไปที่ห้องฉุกเฉิน มองเห็นใบหน้าที่ซีดจางของจางรัน เธอกุมมือของเขาไว้ ไม่ปล่อยให้เขาอยู่ห่างจากเธอ

แต่อุณหภูมิร่างกายของจางรันกำลังลดลงอย่างช้าๆ

เธอได้ยินหมอที่อยู่อีกด้านหนึ่งกระซิบกันเบาๆ ถ้าอีกครึ่งชั่วโมงยังไม่ได้เลือด จางรันก็คงจะต้อง.....

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: โชคชะตาตื้นมาก แต่ความรักนั้นลึกซึ้ง