โชคชะตาตื้นมาก แต่ความรักนั้นลึกซึ้ง นิยาย บท 350

เมื่อได้ยินคำพูดที่ดังมาจากด้านหลังอย่างไม่ขาดสาย หยางหลิงรุ่ยก็ไม่ได้เอาคำพูดเหล่านั้นมาคิดอะไรมาก

เนื่องจากเธอเพิ่งจะไปที่ห้องเขียนบท เธอสังเกตเห็นว่าเย่ตงหายไปนานขนาดนี้แล้วยังไม่กลับมา เกรงว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับเธอ

ดังนั้นที่เธอไปมาเมื่อสักครู่ ก็เพียงแค่ไปช่วยเย่ตงออกมาเท่านั้น

ส่วนเรื่องการเรียบเรียงข้อมูล แค่ใช้เวลาไม่กี่นาที ถ้าหยางหลิงรุ่ยอยากทำมันก็ไม่ใช่ปัญหา

และคำพูดเหน็บแนมที่คนพวกนี้พูด ก็ปล่อยให้พวกเธอพูดต่อไปเถอะ เพราะไม่ว่าพวกเขาจะพูดอย่างไรก็ไม่ได้ทำให้หยางหลิงรุ่ยเจ็บตัว

เธอรู้ดี เนื่องจากสถานะของเธอ หลายคนในบริษัทจึงวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับเธอไม่น้อย

Yang Group ได้รับซื้อกิจการเกี่ยวกับบริษัทภาพยนตร์มาเป็นจำนวนมาก และในจำนวนนั้นก็มีบริษัทใหญ่ๆอยู่หลายแห่ง

ก่อนที่หยางหลิงรุ่ยจะเข้ามา หลี่ชานซานใช้รูปร่างหน้าตาโดนเด่นของเธอให้เกิดประโยช์ โดยการเอาตัวเข้าหาผู้บริหารระดับสูงหลายคนเพื่อไต่เต้าขึ้นไปด้านบน

ดังนั้นตำแหน่งผู้อำนวยการนั้นเกือบจะตกเป็นของร้อยเปอร์เซ็นต์

และเนื่องจากเธอปรากฏตัวขึ้น ความฝันที่หลี่ชานซานหวังไว้ก็พังทลายลง

นี่ทำให้หลี่ชานซานเกลียดเธอ

หลี่ชานซานเป็นคนเก่าคนแก่ของบริษัท หลังจากที่หยางหลิงรุ่ยเข้ามารับตำแหน่งแล้ว เธอจึงให้คนตรวจสอบข้อมูลของหลี่ชานซานมาไม่น้อย

ไม่ตรวจสอบเสียยังจะดีกว่า เพราะตรวจสอบออกมาแล้วทำให้หยางหลิงรุ่ยรู้สึกไม่พอใจสักเท่าไหร่

ความสามารถในด้านการทำงานของหลี่ชานซานไม่ได้สูงส่งอะไร

แต่ความเกลียดชังในดวงตาของเธอมีอยู่เปี่ยมล้น

เธอไม่เคยต่อสู้แบบเปิดเผยกับบรรดาคู่แข่งก่อนหน้านี้ของเธอ

หรือพูดง่ายๆก็คือ เธอใช้เล่ห์เหลี่ยมและการเกี่ยวพัน และเธอก็เอาตัวเองเข้ามายืนในจุดๆนี้ในฐานะผู้หญิงคนหนึ่ง

แม้กระทั่งในปีที่เธอทำงานเป็นผู้ช่วย มีข่าวลือออกมาว่า เธอคิดว่าจะต้องมีชื่อเสียงก่อนถึงจะทำเรื่องหลายๆอย่างได้

หลังจากนี้ ก็มีศัตรูเพิ่มขึ้นอีกคนที่ชื่อว่าหลี่ชานซาน

ผลงานของเธอถูกเก็บไว้ในห้องเขียนบท ดังนั้นหยางหลิงรุ่ยจึงให้ความสำคัญเป็นพิเศษ

เธอเป็นเก่าแก่ของบริษัทคนหนึ่ง แต่ผลงานของเธอนั้นแย่มาก

ผลงานของหลี่ชานซานแย่มาก ไม่แตกต่างอะไรกับงานธรรมดาเท่าไป ไม่มีอะไรโดดเด่นเลยสักนิด

มีเงินเข้าออกบัญชี มีชีวิตที่สดใส พนักงานแบบนี้ยังคงมีอยู่ใน Yang's Entertainment ในตอนที่มีการปรับปรุงโครงสร้างของบริษัท หยางหลิงรุ่ยสงสัยว่าทำไมเธอถึงไม่ถูกจัดการออกไป

แต่ยังโชคดีที่ประธานบริษัท Yang's Entertainment หลี่ซือหยวนเป็นผู้นำที่ฉลาด เกี่ยวกับการเสนอชื่อให้หลี่ชานซานมาเป็นผู้กำกับภาพยนตร์และโทรทัศน์ทุกครั้งจึงถูกปฏิเสธ

หลี่ซือหยวนดูถูกมาตรฐานของหลี่ชานซาน

และความคิดของหยางหลิงรุ่ยก็เหมือนกับหลี่ซือหยวนเลย หลี่ชานซานคนนี้เป็นเนื้อร้ายของ Yang's Entertainment ถ้ามีโอกาสจะต้องกำจัดเธอออกไป

ระหว่างทางที่เธอเดินกลับ ก็ได้มองไปที่แผนกอื่นๆ

ถึงแม้ว่าตอนนี้จะเป็นเวลาพักแล้ว แต่ก็ยังมีพนักงานอีกหลายคนที่กำลังยุ่งอยู่กับการทำงาน ภาพที่เธอเห็นตอนนี้ทำให้เธอโล่งใจไม่เบา

อย่างน้อยพนักงานส่วนใหญ่ก็ยังทำงานเพื่อบริษัท

ดังนั้นเธอจึงตั้งใจที่เปิดประตูเข้าไปบอกพนักงานพวกนั้นให้ไปทายอาหารกันก่อน พักผ่อนสักหน่อยแล้วค่อยมาทำงานใหม่

สำหรับห้องเขียนบทเธอก็มีความคิดอยู่ในใจแล้ว

เธอกลับมาที่ห้องทำงาน เปิดประตูเข้าก็เห็นเย่ตงกำลังจัดเรียงเอกสารอยู่

หลังจากที่เห็นหยางหลิงรุ่ย เธอก็เก็บเอกสารทั้งหมดไว้ในมือ “ผู้อำนวยการยาง ฉันเพิ่งจะตรวจสอบเอกสารเหล่านี้ ตอนนี้ก็เรียบเรียงเรียบร้อยแล้ว!”

หยางหลิงรุ่ยพยักหน้าและปิดประตู

สำหรับเรื่องของเย่ตง ตอนนี้ก็ผ่านไปหลายวันแล้ว เธอก็พอเข้าใจมากขึ้น

เด็กผู้หญิงคนนี้ไม่เหมือนกับคนทั่วไป ความคิดของเธอโดดเด่นและกระตือรือร้น

ถ้าเป็นเวลาทำงานหละก็ เธอจะจริงจังและรอบคอบ งานที่ผ่านมือเธอมันแทบจะไร้ที่ติ

“อ่า ฉันทำมันเสร็จตั้งนานแล้ว” หยางหลิงรุ่ยพูดพร้อมยิ้มออกมา

เย่ตงตกใจ ผู้อำนวยการยางทำเสร็จเรียบร้อยแล้ว? งั้นจะเรียกเธอเข้ามาทำไม?

ปกติตอนที่เธอทำงานในบริษัทเธอจะไม่ค่อยพูด แต่นั้นก็ไม่ได้แปลว่าเธอพูดไม่เก่ง แต่เป็นเพราะเธอไม่อยากจะพูดให้มากความ เนื่องจากกลัวจะทำให้เกิดปัญหามากขึ้น

ในความเป็นจริง เธอเป็นคนที่จัดการกับอารมณ์ของตัวเองได้ดี

เธอเกือบจะรู้ได้ทันที่ว่าที่หยางหลิงรุ่ยไปหาเธอที่ห้องเขียนบทให้เธอมาจัดเอกสารในห้องให้ ก็เพื่อที่จะกู้หน้าให้เธอ

เธอควรจะเห็นได้แล้วว่า เธอถูกหลี่ชานซานรังแกอย่างไรบ้าง

ใบหน้าของเย่ตงแดงขึ้นเล็กน้อย นั่นเป็นเพราะความรู้สึกตื้นตันใจ เธอลุกขึ้นและพูดว่า “ผู้อำนวยการยาง ฉันขอบคุณคุณมากจริงๆ”

หยางหลิงรุ่ยยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ เธอหยิบกระเป๋าสะพายขึ้นมาพร้อมพูดว่า “กลางวันนี้ไปทานข้าวกับฉัน”

“ได้ค่ะ”

ทั้งสองคนเดินทางออกจากบริษัท ตอนแรกเย่ตงคิดจะไปทานอาหารที่โรงอาหาร

แต่ด้วยคำเชื้อเชิญของหยางหลิงรุ่ย พวกเธอจึงไปยังร้านหม้อไฟที่อยู่เยื้องๆฝั่งตรงข้าม

สั่งหม้อไฟแยกน้ำมา ศีรษะเต็มไปด้วยเหงื่อ แต่ทานแล้วก็รู้สึกผ่อนคลาย

เมื่อถึงตอนที่ต้องจ่ายเงิน เย่ตงรีบหยิบตังเขินมาเพื่อจะเป็นคนจ่าย แต่พนักงานก็พูดออกมาอย่างสุภาพว่า “ขอโทษด้วยค่ะ ท่านผู้หญิงผู้นั้นจ่ายมาแล้วค่ะ”

เย่ตงมองไปที่หยางหลิงรุ่ยด้วยความสงสัย ว่าเธอไปจ่ายเงินมาตั้งแต่เมื่อไหร่

แต่ตอนนั้นหยางหลิงรุ่ยก็พาเย่ตงเดินออกมาจากร้านหม้อไฟ

เมื่อกลับมาถึงบริษัท เธอเพิ่งจะนึกขึ้นได้ว่า ในตอนที่หยางหลิงรุ่ยลุกไปเข้าห้องน้ำ นั่นน่าจะเป็นตอนที่เธอลุกไปจ่ายเงิน

สำหรับผู้อำนวจการคนใหม่คนนี้แล้ว ความรักที่เธอมีให้ก็เริ่มเพิ่มมากขึ้น

ไม่มีความเสแสร้งใด้ๆ มีนำใจต่อพนักงาน และความสามารถในการทำงานก็สูงอีกด้วย

เธอรู้สึกว่าต้องหาโอกาสคุยกับเพื่อนร่วมงานที่สนิทสองสามคนในห้องเขียนบท เพื่อเตือนให้พวกเขาไปติดตามหลี่ชานซานแบบสุ่มสี่สุ่มห้า

เพราะอิงตามแบบแผนการพัฒนา เกรงว่าหลี่ชานซานจะมีภัย

เวลาพักกลางวัน หยางหลิงรุ่ยรู้สึกเวียนหัวเนื่องจากเปิดการประชุมหลายแผนกเกินไป

เธอมีสถานะที่พิเศษเนื่องจากผ่านการรับรองจากประธานหลี่ซือหยวนเป็นการส่วนตัว ดังนั้นทุกคนจึงค่อนข้างให้เกียรติเธอ

ในขณะที่ประชุมอยู่ เธอตัดสินใจในเรื่องของตัวบุคคล ให้ย้ายเย่ตงมาอยู่กับเธอ เพื่อไม่ให้เขาไปอยู่ใต้การดูแลของหลี่ชานซาน

ในขณะเดียวกันก็ยังอธิบายถึงแนวโน้มความนิยมล่าสุดหลายประการ และให้นักเขียนบทภาพยนตร์พัฒนาสคริปต์ให้สอดคล้องกันตามแนวโน้มเหล่านี้

ถ้าหากมีตรงไหนไม่เข้าใจ สามารติดต่อตงหยุนถิงที่แผนกประชาสัมพันธ์ได้

เธอมีประสบการณ์ในการเข้าใจผู้อื่นมากกว่าใครๆ

เลิกงานตอนเย็น หยางหลิงรุ่ยไม่ได้กลับบ้านแต่เธอตรงไปที่ร้านอาหาร

เธอนั่งอยู่ในห้องส่วนตัวได้ไม่นาน เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น และใบหน้าของหลี่ซือหยวนก็ปรากฏอยู่ตรงหน้าเธอ

หยางหลิงรุ่ยโบกมือ “หยุนถิง เธอมาสายนะ!”

ตงหยุนถิงเบะปากและพูดเย้าหยอกกลับมาว่า “ฉันไม่ได้ขับรถเร็วเหมือนเธอนี่”

ตงหยุนถิงรู้จักกับหยางหลิงรุ่ยมากกว่าหนึ่งปีแล้ว ในตอนนั้นหยางหลิงรุ่ยไปแข่งขันออกแบบที่แคนาดา

หยางยานบอกกับผู้อำนวยการฝ่ายเหนืออย่างหลี่ซือหยวนว่า ให้ดูแลน้องสาวคนนี้ของเขาให้ดี

ดังนั้นหลี่ซือหยวนจึงยกหน้าที่นี่ให้กับตงหยุนถิง

ผู้หญิงที่อายุใกล้เคียงกันสองคน นิสัยก็ไม่ได้ต่างกันมาก ไม่นานพวกเธอทั้งสองก็สนิทกัน

ในช่วงเวลาที่อยู่แคนาดา อาจจะพูดได้เลยว่าเป็นช่วงเวลาที่หยางหลิงรุ่ยผ่อนคลายที่สุด

ตงหยุนถิงหยิบผลไม้ที่อยู่ตรงหน้าขึ้นมากิน “การประชุมของเธอวันนี้พูดถึงการโยกย้ายบุคลากรเป็นพิเศษ และยังมอบแนวทางใหม่ของการเขียนบทละคร แบบนี้ก็แสดงว่าเธอมีเป้าหมายที่จะเล่นงานห้องเขียนบท?”

หยางหลิงรุ่ยพยักหน้า และก็ส่ายหน้าตามมา พูดออกมาแบบไม่มีอารมณ์ “เรื่องนั้นมันเป็นแค่เรื่องรอง แต่เรื่องที่สำคัญคือ ตอนนี้บทละครที่ออกมาจากห้องนั้นไม่ได้ทำให้ผู้อ่านหรือผู้ชมพอใจเลย ฉันจึงมอบแนวทางใหม่เป็นการคัดกรอง ใครที่มีความสามารถก็จะได้อยู่ที่นี่ต่อไป ส่วนคนที่ไร้ความสามารถก็เตรียมตัวไว้ได้เลย”

“อ่า เธอคิดดีแล้วใช่ไหม ทำแบบนี้ เท่ากับกำลังเจาะจงไปที่หลี่ชานซาน และดูจากลักษณะของหลี่ชานซาน เขาอาจจะทำให้เธอลำบากได้”

ตงหยุนถิงทำงานอยู่ที่บริษัทนี้มาเป็นเวลานาน อะไรควรหรือไม่ควร เธอรู้ดี

หลี่ชานซานคนนี้ เป็นเนื้อร้ายของ Yang's Entertainment มาตั้งนาน ทักษะการเอาตัวรอดของเธอนั้นดีมาก ขนาดหลี่ซือหยวนที่คิดจะจัดการเธอมาตั้งนานยังหาเหตุผลนั้นมาไม่ได้

“ไม่ต้องไปพูดถึงมันแล้ว วันนี้คนที่ทำให้ผู้ช่วยของฉันลำบากใจก็คือหลี่ชานซาน และคำพูดที่ฉันได้ยินมานั้นน่าช้ำใจมาก พวกเขาบอกว่าฉันเอาตัวเข้าแรกกับหลี่ซือหยวนเพื่อตำแหน่งนี้ เธอคิดว่ามันควรจะเป็นอย่างไรต่อไปหละ?”

หยางหลิงรุ่ยพูดถึงตรงนี้ ก็จ้องมองไปที่ตงหยุนถิง สายตาของเธอบ่งบอกว่าถ้าวันนี้เธอไม่พูดดีๆกับฉันสักหน่อยหละก็อย่าหวังจะได้ออกไปจากที่นี่เลย

หลี่ซือหยวนเป็นผู้ชายที่สมบูรณ์แบบที่สุดใน Yang's Entertainment เขาอายุสามสิบต้นๆ และยังไม่ได้แต่งาน

เขาอยู่ในตำแหน่งสูง ในวงการอุตสาหกรรมเรื่องนี้ไม่ได้เป็นเรื่องที่เกินจริง

เมื่อใดที่มีผู้หญิงที่ทำให้ผู้ชายคนนี้หลงใหลได้ เธอคนนั้นก็จะกลายเป็นเทพธิดาในทันที

แต่หลี่ซือหยวนก็เย็นชาเกินไป เขาเหมือนว่าไม่ค่อยมีความรู้สึกเมื่ออยู่ต่อหน้าผู้หญิง

ไม่อย่างนั้น คนที่ทำงานที่บริษัทนี้อย่างหลี่ชานซานคนได้คว้าตำแหน่งนั้นมาแล้ว

แต่หยางหลิงรุ่ยก็แอบไปรู้ความลับอะไรบางอย่างมา นั่นก็คือหลี่ซือหยวนได้ตัดสินใจใช้ชีวิตแบบลับๆกับตงหยุนถิงแล้ว

ตงหยุนถิงหัวเราะออกมาโดยน้ำเสียงที่ไม่มีความสุข “ถ้าหากมีคนมาพูดกับฉันแบบนี้หละก็ ฉันคงทนไม่ได้ตั้งแต่แรก และคนอย่างหลี่ซือหยวนเธอก็คงไม่สนใจ แต่ถ้าพูดกลับกันหลี่ซือหยวนได้แต่งงานกับคุณหนูตระกูลหยางหละก็ เขาก็คงจะเจริญก้าวหน้ากว่านี้ ทั้งชีวิตก็คง......”

“เธอยังจะพูดแบบนี้อีก!” หยางหลิงรุ่ยพูดออกมาด้วยความโกรธและเสร้งทำเป็นยกมือขึ้นมา

ตงหยุนถิงยอมจำนน เธอยกมือทั้งสองข้างขึ้นมากันพร้อมพูดว่า “ฉันผิดไปแล้ว แค่เลี้ยงอาหารมื้อนี้คงไม่พอ คุณหนูแห่งตระกูลหยางปกป้องพวกเราขนาดนี้”

หยางหลิงรุ่ยตะคอก เท่ากับว่าเธอยอมรับไปตามปริยาย

เธอก็นึกถึงตอนที่พี่สามของเธอเล่าให้ฟังถึงเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างหลี่ซือหยวนกับตงหยุนถิง

หลี่ซือหยวนชอบไปนั่งที่บร้านเหล้า แต่เข้าไม่เคยมองผู้หญิงคนไหนเลย เขาไปดื่มเหล้าเท่านั้น

แต่ในตอนนั้นตงหยุนถิงเพิ่งจะอกหักมา

เธอรู้สึกหดหู่ เธอเดิมมากจนมัว แต่ไม่รู้ว่าทำไมตอนนั้นเธอถึงมองไปที่หลี่ซือหยวน

ในร้านเหล้า เธอเดินเข้าไปหลี่ซือหยวนอย่างแน่น ถึงตายก็ไม่ยอมปล่อย เธอร้องไห้งอแง่และตีโพยตีพายว่าหลี่ซือหยวนเป็นแฟนของเธอ

หลี่ซือหยวนเป็นคนที่มีประสบการณ์มากมายในด้านของการทำธุรกิจ และด้ารความรักก็เช่นกัน แต่การที่ต้องมาเผชิญหน้ากับผู้หญิงแบบนี้เขาก็ไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อน

แต่ที่สำคัญเลยก็คือ ตงหยุนถิงหน้าตาดีมาก

มองไปที่เขาเหมือนกับจะบอกว่าถ้าเขาไม่พาตงหยุนถิงออกไป จะต้องมีคนอื่นมาลากเธอออกไปแน่

เห็นท่าทางที่โศกเศร้าของผู้หญิงที่กำลังเกาะต้นขาของตัวเองอยู่ เขาก็ถอนหายใจออกมาแบบไม่รู้ตัว ทำได้แค่พาตงหยุนถิงออกมาจากร้านเหล้าด้วย

เขาพาตงหยุนถิงมาที่โรงแรม เปิดห้องและพาเธอเข้าไปพักผ่อน

แต่เรื่องก็ยังไม่จบ ในตอนที่เขาจะออกไป ตงหยุนถิงกระโดดลงมาจากเตียงเพื่อกอดไปที่หลี่ซือหยวนและเริ่มทำการเคลื่อนไหวที่ไม่ชัดเจน

หลี่ซือหยวนก็ดื่มมามากพอสมควร เขาจึงเริ่มมีอารมณ์

ด้วยเหตุนี้ฉากอันเร่าร้อนของพวกเขาทั้งสองคนก็เริ่มขึ้น

พอถึงเช้าวันรุ่งขึ้นพวกเขาตื่นขึ้นมามองหน้ากันอยู่ครู่หนึ่ง

สุดท้ายตงหยุนถิงก็พูกออกมาประโยคหนึ่ง “ฉันจะเป็นคนรับผิดชอบนายเอง!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: โชคชะตาตื้นมาก แต่ความรักนั้นลึกซึ้ง