โชคชะตาตื้นมาก แต่ความรักนั้นลึกซึ้ง นิยาย บท 351

และคนที่รู้เรื่องนี้เป็นคนที่สามก็คือ หยางยาน

นี่เป็นหนึ่งครั้งที่หลี่ซือหยวนมึนเมา เพราะตงหยุนถิงอารมณ์ไม่ดี และไปร้องไห้กับเขา

อาหารเพิ่งถูกจัดเตรียมไว้และตัวเอกในคืนนี้ก็มาถึงแล้ว

ผู้ชายที่ใส่สูทรูปร่างสูงใหญ่ ใบหน้าของเขาหล่อเหลา ท่าทางสุขุมเดินเข้ามา นั่นทำให้บริกรที่เข้ามาเสิร์ฟอาหารดูจีดไปเลย

“มาสายแล้วครึ่งชั่วโมง!” หยางหลิงรุ่ยมองไปที่นาฬิกา และจงใจพูดออกมาด้วยท่าทางที่ไม่พอใจ

หลี่ซือหยวนขำ “ที่บริษัทมีเรื่องให้สะสางนิดหน่อย แถมตอนออกมารถก็ยังติดอีก เลยทำให้มาสาย”

“รู้ว่าจะต้องมีทานข้าวกับพี่สาวตงแล้วยังจงใจที่จะมาสายอีก ตงหยุนถิง ”

ตงหยุนถิงเบะปากและมองไปที่หลี่ซือหยวน เธอกำลังสงสัยว่าคืนนี้จะต้มมาม่าให้เขากิน หรือจะยึดรีโมททีวีดี?

หลี่ซือหยวนนั่งลง และพูดขอความเมตตาออกมาว่า “อย่าได้ถือสาเลย ข้าน้อยทำผิดไปแล้ว สาวสวยทั้งหลายได้โปรดให้อภัย”

ถ้าไม่นับรวมความเฉลียวฉลาดและความมั่นคงของบริษัทแล้ว หลี่ซือหยวนก็เป็นผู้ชายธรรมดาคนหนึ่ง

“นี่เป็นคนของครอบครัวเธอ เธอจะลงโทษอย่างไร ไหนลองบอกมาสิ!” หยางหลิงรุ่ยพูดออกมาเพื่อยุยงตงหยุนถิง

ตงหยุนถิงคิดว่าเมื่อวานเธอก็จัดการกับเขาไปแล้วหนึ่งครั้งจึงพูดออกมาว่า “ได้ วันนี้ฉันจะจัดการคุณอีกครั้ง”

“ที่บริษัทเป็นอย่างไรบ้าง?” หลี่ซือหยวนนั่งเลง เขาหยิบตะเกียบขึ้นมาพร้อมถามคำถามนี้ออกไปทำให้หยางหลิงรุ่ยรู้สึกไม่อยากกินอะไร

มันบังเอิญมากเพราะตอนที่หยางหลิงลุ่ยเข้ามาทำงาน หลี่ซือหยวนออกไปดูงานต่างประเทศ

เขาไปคุยโครงการที่ต่างประเทศ อยู่ที่นั่นหลายวัน วันนี้เขาเพิ่งจะกลับมา

ดังนั้นเขาจึงไม่ค่อยรู้เกี่ยวกับเรื่องที่ลูกน้องของเขาไม่พอใจหยางหลิงรุ่ย

“นายคิดว่าไงหละ?” หยางหลิงรุ่ยไม่ได้พูดอะไร ตงหยุนถิงเป็นคนถามขึ้นมาแทน

หลี่ซือหยวนเข้าใจในน้ำเสียงที่ตงหยุนถิงพูดออกมา เขาขมวดคิ้วเล็กน้อย เขานึกถึงพนักงานในบริษัทของเขาและพูดออกมาว่า “เป็นเพราะหลี่ชานซานใช่หรือเปล่า?”

ตงหยุนถิงเพิ่งพูดเสร็จ หยางหลิงรุ่ยก็ส่ายหน้าแล้วพูดว่า “พอได้แล้ว พวกเราไม่ใช่ว่าเลิกงานกันแล้วหรอ? เวลาทานข้าวก็คุยเรื่องที่มันมีความสุขสิ อย่าไปคิดเรื่องอื่นเลย!”

ไม่ต้องพูดเรื่องเกี่ยวกับบริษัท พวกเขาจึงพูดเรื่องเกี่ยวกับชีวิตประจำวันแทน

เมื่อเร็ว ๆ นี้มีข่าวอื้อฉาวในวงการบันเทิง 2 เรื่อง เรื่องแรกคือดารายอดนิยมอย่างเหลียวซิรงแอบไปออกเดทกับชายหนุ่มปริศนา

และสำหรับตัวตนของหนุ่มปริศนาคนนั้น ปาปารัสซี่ได้ทำการสืบค้นอย่างสุดความสามารถ แต่ก็ไม่ได้ข้อมูลอะไรมาเลย

เรื่องที่สอง เป็นเรื่องยาเสพติด เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นบ่อยในวงการบันเทิง ดังนั้นจึงไม่ค่อยมีคนสนใจ

“เมื่องานเลี้ยงครั้งที่แล้ว ฉันยังเจอดาราชายคนนั้นอยู่เลย นึกไม่ถึงว่าไม่กี่วันเขาจะกลายเป็นคนแบบนั้นไปแล้ว”

ในฐานะผู้อำนวยการฝ่ายประชาสัมพันธ์ ตงหยุนถิงจึงจำเป็นต้องเข้าร่วมงานเลี้ยงอยู่บ่อยๆ

“นั่นน่าจะเป็นงานเลี้ยงตอนรับแฟนสาวของเขาที่เพิ่งกลับประเทศมามั้ง เธอไปที่นั่นทำไม?” หลี่ซือหยวนถามออกมาโดยไม่ได้ตั้งใจ

“ทำไม ฉันจะไปไหนต้องบอกคุณก่อนหรอ?” ตงหยุนถิงเก่งในเรื่องการสร้างปัญหา เธอจึงพูดออกมาโดยไม่ลังเล นั้นทำให้หลี่ซือหยวนรู้สึกลนลาน

“ไม่ ไม่ ไม่ ไม่ต้อง....” หลี่ซือหยวนรีบพูดออกมา ตอนนั้นเขาก็คิดขึ้นได้ว่าหยางหลิงรุ่ยมาอยู่ที่บริษัทตั้งนานแล้วแต่เขายังไม่ได้จัดงานเลี้ยงต้อนรับเธอเลย

“อ่า ต้องขอโทษจริงๆ หลิงลุ่ย ในตอนที่เธอมาฉันควรจะจัดงานเลี้ยงต้อนรับเธอ แต่ในตอนนั้นฉันออกไปทำงานต่างประเทศเลย.....”

หยางหลิงรุ่ยก็ไม่ได้เป็นคนที่มีความต้องการสูงอะไร เธอยิ้มออกมา “งานเลี้ยงต้อนรับมันโอ่อ่าเกินไป ฉันมาเงียบๆแบบนี้แหละดีแล้ว”

ในตอนนั้นตงหยุนถิงจึงทนไม่ได้และพูดออกมาว่า “ท่านประทานหลี่ ท่านรู้ไหมว่าพนักงานในบริษัทของคุณคิดยังไงกับหยางหลิงรุ่ย?”

หลี่ซือหยวนตกใจ ทำไมเธอต้องเรียกเขาแบบนี้ด้วย?

เขาส่ายหน้าโดยไม่ได้ตั้งใจ และมองไปที่ตงหยุนถิงเพื่อจะถามคำถาม

ตงหยุนถิงรู้ว่าเขาทำเป็นแกล้งโง่ เธอจึงบรรยายออกแบบใส่อารมณ์อย่างมาก

“ผู้อำนวยการหยางคนนี้ มาแบบกะทันหัน คงต้องแลกกับอะไรไม่น้อย!”

“นั่นมันก็แน่นอน เห็นว่าประธานหลี่ไม่อยู่หลายวัน ผู้อำนวยการหยางจึงถูกบีบบังคับอย่างรุนแรง จนไม่รู้จะทำตัวอย่างไงแล้ว!”

“ประธานหลี่ก็เป็นคนตาไม่ถึง เจ๊ซานซานของพวกเราสวยซะขนาดนี้ เขายังไม่มอง แต่กลับไปมองผู้หญิงอย่าง.....”

เมื่อได้ยินคำพูดของตงหยุนถิง ใบหน้าของหลี่ซือหยวนก็มืดมน

เขาไม่เคยคิดมาก่อนว่า แค่เขาไม่อยู่ไม่กี่วัน จะมีเรื่องน่าปวดหัวมากมายเกิดขึ้นในบริษัท

“รอฉันกลับไปก่อน ฉันจะไปจัดการกับคนพวกนี้เอง” หลี่ซือหยวนเดาออกว่า จะต้องไปจัดการคนพวกนี้ได้ที่ไหน มันจะต้องเป็นผู้ช่วยของหลี่ชานซานที่อย่ในห้องเขียนบทแน่ๆ

เนื่องจากบริษัทยังไม่ได้จัดตั้งผู้นำของกลุ่มหนึ่งกลุ่มใดอย่างเป็นทางการ และเขาก็ต้องออกไปคุยเรื่องโครงการต่างของบริษัทด้านนอกบ่อยๆ เลยทำให้พนักงานบริษัทของเขาค่อนข้างจะหย่อนยาน

เมื่อทานของคาวเสร็จ พวกเขาทั้งสามก็สั่งของหวานมา และสนทนากันต่อ

อยู่ดีๆตงหยุนถิงก็พูดขึ้นมาว่า “พวกเธอรู้ไหม? ว่าประธานของ Fahrenheit Group จู่ๆก็ย้ายมาอยู่ที่เมืองsอย่างถาวร”

“เรื่องจริงหรอ?” หลี่ซือหยวนกับฮั่วเทียนหลันมีมิตรภาพที่ยาวนานต่อกัน

แต่คนที่สามารถติดต่อกับฮั่วเทียนหลันได้ก็คือหยางยาน ตอนนี้ระดับของหลี่ซือหยวนยังเอื้อมไม่ถึง

“มันก็แน่นอนอยู่แล้วสิ คุณสังสัยฉันหรอ?” บรรยากาศเริ่มดุเดือดขึ้นอีกครั้ง

“ไม่ใช่แบบนั้น คุณพูดเล่าต่อ....” หลี่ซือหยวนยกมือขึ้นมาปาดเหงื่อของตัวเอง และรู้สึกไม่ชอบใจปากของตัวเอง

“Fahrenheit Group ลงทุนกับโครงงานใหญ่ๆหลายโครงการในเมือง s และเขาก็ใช้อำนาจที่ค่อนข้างมั่นคงของบริษัทแย่งโครงการหลายๆโครงการไปจาก Yang Group”

“เขามาเพื่อทำการแข่งขันกับพวกเราหรอ?”

“ฉันคิดว่าไม่ใช่ เขาแค่ให้ผู้ช่วยคนสนิทของเขาโจวหยวนมาจัดการ เขาเป็นคนที่เรียบง่ายมาก และยังมีเรื่องที่ปาปาราซซี่ไปแอบถ่ายรูปที่เขากำลังส่งเด็กไปโรงเรียน เด็กคนนั้นน่าจะเป็นลูกสาวของเขา......”

ตงหยุนถิงป็นนักประชาสัมพันธ์ เธอมีวิสัยทัศน์ที่กว้างไกล แต่เธอก็ไม่สามารถเข้าถึงการทำงานของฮั่วเทียนหลันได้

มีแค่หยางหลิงรุ่ยที่เข้าใจเรื่องราวเหล่านี้

ของหวานที่ตอนแรกถูกปาก แต่ตอนเธอนี้กลับกินไม่ลง

ทั้งสมองและจิตใจของเธอเต็มไปด้วยภาพของผู้ชายคนนั้น

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: โชคชะตาตื้นมาก แต่ความรักนั้นลึกซึ้ง