โชคชะตาตื้นมาก แต่ความรักนั้นลึกซึ้ง นิยาย บท 364

หยางหลิงรุ่ยตระหนกตกใจและพยายามดิ้น แต่ในทางกลับกันเขากลับใช้แรงมากขึ้นเรื่อย ๆ

เวลานั้นเอง รถตู้วีไอพีก็มาจอกอยู่ไม่ใกลจากรถของหยางหลิงรุ่ย

นักเขียนบทหลายคนลงมาจากรถและเดินตรงมาที่รถMaybachของฮั่วเทียนหลัน พวกเขาอดไม่ได้ที่จะมองมัน

รถหรูจริงๆ

ประเด็นตอนนี้คือฉากในรถหรูทำให้คนอยากเข้าไปดูใกล้ ๆ

ผู้ชายคนนึงกำลังทับร่างผู้หญิงแบบนี้

มองก็รู้ว่าคนที่อยู่ใต้ร่างของผู้ชายคือใคร

หยางหลิงรุ่ยก็สังเกตเห็นมีคนเดินมา เธอก็รู้สึกประหม่าทันที และผลักชายตรงหน้าเธออย่างแรง

“ฮั่วเทียนหลัน คุณบ้าเหรอ มีคนมา ... ”

ด้วยความเป็นมนุษย์ จึงต้องรู้จักคำว่าอาย

แต่หยางหลิงรุ่ยยังคงประเมินเขาต่ำไป

ฮั่วเทียนหลันไม่ได้หันหัวไปตอง แต่ใช้แรงดันตัวเขาหนักขึ้น

"ให้พวกเธอดูไปเถอะ ไม่มีใครกล้าพูดอะไรอยู่แล้ว"

หลังจากเขาพูดจบ ร่างกายของหยางหลิงรุ่ยก็หยุดนิ่ง

เธอมองไปที่สายตาที่ดุดันของเขา

สายตาที่ดุดันทำให้เธอหลบตามองอย่างรวดเร็ว

“ แต่ แต่ ... ”

"ไม่มีคำว่าแต่"

ฮั่วเทียนหลันกดตัวลงเข้าใกล้หยางหลิงรุ่ยมากขึ้นเรื่อย ๆ ลมหายใจอุ่นๆของชายคนนั้นทำให้รหยางหลิงรุ่ยเกร็ง

“ ไม่ ฉันรู้แล้วว่า ฉันควรจะตอบแทนคุณ ”

ด้วยความกลัวข้อเรียกร้องซ้ำแล้วซ้ำเล่าของเขา ทำให้หยางหลิงรุ่ยก็รู้สึกกลัว

เธอเงยหน้าขึ้นจ้องมองของฮั่วเทียนหลัน

หลังจากได้ยินคำพูดของหยางหลิงรุ่ย ดวงตาของเขาก็ฉายแววประหลาดใจอย่างชัดเจนซึ่งมันแฝงไปด้วยความเจ้าเล่ห์

การยอมที่ง่ายดายเช่นนี้ ทำให้หยางหลิงรุ่ยประหลาดใจมาก

แต่หยางหลิงรุ่ยก็รู้ว่าเธอต้องเคลียร์เรื่องราวระหว่างเธอกับฮั่วเทียนหลันเสียที มิฉะนั้นตามระดับความใกล้ชิดระหว่างคนทั้งสองมันจะพัฒนาไปถึงระดับ เธอก็ไม่กล้าที่จะคิด

นี่มันเป็นคืนอะไรกันนี่ .. ไม่ใช่สิ ที่เงียบๆไม่มีคนอย่างที่จอดรถใต้ดิน ถ้ารู้แต่แรก เธอก็ควรให้เขาจอดส่งเธอข้างบน

ผู้ชายคนนี้ คงจะคิดไว้แล้ว ว่ามาถึงที่นี่ก็พร้อมที่จะแกล้งเธอ

“คุณหยาง คุนจะตอบแทนผมอย่างไร” เขาหันหน้าไปทางหยางหลิงรุ่ย และไม่ได้บังคับเธอต่อ

มีคำพูดอยู่ว่า แตงที่แข็งกระด้างไม่หวาน หรือการทำอะไรโดยการฝืนก็คงเป็นเรื่องจริง

เขาอยากให้ความสัมพันธ์ของเขากับเธอแนบแน่น จนเธอไม่อาจทิ้งเขาไปได้

ตอนนั้นไม่ว่าเธอจะสูญเสียความทรงจำหรือไม่ เธอยังคงเป็นผู้หญิงของเขา และลั่นลานก็จะมีแม่

“ ฉัน ฉัน ... คุณฮั่ว คุณกลับไปนั่งที่เดิมก่อนได้ไหม”

หยางหลิงรุ่ยพูดตะกุกตะกักเล็กน้อย เธอก้มหัวลงและพูดประโยคนั้นออกมา

ฮั่วเทียนหลันเชื่อว่าหยางหลิงรุ่ย เธอสัญญากับเขาแล้ว เธอก็จะไม่แอบหนีไปอย่างแน่นอน

ดังนั้นเขาจึงกลับมานั่งที่เดิม แต่หันหัวไปรอหยางหลิงลุ่ย

ขณะนั้นโทรศัพท์มือถือของหยางหลิงรุ่ยก็ดังขึ้น หยางหลิงรุ่ยมองดูก็พบว่าเย่ถงโทรมา

เธอทำสัญลักษณ์มือเพื่อให้ฮั่วเทียนหลันเงียบๆ แล้วเธอก็รับสาย

"คุณหยาง คุณมาถึงเมื่อไหร่ พวกเรารอคุณอยู่"

"รอสักครู่นะคะ ฉันอยู่ที่ลานจอดรถชั้นใต้ดินแล้ว"

หลังจากหยางหลิงรุ่ยวางสายโทรศัพท์ ก็มองไปที่ฮั่วเทียนหลัน

ดวงตาที่รู้สึกเคืองๆทำให้ฮั่วเทียนหลัยอยากที่จะเริ่มทำบางอย่างพิชิตมันอีกครั้ง

การที่ฮั่วเทียนหลันขยับตัว หยางหลิงรุ่ยก็รู้แผนการที่อยู่ในใจเขาทันที

เธอรีบพูดว่า: "หยุดนะคะ คุณฮั่ว นั่งดีๆ แล้วหลับตาลงค่ะ"

หลับตา?

ฮั่วเทียนหลันคิดในใจว่า พอเขาหลับตาลง เธอก็คงจะเปิดประตูรถ แล้วก็วิ่งหนีไป?

หรือเธอจะคิดที่จะจูบเขา?

ฮั่วเทียนหลันคิดพลางยิ้มที่มุมปาก

หยางหลิงรุ่ยเห็นแต่ก็พูดไม่ได้พูดอะไรออกมา

ชายคนนี้คิดในใจคิดเรื่องอะไรอยู่นะ? เป็นเรื่องหน้าด้านๆอีกแน่?

ฮั่วเทียนหลันหลับตาลงด้วยความร่วมมือ เขาตัดสินใจที่จะเชื่อใจผู้หญิงคนนี้ดูสักครั้ง

แม้ว่าเธอจะวิ่งหนี เขาก็สามารถจับเธอกลับมาได้

หากไม่ฟังกันที่ๆ ที่บริษัทก็คงจะมีเรื่องบางอย่างที่ทำให้คนต้องหน้าแดง

ฮั่วเทียนหลันคิดในใจ ไฟแห่งความปรารถนาเริ่มลุกโชน

หยางหลิงรุ่ยมองไปที่ใบหน้าหล่อเหลาของเขา ขนตายาว ผิวที่ผู้หญิงอิจฉา จมูกโด่ง ตาสวย รอยยิ้มที่เผยให้เห็นลักยิ้มที่มุมปาก ทุกๆที่ล้วนมีเสน่ห์

เธอนิ่งดูอยู่นาน

ฮั่วเทียนหลันรออยู่นาน ไม่เห็นว่าเธอจะทำอะไร

เสียงประตูรถก็ไม่ได้ยิน ผู้หญิงคนนั้นยังอยู่ในรถ แต่เธอไม่ทำอะไรเลย

เขาทนไม่ได้ จึงลืมตาขึ้นมองหยางหลิงรุ่ย

จากนั้นเขาก็เห็นเธอนิ่งอยู่ข้างๆ

ในสายตาของหยางหลิงรุ่ย ทำให้ฮั่วเทียนหลันยิ้มกว้างจากนั้นความรู้สึกอบอุ่นก็แผ่ซ่านไปทั่วร่างกาย โดยผ่านทางริมฝีปากของเธอ

"อื๊อ ..." หยางหลิงรุ่ยพยายามดิ้น ขณะที่ฮั่วเทียนหลันใช้แรงกดไปที่ร่างของเธอ ทำให้ตัวเธอสั่นเล็กน้อย

เป็นเวลาสามนาทีเต็ม เธอรู้สึกว่าเธอกำลังจะขาดอากาศหายใจหลายครั้ง จนในที่สุดฮั่วเทียนหลันก็ปล่อยเธอไป

เธอนอนหงายอยู่บนเบาะ หายใจแรงและพูดอย่างอ่อนแรงและไม่พอใจ "คุณฮั่ว คุณบอกเองไม่ใช่เหรอ ว่าจะให้ฉันตอบแทนคุณ"

ฮัวเทียนหลันหัวเราะเบา ๆ กับคำพูดของเธอ

“ ผมเห็นคุณหยางนั่งอยู่นิ่งๆ ก็เลยทำเองซะเลย”

"ลามก?"

หยางหลิงรุ่ยอดไม่ได้ที่จะพูดสิ่งที่ตนคิดไว้ออกมา

แต่เธอก็รู้ว่ามันเป็นเรื่องปกติของผู้ชายคนนี้

ดังนั้นเธอก็ได้แต่ถอนหายใจออกมา และเบะริมฝีปาก

ในขณะที่เธอมองหน้าฮั่วเทียนหลัน เสียงของเขาก็ดังเข้ามาในหูของเธอ

"คุณหยาง คุณยังไม่ไปอีกเหรอ"

"หา คุณไล่ฉันเหรอ? " หยางหลิงรุ่ยถูกเขาจูบจนสมองของเธอลืมไปหมดทุกสิ่งอย่าง

"ไม่ ผมไม่ได้หมายความว่าอย่าง ถ้าคุณหยางอยากอยู่ต่อ ไม่อยากไปประชุมแล้วก็ไม่เป็นไร"

คำพูดของฮั่วเทียนหลัน ทำให้หยางหลิงรุ่ยนึกขึ้นได้

เธอเหลือบมองไปที่โทรศัพท์ เธอเปิดดูสายที่โทรมาเมื่อสักครู่ ตอนนี้มันก็ผ่านไปแปดนาทีแล้ว

เธอรีบลุกขึ้นนั่ง จากที่นั่งปลดล็อกประตูรถ แล้วรีบออกไป

เสียงรองเท้าส้นสูงห่างออกไปไม่กี่ก้าว เธอก็เดินกลับเข้ามาอีกครั้ง

ฮั่วเทียนหลันเหลือบมองก็เห็นกระเป๋าของหยางหลิงรุ่ยวางอยู่ ก็หยิบและยื่นให้เธอ

เมื่อหยางหลิงรุ่ยกำลังจะก้มหัวเพื่อหยิบกระเป๋า เธอก็เห็นกระเป๋าอยู่ในมือของชายเขา และมันห้อยอยู่ตรงหน้าเธอ

เธออดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา และหยิบกระเป๋า เธอกล่าวขอบคุณเสียงเบาๆแล้ววิ่งออกไปอย่างรวดเร็ว

แต่ครั้งนี้ เธอไม่ได้หันกลับไป และก็นึกได้ว่าก่อนที่จะเดินออกมาเธอปิดประตูรถของเขาแล้ว

มองดูที่กระจกรถ ก็เห็นเธอวิ่งไปที่มุมๆหนึ่ง เพื่อขึ้นลิฟต์

แววตาฮั่วเทียนหลันที่แฝงไปด้วยเล่ห์กลตอนนี้ไม่หลงเหลือแล้ว แต่ตอนนี้มันกลับเต็มไปด้วยความเสน่หา

ไม่เป็นไรถ้าเธอลืมเขา

นับตั้งแต่เธอกลับมาที่ประเทศจีน เราได้เปิดโหมดความรักในครั้งที่สอง

ไม่ช้าก็เร็วเธอก็จะเป็นของฉัน!

หยางหลิงรุ่ยขึ้นลิฟต์ และมีคนจากชั้นหนึ่งต้องการขึ้นลิฟต์

พนักงานหญิงหลายคนเข้ามา พวกเธอก็จำหยางหลิงรุ่ยได้เนื่องจากเคยเห็นหน้ามาบ้าง ต่างก็กล่าวทักทายด้วยรอยยิ้ม

หยางหลิงรุ่ยก็พยักหน้าตอบรับเช่นกัน

จากนั้นคนที่ขึ้นมาสองสามคนก็ซุบซิบกัน และหยางหลิงรุ่ยก็ได้ยินเสียงใครบางคนกำลังซุบซิบกันข้างๆหูของเธอ

“ ในรถเมื่อกี้เป็นผู้อำนวยการหยางเหรอ?”

"เธอก็ดูชุดสิ มันคือเธอจริงๆ"

"ผู้ชายคนนั้นเป็นใครกัน คนที่ขับ Maybach Maybachคันนั้นเป็ญรุ่นลิมิเต็ดอิดิชั่นด้วย ฉันจำได้ว่าเคยอ่านครั้งหนึ่งในหนังสือ มันมีเพียงสามคันในโลก ..."

“ยังต้องคิดอีกเหรอ ต้องเป็นพ่อบุญทุ่มแน่ ๆ ! คนที่ขับรถแบบนั้น ไม่น่าจะใช่คนหนุ่มๆ อาจจะเป็นแค่ชายชราผมหงอก... ”

"ไม่น่าจะใช่นะ ผมของผู้ชายคนนั้นสีดำ"

“เธอนี่โง่จริงๆ เขาย้อมผมไม่ได้เหรอ?”

...

คนกลุ่มนี้สนทนากันในลิฟต์ ซึ่งเมื่อยิ่งพูดเสียงก็ดังขึ้นเรื่อยๆ

หยางหลิงรุ่ยทนยืนฟังอยู่พักหนึ่ง แต่เธอก็ทนไม่ไหว

ห้องทำงานของเธออยู่ที่ชั้น 28 และกดลงที่ชั้น 20 และรีบรูดบัตรของเธอเพื่อขึ้นลิฟต์พิเศษ

ไม่มีใครอยู่ในลิฟต์พิเศษ เธอจึงถอนหายใจยาวอย่างโล่งอก

จากนั้นหัวใจของฉันก็เริ่มรู้สีกแปลกๆ

ต้องโทษผู้ชายคนนั้น ถ้าไม่ใช่เพราะเขา ที่มุ่งตรงไปที่ลานจอดรถชั้นใต้ดินโดยไม่ลังเล มีคนมาก็หลบ ถ้าไม่ยังงั้นก็คงไม่เกิดเรื่องนี้ขึ้นมาหรอก

ตอนนี้ตัวเองก็คงจะกลายเป็นคนดังของบริษัทอีก

เมื่อถึงชั้น 28 หยางหลิงรุ่ยออกมาจากลิฟต์เธอก็เห็นผู้ช่วยในสตูดิโอ ส่วนอีกฝ่ายเรียกผู้อำนวยการหยางทันทีเมื่อเห็นเธอ

หยางหลิงรุ่ยพยักหน้า แต่สังเกตว่าสายตาของเขาผิดปกติ

เมื่อเธอเดินผ่าน เธอรู้สึกได้ถึงสายตาที่จ้องมองมาข้างหลังเธอ

ผู้คนที่เดินผ่านไปมาล้วนมองเธอด้วยสายตาเช่นนี้ จึงทำให้เธอรู้สึกเหมือนนั่งอยู่บนเข็มเย็บผ้า

หลังจากเข้ามาในห้องทำงาน เธอก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก

เพียงแค่นั่งลง ประตูห้องก็เปิดออก

"ผู้อำนวยการหยาง คุณมาแล้ว" เย่ถงเข้ามาเพราะ หยางหลิงรุ่ยไม่ปรากฏตัวที่ที่ประชุม ดังนั้นจึงมีหัวหน้าอีกท่านดำเนอการประชุมแทน

เย่ถงมองไปที่หยางหลิงรุ่ยด้วยสายตาที่สงสัยอยู่พักหนึ่ง แต่ไม่กล้าที่จะพูดอะไร

แน่นอน หยางหลิงรุ่ยสังเกตเห็นสายตาของเธอ

เธออดไม่ได้ที่จะถอนหายใจและพูดว่า: "ถ้าคุณมีอะไรจะพูด ก็พูดไปเถอะ"

" หา? " เย่ถงทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้

“ถ้าไม่พูด ก็ไม่ต้องพูดแล้วค่ะ คุณไปจัดเรียงข้อมูลพวกนี้ ฉันต้องใช้มันวันนี้ค่ะ ”

หยางหลิงรุ่ยพูดพลางชี้ไปที่กองเอกสารขนาดใหญ่ทางด้านขวา

หลังจากที่ได้อยู่กับหยางหลิงรุ่ยมาเป็นเวลานาน เย่ถงก็รู้สักว่าเธอไม่เหมือนเดิม

เมื่อเห็นภาระงานหนักอยู่ตรงหน้า เธอก็แสดงสีหน้าเศร้าทันที และพูดอย่างน่าสมเพชว่า "พี่หยางคะ ฉันทำอะไรผิดไปคะ ฉันไม่ควรจะไปเชื่อพวกเธอ และไม่ควรที่มองพี่ด้วยสายตาแบบนี้ ..."

เอกสารกองนี้ หยางหลิงรุ่ยจัดไว้ให้เย่ถง

แต่สิ่งที่พูดเมื่อกี้ ที่จริงมันไม่ต้องทำให้เสร็จวันนี้

หยางหลิงรุ่ยให้เวลาเย่ถงหนึ่งสัปดาห์ วันละสามหรือสี่ชั่วโมง ซึ่งไม่ใช่เวลาของทั้งสัปดาห์

แต่ตอนนี้เย่ถงมีเวลาจำกัด

เพราะเหตุใด เย่ถงในใจนั้นเธอรู้ดี เธอจึงรู้สึกกลัวทันที

"หืม?" หยางหลิงรุ่ยมองเย่ถงด้วยแววตาล้อเล่น

เย่ถงรู้ว่า ถึงเวลาแล้วที่เธอจะต้องแสดงความจงรักภักดี

"ข่าวลือในบริษัทจินไห่เว่ยผู้ช่วยในสำนักงานนักเขียนบทภาพยนตร์เป็นคนนำมาเล่า"

"จินไห่เว่ย?" หยางหลิงรุ่ยมีความรู้สึกคุ้นๆกับชื่อนี้ เหมือนจะเป็นความทรงจำไม่ดีนักกับเธอ

“เธอเป็นลูกน้องของหลี่ซานซาน”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: โชคชะตาตื้นมาก แต่ความรักนั้นลึกซึ้ง