ฮั่วเทียนหลันตระหนักดีถึงความผิดปกติของหยางหลิงรุ่ย เขายกแก้วไวน์ขึ้น และแตะแก้วไวน์ตรงหน้าหยางหลิงรุ่ยเบา ๆ แล้วพูดว่า " คุณนายหยางคุณเมาจนวิญญาณออกไปล่องลอยแล้วหรือครับ อาหารมื้อนี้อร่อยมากครับ ต้องขอบคุณคุณมากที่เชิญผมมา"
หยางหลิงรุ่ยมองไปที่ฮัวเทียนหลัน แต่สายตาของเธอพร่ามัวเล็กน้อย
ราวกับว่าจะมีหมอกอยู่ในดวงตา!
ฮั่วเทียนหลันท้องไม่ค่อยดี จึงจิบไวน์แดงไปหนึ่งอึก
แต่หยางหลิงรุ่ยคว้าแก้วไวน์แดงขึ้นมาดื่มจนหมด
หลังจากดื่มไวน์แดงหนึ่งแก้วความทรงจำที่วุ่นวานที่ติดในใจของเธอก็หายไป
เธอพิงพนักเก้าอี้ ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก
หลังจากถอนหายใจออกมา ก็รู้สึกอ่อนลง
ขณะนั้นโจ๊กข้าวฟ่างก็มาเสิร์ฟลงที่โต๊ะ และวางไว้ตรงหน้าของฮั่วเทียนหลัน
เมื่อเห็นถั่วลิสงสีแดงลอยอยู่ในโจ๊กข้าวฟ่างสีเหลือง ฮั่วเทียนหลันก็สัมผัสได้ถึงความนุ่มนวลที่อยู่ในหัวใจของเขา
เขาหยิบช้อนขึ้นมาเป่า และนำเข้าปาก เขาก็มองไปที่หยางหลิงรุ่ย
"คุณจำได้ไหม?"
"หือ ไม่ ไม่ฉันไม่รู้อะไรเลย ..."
หยางหลิงรุ่ยรีบส่ายหัวและโบกมือ แต่เธอไม่ทันสังเกตยิ่งเธอทำแบบนี้ ก็ยิ่งดูมีพิรุธ
ฮั่วเทียนหลันยิ้ม แต่ไม่ได้สนใจอะไร
"โจ๊กนี้ ถึงมันจะดูไม่ดี แต่ก็มีคุณค่าทางโภชนาการมากมาย เมื่อก่อนผมก็เคยบอกกับอันหรัน"
อันหรันสองคำนี้ เป็นชื่อของหญิงสาว ฮั่วเทียนหลันไม่ได้จงใจจะเน้นมัน แต่เพียงแต่ต้องการจะให้หยางหลิงรุ่ยได้ยินมันชัดเจนก็แค่นั้น
แต่ใจของเขามันดังก้องในขณะนี้
สมองที่เพิ่งสงบลงนี้ ก็เริ่มมีภาพขึ้นมาอีกครั้ง
ในห้องครัว หญิงคนนั้นกำลังนำชามซุปข้าวฟ่างออกมาโดยมีถั่วลิสงลอยอยู่บนซุป
เธอรอที่โต๊ะด้วยความหวัง รอฮั่วเทียนหลันกลับมา จะให้เขาทานบำรุงกระเพาะ
แต่เมื่อฮั่วเทียนหลันกลับมา ก็ทิ้งมันต่อหน้าเธอ สีหน้าของเขาไม่พอใจนัก
" เธอน่าจะดีกับคุณนะคะ"
ภาพนั้นทำให้ดวงตาของหยางหลิงรุ่ยแดงขึ้นเล็กน้อย
แน่นอนว่าคนที่น่าสงสารและเกิดความรู้สึกเกลียดชังในความทรงจำของเธอนี้ เธอไม่สามารถโกหกตัวเองได้ ฮั่วเทียนหลันทำเรื่องแบบนี้จริงๆเหรอ
"อืม เธอดีกับผมมากครับ แต่ผมไม่ดีกับเธอ"
ฮั่วเทียนหลันพูดน้ำเสียงสงบนิ่ง แต่น้ำเสียงนั้นแฝงไปด้วยความสำนึกผิด
หยางหลิงรุ่ยตกใจ ชายคนนี้ยอมรับหรือนี่?
เขาไม่เคยบอกว่า ภรรยาของตัวเองคืออันหรันหรือเปล่า?
การสูญเสียความทรงจำ ทำให้เขาพยายามค้นหาหนทาง ที่จะนำหัวใจของเธอกลับมาหาเขาอีกครั้ง
ความทรงจำที่มืดมนเหล่านี้ เขาไม่ควรปิดผนึกและเก็บมันไว้ไม่ให้ใครรู่ไม่ใช่เหรอ?
“ แล้ว ... คุณฮั่ว ทำไมคุณถึงทำไม่ดีกับเธอล่ะคะ"
หยางหลิงหลิงมองฮั่วเทียนหลันขณะกำลังทานโจ๊ก แต่แขนของเขาจู่แขนของเขาก็สั่น
“ตอนนั้นผมมันไม่ใช่คน”
ฮั่วเทียนหลันกล่าวด้วยท่าทางที่เรียบง่าย แสดงทัศนคติของตัวเองออกมา
หยางหลิงรุ่ยกำลังจะเปิดปากพูด แต่ก็รู้สึกว่า คำพูดของเขามันมีเหตุผล
“ ทานข้าวเถอะค่ะ!”
เธอทำได้เพียงแค่จบหัวข้อนั้น ยื่นตะเกียบออกมาและคีบไก่ทอดรสเผ็ดที่ตนเองชอบ
แต่ไก่ทอดรสเผ็ดที่ตนชอบ ตอนนี้กลับรู้สึกว่าในปากเหมือนกำลังเคี้ยวอะไรก็ไม่รู้
บางครั้งสิ่งที่น่ากลัวที่สุดไม่ใช่ความทรงจำที่เศร้าโศก
แต่ความทรงจำเหล่านั้นต่างหาก ที่กลับทำให้เศร้าแทน
กลายเป็นว่าตัวเองจำทุกสิ่งที่ตัวเองทำกับผู้ชายคนนี้ได้อย่างลึกซึ้ง
เธอจำความชอบของเขาได้ และเขาจำความชอบของตัวเธอเองได้
เธอสูญเสียความทรงจำ แต่เขาไม่เคยลืมมัน
เธอเคยดีกับเขา แต่เขาทำไม่ดีกับเธอ
ตอนนี้เธอปฏิบัติกับเขาไม่ดี แต่เขาก็ปฏิบัติต่อเธอเป็นอย่างดี
สลับกันไปมา
เหตุการณ์พลิกผันนี้ ทำให้ทุกอย่างเข้าสู่เริ่มต้นอีกครั้ง
ตัวตนก่อนหน้านี้ รักเขาแม้เข้าจะรังเกียจเธอ
แต่ตอนนี้ล่ะ?
ในใจของหยางหลิงรุ่ยพยาคิดโน่นคิดนี่อยู่เป็นเวลานาน แล้วเธอก็ค่อยผ่อนลมหายใจออกมา
ในใจเหมือนทีกรอบบางๆกั้นอยู่ ไม่ใช่ว่าจะลบมันออกไปง่ายๆ
อาหารมือนี้จึงถือได้ว่าไม่มีรสชาติ หยางหลิงรุ่ยมัวแต่นำเรื่องราวในใจมาคิดจนมันแสดงออกมาทางสีหน้า
ฮั่วเทียนหลันมองไปที่เธอ ดูเหมือนจะเข้าใจสิ่งที่เธอคิด แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร
หลังทานอาหารเสร็จ พนักงานบริการก็ได้นำดักแด้มาเสิร์ฟ
ฤดูนี้เป็นช่วงฤดูที่ต้องกินดักแด้ เพราะเป็นอาหารที่มีโปรตีนสูง
อาหารจานนี้ถือเป็นของแถม เพราะตอนที่ดื่มไวน์แดงLafite บอดี้การ์ดได้มอบหมายให้พนักงานมาเสิร์ฟ
บอดี้การ์ดแม้ไม่ได้มาบอกฮั่วเทียนหลัน แต่เขาก็พอจะเดาได้
เมื่อมองไปที่ดักแด้ที่เพิ่งวางลง ฮั่วเทียนหลันก็ขมวดคิ้วเล็กน้อยและพูดว่า: "พวกเราไม่ได้สั่งนะ"
"ท่านครับ พอดีวันนี้ร้านของเราได้จัดกิจกรรม สำหรับลูกค้าที่ใช้จ่ายครบพันหยวนจึงได้รับครับ"
“ ไม่เป็นไร เก็บมันไป” ท่าทีของฮั่วเทียนหลันดูจริงจัง
หยางหลิงรุ่ยที่อยู่ภวังค์ก็ตื่นขึ้น เธอมองไปที่ดักแด้ตรงหน้าเธอและพูดว่า "คุณฮั่ว มันก็แค่ของแถม ... "
ก่อนที่เธอจะพูดจบ ฮั่วเทียนหลันก็ขัดจังหวะเธอ
“ คุณไม่รู้หรือว่าตัวเองแพ้ดักแด้”
"หือ?" คนที่ตะลึงตอนนี้กลายเป็นหยางหลิงรุ่ย
จากนั้นเธอก็ตอบสนองออกมา แล้วโบกมือ "งั้นเก็บจานนี้ได้เลยค่ะ"
พนักงงานนำดักแด้ออกแล้วแทนที่ด้วยผลไม้
มองจานผลไม้ตรงหน้า แล้วก็นึกถึงดักแด้จานเมื่อกี้
จิตใจของหยางหลิงรุ่ยสับสนอีกครั้ง เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเธอแพ้ดักแด้?
แต่เมื่อฮั่วเทียนหลันพูดเช่นนั้นเธอก็จำได้ทันที
ในเมนูอาหารทั้งสามมื้อของตระกูลหยาง จะไม่มีเมนูนี้
แม้ว่าอาหารจานนี้มีคุณค่าทางโภชนาการมาก
เป็นไปได้ไหมว่าเพราะเธอแพ้ดักแด้ ตระกูลหยางจึงไม่กินมัน?
หยางหลิงรุ่ยรู้สึกสับสนเล็กน้อย เธอจึงตัดสินใจ ที่จะหาเวลาไปโรงพยาบาลเพื่อตรวจหาสารก่อภูมิแพ้
หลังทานอาหารเสร็จ อาหารที่สั่งเหลือเกินครึ่ง ฮั่วเทียนหลันจึงขอให้ห่อกลับบ้าน
หยางหลิงรุ่ยได้รับอีเมลจากบริษัท มีโครงการใหญ่ที่เธอจำเป็นต้องตรวจสอบและลงนาม
เธอลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แล้วพูดว่า "คุณฮั่ว พอดีฉันมีธุระที่บริษัทนิดหน่อยค่ะ ฉันต้องกลับไปดู ... "
เดิมทีเธอหมายถึง ถ้าหากฮั่วเทียนหลันจะไปไหนก็ไปได้เลย ไม่ต้องสนใจเธอ
แต่ไม่รู้ว่าทำไมประโยคเมื่อสักครู่จึงกลายเป็น ฮั่วเทียนหลันพยักหน้าตอบรับ "ครับ ผมจะไปส่งคุณที่บริษัท !"
" ไม่ ไม่เป็นไรค่ะ..."
แน่นอนว่าการปฏิเสธของหยางหลิงรุ่ยไม่มีประโยชน์
ฮั่วเทียนหลันจับมือของหยางหลิงรุ่ย ไปที่รถ
คราวนี้บอดีการ์ดไม่ได้ขึ้นรถ แต่ยืนอยู่ที่ด้านหลัง เมื่อฮั่วเทียนหลันออกไป เขาจะนั่งแท็กซี่กลับเอง
ฮั่วเทียนหลันเปิดประตูรถให้หยางหลิงรุ่ยขึ้นข้างคนขับ เขาคาดเข็มขัดนิรภัยให้กับเธอ
การคาดเข็มขัดนิรภัยทำให้ทั้งสองแนบชิดกัน
ใบหน้าของหยางหลิงรุ่ยแดงระเรื่ออย่างอธิบายถูก
ฮั่วเทียนหลันขับรถพาหยางหลิงรุ่ยไปที่ Yang's Entertainment
เมื่อเห็นเขาเข้าไปในลานจอดรถใต้ดินได้อย่างไม่มีปัญหา หยางหลิงรุ่ยก็ตะลึง
ต้องเป็นพนักงานบริษัท Yang's Entertainment เท่านั้นไม่ใช่หรือถึงจะเข้าไปในที่จอดรถชั้นใต้ดินได้?
ในระบบทำไมถึงทีทะเบียนรถของฮั่วเทียนหลัน?
เธออ้าปากอยากจะถามสักคำ แต่สุดท้ายเธอก็ยอมแพ้ คุณฮั่วผู้ที่ดูมีมนต์ขลังนี้ ดูเหมือนจะทำอะไรเขาไม่ได้
ถ้าฮั่วเทียนหลันรู้ความคิดในใจเธอ
เขาคงจะโต้แย้งออกมา
อย่างน้อย เขาก็ทำอะไรเธอไม่ได้
หยางหลิงรุ่ยบอกให้เขาจอดรถในที่จอดรถของเธอ
หยางหลิงรุ่ยปลดเข็มขัดนิรภัยและกำลังจะลงจากรถ ทันใดนั้นมือของเธอก็ถูกดึง
ฮั่วเทียนหลันปลดเข็มขัดนิรภัย พร้อมกับกดเบาะลง หยางหลิงรุ่ยจึงมานอนอยู่ตรงหน้าเขา
ร่ายกายของฮั่วเทียนหลันกำลังกดทับหยางหลิงรุ่ย
ระหว่างทั้งสองคนมีเพียงนิดเดียว
เขามองเธอด้วยสายตารักใคร่
และเธอมองไปที่เขาดวงตาที่หลบเลี่ยง
ดวงตาของทั้งสองคนดูเหมือนกับไฟที่ปะทะกับอากาศ
“คุณฮั่ว คุณจะ ... ”
หยางหลิงรุ่ยถามเบา ๆ
แต่สิ่งที่เธอไม่รู้ก็คือ การหายใจแบบนี้มันทำให้ฮั่วเทียนหลันอยากจะยิ้งเข้ามาใกล้
"ผมมาส่งคุณถึงที่ จะไม่มีคำว่าขอบคุณสักคำเลยหรือครับ"
คำพูดของฮั่วเทียนหลันทำให้หยางหลิงรุ่ยตะลึง
โลกนี้มีคนหน้าด้านแบบนี้ด้วยเหรอ?
อยากจะมาส่งเอง แต่มาทวงบุญคุณ?
เมื่อเห็นสายตาของเขาเริ่มมีความคลุมเครือขึ้นเรื่อย ๆ หยางหลิงรุ่ยก็รู้สึกกังวลมากขึ้น เธอรีบพูดว่า "คุณฮั่ว ฉันอยากเชิญคุณไปทานข้าวอีกครั้งได้ไหม ตอนนี้ช่วยปล่อยฉันที ฉันมีธุระที่จะต้องรีบไปจัดการ ... "
“ แค่อาหารเหรอครับ?” ฮั่วเทียนหลันพยุงร่างของเธอขึ้นด้วยมือข้างหนึ่ง แต่อีกมือหนึ่งเขาก็ปิดประตู
ประตูรถปิดลงพร้อม เสียงดังปั้ง และหัวใจของหยางหลิงรุ่ยก็สั่นสะท้าน
“ คุณฮั่ว มีอะไรก็พูดกันดีๆ ... ”
หยางหลิงรุ่ยรู้สึกประหม่าจนพูดอะไรไม่ออก
แต่วินาทีต่อมาเธอไม่สามารถพูดได้อีกต่อไป
เพราะผู้ชายคนนี้โน้มตัวลงและจูบตรงที่ริมฝีปากของเธอ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: โชคชะตาตื้นมาก แต่ความรักนั้นลึกซึ้ง