"ขอบคุณนะคะ ขอบคุณผู้อำนวยการหยางสำหรับการอบรม ฉันจะตั้งใจทำงานอย่างหนักและทำให้ดี ... "
เย่ตงที่กำลังจะแสดงภาพลักษณ์ที่ดีต่อการทำงานเพื่อให้หยางลิงรุ่ยปลื้มใจ แต่กลับถูกหยางหลิงรุ่ยยกมือขึ้นโบกเพื่อตัดบทเสียก่อน
“โอเค นี่ไม่ใช่การประชุมใหญ่ของบริษัท ไม่จำเป็นต้องพูดสาบานอะไรให้มากความ ขอแค่ตั้งใจทำงานทุกวัน ใช้ชีวิตให้ดีและมีความสุขเท่านั้นก็เพียงพอแล้วล่ะ”
คำพูดแสนธรรมดา ความปรารถนาอันเรียบง่าย
แต่เมื่อหยางหลิงรุ่ยพูดสิ่งเหล่านี้ออกมา ก็อดรู้สึกกดดันไม่ได้เหมือนกัน
เพราะบางครั้ง เรื่องที่คิดว่าง่ายที่สุดนั้น กลับเป็นเรื่องที่ยากมาก ๆ!
"ค่ะ... " เย่ตงพยักหน้ารับ
"ส่วนเรื่องในบริษัทนั้น เธอก็ไม่จำเป็นต้องสนใจเหมือนกัน ฉันที่มีความเกี่ยวข้องกับเรื่องนั้นโดยตรงยังไม่อะไรเลย เธอก็คิดเสียว่ามันเป็นเรื่องตลกขบขันก็เแล้วกัน"
แน่นอนว่าหยางหลิงรุ่ยรู้ดีว่าที่เย่ตงก่อเรื่องเหล่านี้ขึ้นมาก็เพื่อปกป้องเธอ
แต่เธอก็รู้เช่นกันว่า ข่าวลือเรื่องอื้อฉาวเช่นนี้แม้ว่ามันจะสงบลงไปแล้วเป็นชั่วคราวแล้ว แต่ถ้าหากมีโอกาสมันจะต้องปรากฏขึ้นมาอีกเป็นครั้งที่สองแน่
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตอนนี้บริษัทมีตัวปัญหาใหญ่อย่างหลี่ชานชาน ที่คอยจับจ้องมองดูอยู่ตลอดเวลา
แต่ที่หยางหลิงรุ่ยไม่ได้เอาเรื่องเอาความด้วยทุกครั้งนั่น ไม่ได้หมายความว่าเธอกลัวหลี่ชานชานแต่อย่างใด
เพียงแค่คิดว่าทุกคนต่างก็เป็นเพื่อนร่วมงานในบริษัทเดียวกัน และอีกเหตุหนึ่งคือเธอถูกส่งตัวมาอีกที เพราะฉะนั้นเพื่อที่จะสามารถทำตัวกลมกลืนในแวดวงนั้นได้ เธอจะต้องอดทนเอาไว้
แต่เรื่องทุกอย่างต้องมีขอบเขตของมัน ถ้าหากไม่รู้จักจบจักสิ้นล่ะก็ หยางหลิงรุ่ยก็จะทำให้พวกเธอได้รู้ซึ้งถึงคำว่าพลังของสายฟ้า และการถูกบดถูกกดจนแตกละเอียดจากข้างในไปจนถึงข้างนอก
"ผู้อำนวยการหยางคะ คือ ฉันขอถามอะไรหน่อยได้ไหมคะ" เย่ตงลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แต่ก็เลือกที่จะเอ่ยถามขึ้น
หยางหลิงรุ่ยอึ้งไปเล็กน้อย เธอมองไปที่เย่ตงด้วยความรู้สึกประหลาดใจ เพราะไม่รู้ว่าอีกฝ่ายกำลังคิดอะไรอยู่
"ทำไมเหรอ เธอมีอะไรก็พูดออกมาเลย พวกเราต่างก็คุ้นเคยกันแล้ว ยังจำเป็นต้องปิดบังอะไรกันด้วยหรือ" คำพูดของหยางหลิงรุ่ยทำให้เย่ตงหน้าแดงขึ้นมาเล็กน้อย
เธอรีบโบกมือขึ้นแล้วพูดว่า : "เปล่า ไม่ใช่แบบนั้นค่ะ... คือว่า คนในบริษัทต่างก็พูดว่าคุณเปลี่ยนรถบ่อยมาก... แล้วก็... "
"แล้วก็บอกว่าฐานะทางการเงินของฉัน ถ้าอิงตามเงินเดือนแล้วคงจะซื้อรถหรูขนาดนั้นไม่ได้ใช่ไหม ฉะนั้นฉันก็เลยหาเสี่ยเลี้ยง ชนิดที่แบบไม่สนใจว่าผู้ชายจะแก่หรือว่าหนุ่มอย่างนั้นใช่หรือเปล่า"
หยางหลิงรุ่ยกล่าวด้วยรอยยิ้ม คำพูดพวกนี้เธอแทบจะท่องจำได้หมดแล้ว และนั่นทำให้เย่ตงรู้สึกตะลึงงันไปชั่วขณะ
เธอรู้สึกว่ารอยยิ้มของผู้อำนวยการหยางเมื่อสักครู่ช่างดูมีเสน่ห์มากเลยทีเดียวล่ะ
แต่หยางหลิงรุ่ยนั้นรู้สึกเหนื่อยหน่ายในใจไปหมด
เธอไม่คิดเลยว่าทุกการเคลื่อนไหวของเธอที่บริษัทนั้นจะถูกคนจับจ้องถึงเพียงนี้
ก็แค่เรื่องขับรถมาทำงานแค่นั้นไม่ใช่เหรอ แล้วเธอจะขับรถอะไรก็ไม่เห็นจะเกี่ยวกับเพื่อนร่วมงานเหล่านี้เลยซักนิด
และแต่ละวันเธอยังเปลี่ยนที่จอดไปเรื่อย ๆ นอกเสียจากจะมีคนจงใจสังเกตเธอทุกวัน มิฉะนั้นคงไม่รู้ว่าเธอเปลี่ยนรถบ่อยเป็นแน่
ในลิ้นชักห้องนอนของหยางหลิงรุ่ยนั้น มีกุญแจรถอยู่สิบกว่าคัน
เวลาไปทำงานเธอมักจะหยิบกุญแจรถตามใจชอบ จับได้ของคันไหนก็ขับคันนั้นมา
และนี่ไม่ใช่ว่าเธออยากจะอวดรวยแต่อย่างใด แต่เป็นเพราะเธอมีนิสัยที่ค่อยข้างไม่เรื่องมาก อะไรก็ได้ ขอแค่มีรถขับก็พอแล้ว
หากไม่ใช่เพราะครอบครัวหยางได้เตรียมรถหรูไว้ให้เธอ จะเป็นแค่รถยนต์ขนาดเล็กที่มีมูลค่าเพียงไม่กี่หมื่นหยวน เธอเองก็สามารถขับได้หมดเช่นเดียวกัน
แต่เธอแค่ไม่ได้คิดว่าในบริษัทนี้จะมีคนใส่ใจเธอมากขนาดนี้ แค่รถที่เธอขับเป็นปกติก็ยังสามารถสร้างหัวข้อสนทนาขึ้นมาได้
ไม่ต้องสงสัยเลยว่า ในสายตาของคนในบริษัทนั้นจะต้องมองว่ารถของเธอเป็นรถที่เศรษฐีมีตังค์ซื้อให้อย่างแน่นอน
และภาพลักษณ์ของเธอก็คงถูกมองว่าเป็นผู้หญิงประเภทที่พัวพันกับผู้ชายนับไม่ถ้วน และสามารถทำได้ทุกอย่างเพื่อแลกเงินมา
"ผู้อำนวยการหยางคะ พวกหล่อนพูดแบบนั้นจริง แต่สำหรับฉัน คุณไม่ใช่ ไม่ใช่คนแบบนั้น... "
ถึงแม้หยางหลิงรุ่ยสามารถพูดเรื่องที่อยู่ในใจออกมาได้ด้วยท่าทีสบาย ๆ แต่หากบอกว่าในใจของเธอไม่แคร์เรื่องเหล่านั้นเลยก็คงจะไม่ใช่
แต่ท่าทีของเธอในตอนนี้ กลับทำให้เย่ตงเข้าใจว่าเธอกำลังโกรธเพราะคำพูดของตน
นั่นทำให้เย่ตงรู้สึกกระวนกระวายใจขึ้นมาทันที ในขณะเดียวกันเธอก็รู้สึกเสียใจทีหลังเล็กน้อย อยู่ดีไม่ว่าดีปากของเธอนี่แส่หาเรื่องจริง ๆ!
"หือ?" หยางหลิงรุ่ยที่เพิ่งได้สติกลับมารีบโบกมือขึ้น ก่อนจะเอ่ย : "เธอคิดอะไรอยู่เนี้ย ฉันไม่เป็นไร ไม่ได้ใส่ใจเรื่องพวกนี้เลยด้วยซ้ำ"
หยางหลิงรุ่ยหยิบหมากฝรั่งขึ้นมาจากโต๊ะสองชิ้นและยื่นให้กับเย่ตงหนึ่งชิ้น
หลังจากนั้นเธอแกะชิ้นของตัวเองออกก่อนจะส่งเข้าไปในปาก ความหวานของหมากฝรั่งทำให้เธอรู้สึกผ่อนคลายขึ้นมาบ้างเล็กน้อย
"ปากอยู่บนร่างกายของพวกหล่อน พวกหล่อนอยากจะพูดอะไรก็ได้ แค่เหตุผลที่ว่าพวกเราไม่ชอบฟัง จำเป็นถึงขั้นต้องไปปิดปากของพวกหล่อนเอาไว้เลยเหรอ สำหรับคนพวกนี้แล้ว เธอไม่ต้องเก็บมาใส่ใจหรอกนะเย่ตง"
คำพูดสบาย ๆ ตรงไปตรงมาของหยางหลิงรุ่ย ทำให้เย่ตงตะลึงไปเล็กน้อย
คนอื่นต่างวิพากย์วิจารณ์เสีย ๆ หาย ๆ ขนาดนั้น ยังจะไม่คิดใส่ใจเลยจริงหรือ
“เธอลองคิดจากอีกมุมหนึ่งดูสิ ว่าทำไมพวกหล่อนถึงได้ตามรังควานเธอไม่เลิกเสียที เอาแต่พยายามสร้างข่าวลือให้เธอไม่หยุดหย่อนเช่นนี้”
หยางหลิงรุ่ยเอ่ยคำพูดชวนคิดให้เย่ตงฟัง
เย่ตงเป็นคนฉลาด เธอคิดอยู่เพียงครู่เดียวก็เข้าใจประเด็นหลักแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: โชคชะตาตื้นมาก แต่ความรักนั้นลึกซึ้ง