โชคชะตาตื้นมาก แต่ความรักนั้นลึกซึ้ง นิยาย บท 371

เมื่อประตูเปิดออก สายตาของคนที่อยู่ในห้องเขียนบทต่างก็จับจ้องมาทางนี้

หลังจากเห็นว่าผู้มาใหม่คือใคร ก็พากันถอนหายใจอย่างโล่งอกขึ้นมาทันที

จินไห่เว่ยที่ร่างไร้วิญญาณเมื่อสักครู่ ก็คล้ายกับได้รีบการฟื้นคืนชีพ ก่อนที่รอยยิ้มเหยียดหยามจะปรากฏขึ้นมาบนใบหน้าของเธอในทันที : "โอ้ ผู้ช่วยท่านนี้ มาทำอะไรที่ห้องเขียนเหรอ ทำไมถึงมาเดินเที่ยวเล่นอย่างนี้ ไม่ไปรับใช้เจ้านายของเธอล่ะ ระวังเจ้านายจะไม่พอใจแล้วไล่เธอออกได้นะ!”

เย่ตงไม่สนใจคำพูดของเธอ

แม้ว่าความโกรธจะยังมีอยู่ในใจ แต่หัวใจของเธอพยายามเตือนสติตัวเองว่าห้ามโกรธ ห้ามโกรธเด็ดขาด

ถ้าหากเธอโกรธก็จะยิ่งเข้าทางจินไห่เว่ย

"ฉันมีธุระกับพี่ชานชาน รบกวนหลีกทางด้วยค่ะ" เย่ตงกล่าวอย่างเย็นชา

ท่าทีของเธอในตอนนี้ ทำให้เปลวไฟที่พร้อมที่จะลุกโชนของจินไห่เว่ยดับลงทันที

เธอขมวดคิ้ว แต่กลับไม่ยอมหลบทางให้ : "พี่ชานชานยุ่งมาก ไม่มีเวลาทำตัวไร้สาระกับเธอหรอกนะ ถ้าเธอมีเรื่องอะไรก็บพูดกับฉันแทน เดี๋ยวฉันจะไปบอกเขาเอง"

เย่ตงกวาดสายตามองไปที่จินไห่เว่ย ความคิดความประเมินที่มีต่อจินไห่เว่ยนั้น ได้ตกลงไปยังจุดต่ำสุดเรียบร้อยแล้ว

ผู้หญิงคนนี้ เป็นคนโง่ดี ๆ นี่เอง

ข้อกำหนดของ Yang's Entertainment นั้นบอกไว้ว่า กิจการต่าง ๆ ของบริษัทอยู่เหนือสิ่งอื่นใด ที่เย่ตงมาที่นี่ก็บอกชัดแล้วว่าเธอมีธุระต้องจัดการ ถ้าหากครั้งนี้เย่ตงเข้าพบฝ่ายบุคคลอย่างจริงจังล่ะก็ เกรงว่าพรุ่งนี้จินไห่เว่ยก็ไม่จำเป็นต้องมาทำงานอีกแล้วล่ะ

ไม่สิ วันนี้ตอนนี้ก็สามารถกลับบ้านได้เลยทันที

"สุนัขที่ดีจะไม่ยืนขวางทาง" เย่ตงขี้เกียจที่จะต่อความยาวสาวความยืด เธอจึงเพิกเฉยต่อจินไห่เว่ย และออกแรงเดินชนไหล่อีกฝ่ายเข้าไปข้างใน

จินไห่เว่ยไม่เคยถูกกระทำด้วยเช่นนี้ เพราะตั้งแต่เย่ตงเข้ามาทำงานที่บริษัท เธอก็รับบทคอยกลั่นแกล้งเย่ตงมาเสมอ

แต่คนขี้ขลาดและถูกรังแกมาเสมออย่างเย่ตง วันนี้กลับลุกขึ้นมาตอกกลับตัวเองและทำให้ตัวเองเสียหน้า

ทำให้จินไห่เว่ยระเบิดความโมโหออกมาทันที เธอเอื้อมมือไปดึงเสื้อผ้าของเย่ตง ลากอีกฝ่ายกลับมาและโยนออกไปข้างนอก

จินไห่เว่ยโกรธจนหน้ามืด แต่หลี่ชานชานยังคงมีสติอยู่

เธอกระแอมไอขึ้นมา เสียงของเธอไม่ดังมากแต่กลับทรงพลัง

ทำให้จินไห่เว่ยตัวแข็งทื่อ ก่อนร่างหายจะตอบสนองขึ้นมาทันที

เธอมองดูเย่ตงเดินไปหาหลี่ชานชานด้วยความเกลียดชัง ก่อนจะปิดประตูห้องลงและเดินตามเข้าไป

“พี่ชานชาน นี่คือเอกสารที่ผู้อำนวยการหยางต้องการ รบกวนพี่ช่วยหาคนคัดแยกและนำมาให้ฉันตอนนี้ด้วยค่ะ!”

เย่ตงส่งกระดาษรายงานหัวข้อสีแดงในมือให้ไป หลี่ชานชานเหลือบมองเล็กน้อย ก่อนจะยกมือกวัก : "มานี่"

เธอไม่ได้เงยหน้าขึ้นมอง แต่ความเคยชินที่อยู่ด้วยกันมานานนั้น ทำให้จินไห่เว่ยรู้ว่าหลี่ชานซานกำลังกวักมือเรียกตนเองอยู่

เธอรู้ เย่ตงเองก็รู้เช่นกัน เพราะเมื่อก่อนตอนที่เคยอยู่ที่ห้องเขียนบทนั้น เพียงแค่หลี่ชานชานเอ่ยขึ้นมาว่ามานี่ นั่นหมายถึงการเรียกคนนั้นเพียงคนเดียว ซึ่งก็คือหมารับใช้อย่างจินไห่เว่ย

ถ้าหากมองอีกแบบ ก็สามารถเข้าใจได้ว่าถูกให้ความสำคัญ

จินไห่เว่ยก้าวไปข้างหน้าและพูดขึ้น : "พี่ชานชาน ฉันมาแล้ว!"

ขณะที่พูด เธอก็เอื้อมมือออกไปเตรียมหยิบกระดาษรายงานหัวข้อสีแดง

แต่กระดาษรายงานนั้นกลับถูกหลี่ชานชานยัดลงในกองเอกสารก่อน

"เธอเขียนบทของตัวเองเสร็จหรือยัง ยังเขียนไม่เสร็จทำไมถึงไม่รีบไปทำ ส่วนเรื่องเล็กน้อยนี้ ไว้ทำตอนไหนก็ได้"

หลังจากพูดจบ เธอก็กระแอมขึ้นมาในลำคอ

จินไห่เว่ยตะลึงไปชั่วขณะ เธอรู้ว่าหลี่ชานซานกำลังลองดีกับหยางหลิงรุ่ย และยังยกเอาเรื่องงานของบริษัทมาบังหน้า

นี่……

แต่การกระแอมของหลี่ชานชานนั้น บ่งบอกชัดเจนว่าเรื่องนี้ยังไม่ได้วางแผนกันมาก่อน

จินไห่เว่ยจึงกลับไปนั่งที่โต๊ะทำงานของตัวเองทันที

และตอนนี้ เย่ตงก็ถูกปล่อยให้ยืนเก้ออยู่ตรงหน้าหลี่ชานชานอยู่อย่างนั้น

ราวกับว่าเธอกำลังล่องหนอยู่ และหลี่ชานชานไม่คิดจะแลตามองเธอเลยสักนิด

เย่ตงเอ่ยขึ้นเสียงเบา : "พี่ชานชาน เอกสารพวกนี้เร่งด่วนมาก พี่ให้คนคัดแยกให้ฉันตอนนี้เลยได้ไหม"

หลังจากเธอกล่าวออกไป เนิ่นนานก็ยังไม่มีเสียงตอบรับกลับมา

หลี่ชานชานนั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ เธอมองดูบทที่เขียนเสร็จแล้วบนหน้าจออย่างไม่สนใจสิ่งรอบข้าง

ราวกับเย่ตงที่อยู่ตรงนั้นเป็นเพียงธาตุอากาศเท่านั้น

ใบหน้าของเย่ตงฉายแววความโกรธ แต่ก็ถูกเธอระงับเอาไว้อย่างรวดเร็ว

เธอรู้ดีว่าหลี่ชานชานต้องการยั่วโมโหเธอ และถ้าหากเธอเผลอแสดงความโกรธต่ออีกฝ่ายแล้ว อีกฝ่ายสามารถแอบอ้างเรื่องนี้เพื่อรังแกเธอได้ พอถึงตอนนั้นคนที่เดือนร้อนก็ต้องเป็นผู้อำนวยการหยางแน่

เธอเคยทำงานที่ห้องนี้มาก่อน ดังนั้นเอกสารเหล่านั้นวางอยู่ตรงไหน เย่ตงเองก็พอจะรู้อยู่แล้ว

เธอจึงเดินไปที่ชั้นเก็บเอกสารที่อยู่ด้านข้าง ก่อนจะเปิดประตูออกและเริ่มค้นหามันด้วยตัวเอง

หลี่ชานชานไม่ได้ทำการใด ๆ ต่อจากนั้น แต่ใบหน้าของเธอในตอนนี้กำลังมืดดำมากขึ้นเรื่อย ๆ นั่นแสดงให้เห็นว่าเธอกำลังไม่พอใจเป็นอย่างมากกับการกระทำของเย่ตง

เอกสารในตู้ถูกวางอย่างยุ่งเหยิง เมื่อก่อนหน้าที่รักษาความเป็นระเบียบภายในตู้นั้นเป็นของเย่ตง

แม้ว่าบริษัทจะบอกว่าให้ผลัดกันทำ แต่ตอนที่เย่ตงทำงานอยู่ในห้องนี้ เธอแทบจะต้องแบกรับหน้าที่นี้อยู่เพียงคนเดียว

นอกจากนี้ห้องเขียนบทยังมีผู้มาใหม่เรื่อย ๆ และคนที่มาใหม่ก็จะถูกรังแกเสมอ จริง ๆ แล้วเย่ตงไม่จำเป็นต้องทำเลยด้วยซ้ำ

แต่จากการที่เคยถูกกลั่นแกล้งมาก่อน เย่ตงจึงไม่อยากให้คนอื่นต้องมารับความเจ็บปวดนั้นด้วย

ความพยายามตั้งใจเหล่านี้ของเธอ ก็ใช่ว่าจะไม่ได้รับผลตอบแทนแต่อย่างใด

อย่างน้อยตอนนี้พนักงานที่มาใหม่ก็ไม่ได้โวยวายหาเรื่องเธออย่างคนอื่น มีเพียงเอ่ยพูดเรื่องธรรมดาที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับใครเท่านั้น

หลังจากหาเอกสารที่ต้องการพบแล้ว เย่ตงก็ออกจากห้องเขียนบทไปทันที

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: โชคชะตาตื้นมาก แต่ความรักนั้นลึกซึ้ง