หยางหลิงรุ่ยจ้องมองไปที่ลั่นลานอย่างว่างเปล่า อากาศรอบตัวของพวกเธอทั้งสองคนราวกับกำลังจะแข็งตัว
เวลาผ่านไปเรื่อย ๆ จนสุดท้ายเธอก็เป็นฝ่ายยิ้มออกมาอย่างอ่อนโยน
“ลั่นลานกำลังล้อน้าเล่นเหรอคะ ที่บ้านของน้าก็มีเจ้าเด็กตัวเล็กเหมือนกัน โตพอ ๆ กับลั่นลานเลย แล้วก็น่ารักไม่แพ้กันอีกด้วย เธอเป็นลูกสาวแท้ ๆ ของน้าเองแหละ!”
ขณะที่หยางหลิงรุ่ยเล่าให้ลั่นลานฟัง เธอก็ทำท่าทางประกอบไปด้วย
ลั่นลานรู้สึกได้ถึงความรู้สึกห่างเกินของหยางหลิงรุ่ยที่มีต่อตน ทันใดนั้นสายตาของเธอก็ฉายแววโศกเศร้าขึ้นมา
คุณแม่ลืมทุกอย่างไปหมดแล้วจริง ๆ ลืมลูกสาวอย่างเธอ ลืมคุณพ่อและลืมทุกคนในครอบครัวไปหมด
ดวงตาของเธอเริ่มขึ้นสีแดงอีกครั้งและเบ้าตาก็เริ่มเอ่อล้นไปด้วยน้ำสีใส
ที่ใกล้ก็จะไหลออกมาอยู่เต็มที
“คุณน้าเป็นคุณแม่ของหนูใช่ไหมคะ” ลั่นลานยังคงไม่ยอมแพ้
ดวงตากลมโตของเธอเคลือบไปด้วยม่านน้ำตาที่กำลังจะไหลรินออกมาในไม่ช้า
หยางหลิงรุ่ยถอนหายใจ ก่อนจะยื่นมือออกไปเช็ดน้ำตาที่ไหลลงมาจากมุมตาของลั่นลาน
ลั่นลานร้องไห้แล้ว และเธอเองก็เริ่มรู้สึกแสบที่ปลายจมูกเช่นเดียวกัน ราวกับว่าอีกไม่ช้าน้ำตาของเธอก็จะไหลออกมา
หัวใจของแม่และลูกเชื่อมต่อกัน สายสัมพันธ์ระหว่างลั่นลานและหยางหลิงรุ่ยไม่อาจมีสิ่งใดมาปิดกั้นเอาไว้ได้
“ลั่นลาน เด็กดี อย่าร้องไห้ ... ”
หยางหลิงรุ่ยไม่ได้ตอบคำถามของลั่นลาน เธออยากให้ลั่นลานเข้มแข็งกว่านี้
ในฐานะคนเป็นแม่ ไม่มีใครรักลั่นลานไปมากกว่าเธออีกแล้ว แม้แต่ฮั่วเทียนหลันเองก็ยังเทียบไม่ได้
แม้ว่าบางครั้งผู้ชายคนนี้จะดูใส่ใจและอ่อนโยน แต่ผู้ชายก็คือผู้ชายอยู่วันยังค่ำ บ่อยครั้งที่เขาสุกเอาเผากิน ไม่ใส่ในใจรายละเอียดและดูแลเด็กได้ไม่ดีพอ
คำพูดของเธอใช้ไม่ได้ผลกับลั่นลานเลยสักนิด
ลั่นลานตอนนี้ราวกับเขื่อนน้ำตาแตก สองแก้มของเธอมีน้ำสีใสไหลออกมาไม่ขาดสาย
จนทำให้หยางหลิงรุ่ยเริ่มน้ำตาคลอเบ้าไปด้วย
เธอเจ็บหัวใจเหลือเกิน เจ็บจนอยากจะกอดลั่นลานเอาไว้แน่น ๆ จากนั้นคอยปลอบประโลมไม่ให้เธอเสียใจและร้องไห้
ตอนที่อีกฝ่ายร้องไห้ เธอก็อยากร้องไห้ด้วยเหมือนกัน
"ลั่นลาน พวกเราไปทานข้าวกันดีไหมคะ ถ้ายังร้องไห้ต่อไประวังหน้าจะใหญ่เอานะ!" หยางหลิงรุ่ยพยายามปั้นหน้ายิ้ม แต่สีหน้าของเธอกลับเต็มไปด้วยความฝืนทน
ที่ดูขี้เหร่เสียยิ่งกว่าตอนร้องไห้ซะอีก
ลั่นลานส่ายหน้าสุดแรง เธออ้าปากขึ้นอย่างต้องการจะเอ่ยอะไรบางอย่าง แต่น้ำตากลับไหลเข้าไปในปากแทน
ความขมขื่นของน้ำตาแทรกซึมไปทั่วโพรงปาก
เมื่อเห็นคิ้วที่ขมวดเข้มของลั่นลาน หยางหลิงรุ่ยก็ไม่สามารถทนใจร้ายได้อีกต่อไป เธอยกยิ้มอย่างขมขื่น ก่อนจะถอนหายใจออกมา จากนั้นยื่นมือออกไปดึงตัวลั่นลานมากอดเอาไว้แน่น
ก่อนหน้านี้ลั่นลานกอดหยางหลิงรุ่ยเพียงฝ่ายเดียว หยางหลิงรุ่ยไม่ได้กอดเธอตอบ
แต่ตอนนี้แม่ลูกสองคนกำลังกอดกันอย่างแท้จริง
ลั่นลานโตขึ้นมาก ตอนที่เธอกอดอีกฝ่ายอยู่นั้นรู้สึกได้เลยว่าอีกฝ่ายดูผอมลงไปเยอะ
เด็กในวัยนี้อาจจะไม่อ้วน แต่ร่างกายพวกเขาจะมีความอวบอิ่ม
แต่ทว่าความอวบอิ่มนั้นกลับไม่มีอยู่บนร่างกายของลั่นลานเลยซักนิด
ราวกับเธอไม่ได้รับสารอาหารอย่างเพียงพอ เมื่อหยางหลิงรุ่ยกอดลั่นลานเอาไว้แบบนี้ ร่างกายของเธอก็คล้ายกับจะแตกหักเอาได้อย่างง่ายดาย
นั่นทำให้หยางหลิงรุ่ยยิ่งรู้สึกปวดใจมากกว่าเดิม
ในขณะเดียวกันเธอก็รู้สึกเป็นกังวลอย่างบอกไม่ถูก ทำไมลั่นลานถึงได้ผอมขนาดนี้ล่ะ
นอกจากความไม่สบายใจแล้ว ลั่นลานคงไม่ได้ร่างกายไม่สบายด้วยหรอกใช่ไหม
ลั่นลานกอดหยางหลิงรุ่ยแน่น เธอยืนเขย่งเท้าสุดแรงและวางหัวของเธอไว้บนไหล่ของหยางหลิงรุ่ย
สัมผัสถึงความอบอุ่นจากแม่ เพราะพึ่งผ่านการร้องไห้อย่างหนัก ทำให้ลั่นลานสะอื้นไม่หยุดและเสียงของเธอก็แหบแห้งไปด้วย : "คุณแม่ คุณเป็นคุณแม่ของลั่นลาน คุณแม่อย่าทิ้งลั่นลานไปได้ไหมคะ"
ลั่นลานเอ่ยพูดขึ้นทั้งน้ำตา
อาหารบนโต๊ะเริ่มเย็นชืด ป้า Ding ที่คอยดูแลลั่นลานมาตลอดก็ยิ่งรู้สึกขมขื่นในใจ
หลายครั้งที่เธออยากจะลุกขึ้นเพื่อเดินไปปลอบใจลั่นลาน
แต่ทุกครั้งฮั่วเทียนหลันก็มักจะหันมามองเธอหน้านิ่ง
แม้ว่าจะไม่สามารถพูดคุุยกันต่อหน้าหยางหลิงรุ่ยได้ แต่ป้า Ding ที่เลี้ยงดูฮั่วเทียนหลันมาตั้งแต่ยังเด็ก เธอรู้ดีว่าสิ่งที่ฮั่วเทียนหลันทำและแสดงออกมานั้นหมายถึงอะไร
ดังนั้นเธอจึงทำได้แค่อดทนอดกลั้นต่อความรู้สึกเจ็บปวดที่หัวใจและนั่งลงตามเดิมอีกครั้ง
หยางหลิงรุ่ยขมวดคิ้วเข้ม ในใจของเธอกำลังทะเลาะกันขึ้นมา
ลั่นลานแสดงให้เห็นว่าอีกฝ่ายขาดเธอไม่ได้จริง ๆ ถ้าหากเธอยังทำท่าเย็นชาต่อไปอีก มันก็จะดูใจร้ายมากเกินไป
เธอพยายามบอกกับลั่นลานอย่างนิ่มนวลแล้วว่าเธอไม่ใช่แม่ของอีกฝ่าย
แต่ลั่นลานกลับยังดื้อรั้น ยืนยันว่าเธอเป็นแม่ของตนอยู่อย่่างนั้น
แม้ว่าลั่นลานจะคิดถูก และฮั่วเทียนหลันก็รู้ก่อนหน้าเธอนานแล้ว
แต่ทว่า……
หยางหลิงรุ่ยยื่นมือออกไปลูบผมของลั่นลาน ผมของเธอนุ่มลื่นและสุขภาพดีมาก ทำให้มีสัมผัสที่ผ่อนคลายเมื่อยามลูบไล้
นิ้วของหยางหลิงรุ่ยสอดแทรกเข้าไปในกลุ่มผมของลั่นลานอย่างรู้สึกอาลัยอาวรณ์
แต่เธอกลับคิดว่านี่เป็นเพียงความรู้สึกที่มาจากการได้สัมผัสเท่านั้น ไม่ได้คิดว่านี่คือความรู้สึกที่มาจากความรักความผูกพันธ์โดยกำเนิดระหว่างแม่กับลูกสาว
"ลั่นลาน อย่าร้องไห้สิ ถ้าหนูยังร้องไห้อย่างนี้ น... ฉันก็จะร้องไห้ด้วยนะ"
เดิมทีหยางหลิงรุ่ยอยากจะแทนตัวเองว่าน้า แต่พอจะเอ่ยออกมาจริง ๆ เธอกลับรู้สึกลังเลขึ้นมา
ถ้าหากเธอพูดออกไปเช่นนั้น ลั่นลานจะยิ่งเสียใจมากแน่เลย
เพราะการที่เธอเอาแต่ปฏิเสธว่าตนเองไม่ใช่แม่ของอีกฝ่ายนั้น ลั่นลานก็เจ็บจนเจียนขาดใจแล้ว
เมื่อได้ยินหยางหลิงรุ่ยยังคงไม่ยอมรับว่าเธอเป็นลูก ลั่นลานที่เคยแข็งแกร่งมาตลอดก็ร้องไห้ฟูมฟายอย่างหนัก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: โชคชะตาตื้นมาก แต่ความรักนั้นลึกซึ้ง