ก่อนหน้านี้หยางยานเชื่อเป็นคนแรก
หยางหยวนและตงเหยียนแต่งงานกันมานานขนาดนี้แล้วยังไม่ได้เรื่องอะไรเลย
ถึงแม้ตระกูลหยางจะมีกฎเกณฑ์ที่เข้มงวดแต่ก็ไม่ได้ระบุถึงสิ่งเหล่านี้ไว้
แต่ก็มีคนจากด้านนอกซุปซิบกันอยู่มากว่านายน้อยแห่งตระกูลหยางและคุณนายของเขาเป็นหมั่นหรือไม่?
และหลังจากที่ชิงหรงถึงมอบคืนให้กับแม่ตัวจริง การรับเลี้ยงเด็กบุญธรรมก็สิ้นสุด
หยางหยวนไม่ได้อธิบายอะไร ตงเหยียนก็เช่นกัน
สำหรับข่าวลือด้านนอกแล้ว เหมือนกับว่าพวกเธอจะยอมรับโดยปริยาย
นี่จึงทำให้หยางยานอดไม่ได้ที่จะเชื่อ
ถึงแม้ว่าเขาจะไม่เคยคิดว่าพี่ชายคนโตของเขาจะเป็นคนตื้นเขิน
หลังจากที่มีหยางหลิงรุ่ยเพิ่มเขามาอีกคน
ตอนนั้นหยางยานยังไม่คุ้นชิน แต่อย่างไรก็ตามเธอเป็นคนสุดท้องคนในครอบครัวจึงรักและดูแลเธอเป็นพิเศษ
แต่การมาของหยางหลิงรุ่ยทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนไป
แต่หยางยานก็เป็นผู้ใหญ่แล้ว เนื่องจากเธอความจำเสื่อมและท่าทางที่บอบบางของเธอทำให้คนที่เห็นรู้สึกเป็นห่วง
ดังนั้น ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้พบกับเธอบ่อยๆแต่ด้วยสิ่งที่กล่าวมานี้ทำให้เขายอมรับเธอว่าเป็นน้องสาวได้อย่างรวดเร็ว
หลังจากนั้นชิงหรงก็คุ้นชินอย่างรวดเร็ซและเรียกหยางหลิงรุ่ยว่าแม่มาโดยตลอด
หยางยานจึงคิดว่าเป็นเพราะชิงหรงขาดความรักจากผู้เป็นแม่ เธอถึงทำแบบนั้น
แต่ดูจากสถานการณ์ตอนนี้แล้วเห็นได้ชัดเลยว่าชิงหรงเป็นลูกสาวแท้ๆของหยางหลิงรุ่ย
ทั้งสองคนมีความสัมพันธ์กันทางสายเลือดดังนั้นชิงหรงจึงเรียกหยางหลิงรุ่ยว่าแม่
แต่เด็กคนนี้จะมีสถานะเป็นอะไร?
หยางยานนึกถึงอะไรบางอย่าง เขาจึงส่งคนให้ไปแก้ปัญหาโดยทันที
เขาโทรศัพท์ออกไป ไม่นานก็มีคนเข้ามา
“นายสามมีอะไรให้รับใช้ครับ”
“นายพาเขาไปสืบมาหน่อยว่าเด็ฏคนนี้เป็นใครกันแน่”
“ทราบครับ!”
บอดี้การ์ดหนุ่มเป็นคนพาไป ส่วนหยางยานก็นั่งอยู่บนเก้าอี้พร้อมกับเคาะหน้าปกหนังสือ
ตอนนี้ใจของเขาสับสนเล็กน้อย ถ้าหากเขาเดาไม่ผิด เขาน่าจะเป็นคนเพียงคนเดียวที่ไม่รู้เรื่องนี้ของตระกูลหยาง
นึกถึงตรงนี้หยางยานก็ยิ้มออกมาอย่างขมขื่น
ก็ใช่ เขาไม่ใช่สายเลือดแท้ๆของตระกูลหยาง เขาเป็นแค่ลูกบุญธรรมเท่านั้น
ดังนั้นเมื่อเขาเติบใหญ่จึงออกจากตระกูลหยางมาอย่างไม่เต็มใจ
เขาหลีกเลี่ยงข้อสงสัยและหลีกเลี่ยงผู้ที่จะมาเข้าใจผิด
หยางยานไม่รู้ว่าตัวเองคิดมากเกินไปหรือเปล่า ถึงแม้ว่าเขาจะบอกกับตัวเองในใจมาตลอดว่าเขาเป็นพนักงานคนหนึ่งของตระกูลหยาง
หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วโมงก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น
หลังจากที่หยางยานบอกให้เข้ามา ชายชุดดำก็พาบอดี้การ์ดหนุ่มเดินเข้ามา
“เป็นอย่างไรบ้าง?” หยางยานเปิดปากถาม
“นายสาม เด็กคนนั้นเป็นลูกสาวของฮั่วเทียนหลัน และหลังจากเปรียบเทียบกับลูกสาวของเขาลั่นลานกับคุณหนูชิงหรงแล้วน่าจะเกิดวันเดียวกัน แต่ในเอกสารของบัตรประชาชนนั้นทั้งสองคนเกิดต่างกันเจ็ดวัน”
“เจ็ดวัน งั้นก็ไม่น่าจะเป็นคู่แฝด” หยางยานรีบตัดสินใจ
เด็กที่เป็นฝาแฝดกันจะเกิดห่างกันเพียงไม่กี่นาทีแต่นี่ห่างกันตั้งเจ็ดวัน พวกเธอจะเป็นฝาแฝดกันได้อย่างไร?
แต่คำถามที่เขาไม่คาดคิดก็ออกมาจากปากของชายชุดดำ
“นายสาม คุณยังจำได้ไหมครับ คุณหนูชิงหรงเป็นคนที่ปู่หยางพาตัวกลับมาใช่ไหมครับ?
“ใช่!” หยางยานตอบไปอย่างไม่ค่อยมั่นใจ เขาไม่รู้ว่าชายชุดดำต้องการจะสื่ออะไรกันแน่
นี่เป็นลูกน้องที่เขาไว้ใจที่สุด คนคนนี้ติดตามเขามาตั้งแต่เขาออกมาสร้างบริษัทใหม่ๆ
“ปู่หยางพาชิงหรงกลับมามันก็ต้องใช้เวลาไหมครับ? แต่เท่าที่ผมทราบมาแม่ของเด็กผู้หญิงที่ชื่อลั่นลานคนนั้นมีชื่อว่าอันหรัน หน้าตาของเธอเหมือนกับคุณนายหยางไม่มีผิด!”
ชายชุดดำพูดออกมาตรงๆขนาดนี้ต่อให้หยางยานโง่ขนาดไหนเขาก็ต้องเข้าใจบ้าง
เขาขมวดคิ้ว และนึกถึงความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนด้วยความตกใจ
ชายชุดดำเป็นคนที่เชื่อใจได้ เรื่องที่หยางยานเป็นคนสั่งให้เขาไปทำจะสำเร็จมากกว่า 90% และการคาดคะเนของเขาก็แม่นยำเช่นกัน
ถึงแม้ว่าหยางยานไม่อยากจะเชื่อก็คงเป็นไปไม่ได้
แต่ข้อมูลที่เขาได้รับมานี้มันสะเทือนใจไปไหม?
หยางยานตกอยู่ในห้วงความคิดและโบกมือเป็นสัญญาณว่าชายในชุดดำสามารถออกไปได้
ชายชุดดำพยักหน้าและเดินออกไป
เฝ้าประตูหน้าห้องเอาไว้ อย่างให้ใครมารบกวน
หยางยานเลื่อนหมายเลขโทรศัพท์ไปที่เบอร์ของหยางหยวนหลายครั้งและคิดที่จะโทรไปหา
แต่ทุกครั้งเขาก็ลังเลและไม่ได้โทรไปในที่สุด
หยางหยวนและคนอื่นๆไม่อยากให้เขารู้เรื่องนี้ นั่นมันจะต้องมีเหตุผลแน่ๆ
ถึงแม่ว่าในใจของหยางยานจะคิดแบบนี้ แต่เขาก็ยังรู้สึกอึดอัดเล็กน้อยในใจ
จู่ๆโทรศัพท์ที่เพิ่งจะปิดไปของเขาก็มีสายโทรเข้ามา
หยางยานมองไปดูเป็นเบอร์แปลก เขารู้สึกไม่สบายใจจึงตัดสายทิ้งไป
แต่สายโทรศัพท์สายนี้ก็ยังคงไม่ตัดใจโทรมาแบบไม่หยุดหย่อน
สุดท้ายหลังจากที่เขาตัดสายไปสี่ครั้ง เขาก็ตัดสินใจที่จะรับมัน
“มีอะไรพูดมา!” มีความเย็นชาในน้ำเสียงของเขา
อีกด้านหนึ่งเหมือนจะถูกทำให้ตกใจจึงเงียบไปพักหนึ่ง ในตอนที่หยางยานจะวางสายโทรศัพท์ อีกด้านหนึ่งก็พูดออกมาเบาๆว่า “นายสาม ขอคุณอะไรด้วยหน่อยได้ไหมคะ?”
“ผมไม่มีเวลา” พูดจบหยางยานก้เตรียมที่จะวางสายโทรศัพท์
เขาเป็นคนไม่ค่อยเข้าใจเรื่องความระกระหว่างชายหญิงนี่ยิ่งเป็นคนแปลกหน้าดังนั้นไม่ต้องพูดถึงเลย
หยางยานมองดูแต่ไม่ได้เปิดมันในทันที จากความรู้สึกของเขาแล้วนี่จะต้องเป็นกระดาษ 100%
เขาเคยเดินเส้นทางนี้มาก่อนจะไม่เข้าใจได้อย่างไร
ผู้หญิงคนนี้ปรากฏตัวอย่างลึกลับดังนั้นเขาจะต้องระวังเธอไว้มากๆ
หยางยานเปิดแฟ้มออกและดูของที่อยู่ด้านใน ไม่นานแววตาของเขาก็มีความตื่นตระหนกเผยออกมา
เนื้อหาในแฟ้มผลงานเป็นข้อมูลเกี่ยวกับหยางหลิงรุ่ย
แต่ว่าผู้หญิงคนนี้ไปเอามาจากไหน?
พูดอีกอย่างก็คือ เธอกำลังวางแผนอะไรอยู่?
หยางยานเงยหน้าขึ้นพร้อมใบหน้าที่มีความระมัดระวัง
“เธอเป็นใครกันแน่?
“มันสำคัญไหม?”
“สำคัญ!”
มองเห็นท่าทีที่เป็นกันเองของผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้า หยางยานคิดว่าเธอจะต้องเป็นคนที่เขารู้จักอย่างแน่นอน
ถึงแม้ว่าจะไม่สนิทแต่เธอก็ต้องเคยทำงานให้ตระกูลหยางมาบ้าง
“ฉันบอกได้แค่ฉันเคยเจอกันนายสามมาก่อน สำหรับข้อมูลที่ฉันให้กับคุณไป คุณวางใจเถอะฉันไม่ได้มีจุดประสงค์อะไร ฉันแค่ไม่อยากให้นายสามถูกคนอื่นหลอกอยู่แบบนี้ดังนั้น.....”
ผู้หญิงชุดขาวเต็มไปด้วยความน่าสงสัย แต่เธอไม่ทันพูดจบเธอก็ถูกขัดจังหวะเสียก่อน
“อย่าพูดไร้สาระ!”
หยางยานจำเป็นต้องดักคำพูดของเธอ เนื่องจากเธอพูดหว่านล้อมได้ดี เธอจงใจจะทำให้เขามีความสงสัยในตัวของพี่ชายทั้งสองของเขา
ผู้หญิงคนนี้ปากร้ายจริงๆ
“เรื่องของปู่หยางอยากจะฟังไหม? งั้นฉันก็ไม่จำเป็นต้องพูดอะไรแล้ว” ผู้หญิงชุดขาวพูดจบก็หันหลังพร้อมเดินจากไป
เธอทิ้งความสับสนเอาไว้
หยางยานจับจ้องไปที่ด้านหลังของเธอ
ตอนนี้เขาพยายามนึกว่าเคยเจอผู้หญิงคนนี้ที่ไหน
แต่ยิ่งนึกยิ่งคุณเคยแต่อย่างไรก็ยังจำไม่ได้
คิดจนสมองจะแตก สายตาก็ยังคงมองไปที่ผู้หญิงใส่ชุดขาวที่เดินเข้าไปในป่า
หยางยานตะโกนออกมาถามเธอว่า “เธอจะไปไหน?”
ผู้หญิงชุดขาวหยุดเดินหันหลังกลับมาพร้อมกับสายตาดูถูก นี่ทำให้หยางยานรู้สึกโกรธ
ต้องรู้ก่อนว่าหลายปีที่ผ่านมานี้ไม่มีใครเคยมองเขาด้วยสายตาแบบนี้
“นายสามมองไม่ออกหรือว่าฉันกำลังจะไปไหน?”
“ด้านนั้นมันคือป่า เธอผ่านมันไปได้หรอ?”
“นั่นมันเป็นเรื่องของฉัน!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: โชคชะตาตื้นมาก แต่ความรักนั้นลึกซึ้ง