คนที่เขาส่งไปปฏิบัติหน้าที่ในเวลานั้น แม้ว่าจะคอยจับตามองหยางหลิงรุ่ยอยู่เสมอ
แต่ตอนนั้นตระกูลหยางอยู่ต่างประเทศและถูกโจมตีด้วยพลังอำนาจที่แข็งแกร่งและยิ่งใหญ่
หยางหยวนยุ่งแต่กับงานที่บริษัทและไม่ได้อยู่บ้านเลยสักวัน ผู้ที่คิดจะติดต่อกับเขาโดยตรงก็ทำได้เพียงแค่รอฟังคำสั่งเขาอย่างเดียวเท่านั้น ไม่มีสิทธิ์ในการตัดสินใจเองได้
การที่ลูกน้องเชื่อฟังคำสั่งนั้นถือเป็นเรื่องที่ดี
แต่การที่เชื่อฟังจนสมองทึ่มนั้นไม่ใช่สิ่งที่หยางหยวนต้องการ
เมื่อถึงตอนที่หยางหยวนมีเวลามาสนใจเรื่องที่จีน เขาก็พบว่าทุกอย่างสงบลงหมดแล้ว
ลูกน้องพวกนั้นก็ได้รายงานเรื่องราวทุกอย่างต่อเขาเสร็จสรรพเรียบร้อย
แต่เพราะหยางหยวนยุ่งมากเขาจึงละเลยเรื่องนี้ไป ดังนั้นจึงเป็นสาเหตุทำให้ชีวิตของหยางหลิงรุ่ยถูกทำลายโดยฮั่วเทียนหลัน
หลังจากเกิดเรื่องขึ้น หยางหยวนเคยคิดที่จะให้โอกาสฮั่วเทียนหลันและบอกให้เขารู้ว่าคนที่นอนกับเขาคือหยางหลิงรุ่ย
แต่หยางหยวนไม่คาดคิดเลยว่ามู่เหว่ยคนเจ้าเล่ห์ที่อยู่ข้างฮั่วเทียนหลันนั้นจะเยี่ยมยอดขนาดนี้
เธอแค่จัดฉากสร้างเรื่องขึ้นมาก็สามารถแย่งเอาตำแหน่งที่ควรจะเป็นของหยางหลิงรุ่ยไป
สุดท้ายหยางหลิงรุ่ยก็ทำได้เพียงหนีออกจากเมือง Z ไปอย่างน่าสลดใจ
และเหตุการณ์ครั้งนี้กลายเป็นความผิดชั่วชีวิตของหยางหยวน
"คนนั้นชื่อว่าอะไรเหรอคะ" หยางหลิงรุ่ยถามขึ้นมาเบา ๆ
หยางหยวนหวนคิดถึงเรื่องราวในอดีตครู่นึง เรื่องทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับหยางหลิงรุ่ยนั้น มันตราตรึงอยู่ในใจของเขาทุกอย่าง
“คนนั้นก็เป็นคนของตระกูลหยางเช่นกัน ชื่อหยางหยิน”
หยางหยวนเอ่ยขึ้นช้า ๆ ชื่อนี้หยางหลิงรุ่ยรู้สึกคุ้นเคยมาก
สัญชาตญาณบอกเธอว่าเมื่อก่อนเธอเคยรักหยางหยินแทบจะขาดใจ เพียงแต่อาจจะมีเหตุผลบางอย่างทำให้พวกเธอต้องจบกันไปในที่สุด
เธอส่ายหัวไปมาพยายามสบัดภาพความทรงจำเกี่ยวกับหยางหยินออกไปจากสมอง
ตอนนี้เธอก็แทบจะเอาตัวไม่รอดอยู่แล้ว ยังจะไปนึกถึงความทรงจำเหล่านี้ให้มันได้อะไรขึ้นมา
"หลิงรุ่ย เธอเกลียดตระกูลหยางไหม"
หยางหยวนเฝ้าสังเกตดูสีหน้าท่าทางของหยางหลิงรุ่ยอยู่ตลอดเวลา
หยางหลิงรุ่ยเป็นคนไม่ซับซ้อน ปกติแล้วสิ่งที่เธอคิดทั้งหมดมักจะถูกแสดงออกมาผ่านทางสีหน้าอย่างชัดเจน
แต่วันนี้หยางหยวนกลับมองเธอไม่ออกเลยสักนิด
หยางหลิงรุ่ยตอนนี้ใบหน้าเรียบนิ่ง เธอเก็บเรื่องราวทุกอย่างซ่อนเอาไว้ในใจ
นั่นทำให้หยางหยวนเริ่มเกิดความวิตกกังวลมากยิ่งขึ้น
หยางหลิงรุ่ยไม่ได้เอ่ยตอบ แต่กลับส่ายหน้าอย่างเงียบ ๆ
เธอต้องเกลียดด้วยเหรอ
เอาจริง ๆ เธอก็ไม่รู้เหมือนกัน เพราะไม่ว่าจะพูดยังไงแม่ของเธอก็เป็นฝ่ายหนีออกจากบ้านตระกูลหยางก่อน และยังเป็นคนเริ่มตัดขาดความสัมพันธ์กับตระกูลหยาง ไม่ให้พวกเขาเข้ามายุ่งเกี่ยวกับชีวิตของเธอ
ส่วนตระกูลหยาง หลังจากที่ตกลงกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว พวกเขาก็ทำตามที่พูดทั้งหมดและไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวใด ๆ เลย
แม้กระทั่งตอนที่หยางหลิงรุ่ยจนแต้มช่วงนั้น ตระกูลหยางก็ไม่เคยปรากฏตัวเลย
สิ่งนี้สามารถเข้าใจได้ว่าเป็นการรักษาคำพูดที่ให้ไว้ แต่เมื่อคิดให้ดีจะรู้ว่าความจริงแล้วสิ่งที่ตระกูลหยางทำนั้นเป็นการซ้ำเติมอย่างเลือดเย็น
คำพูดเหล่านี้หยางหลิงรุ่ยได้แต่คิดในใจตัวเองเท่านั้น แต่ไม่สามารถพูดออกมาได้
เพราะไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก่อนหน้านั้น อย่างน้อยตลอดเวลาสองปีที่ผ่านมา คนของบ้านตระกูลหยางต่างก็ปฏิบัติต่อเธอเป็นอย่างดี ดีมาก ๆ เลยแหละ
ทุกคนรักและเอาใจใส่เธอมาก ๆ ขอแค่เธอแสดงความต้องการต่อของสิ่งใดเพียงเล็กน้อย วันรุ่งขึ้นของสิ่งนั้นก็จะถูกนำมาวางตรงหน้าเธอทั้งหมด
ราวกับว่าตระกูลหยางใช้วิธีการดังกล่าวเพื่อชดใช้ในสิ่งที่พวกเขาเคยติดค้างหยางหลิงรุ่ยในอดีต
เมื่อเห็นหยางหลิงรุ่ยไม่ยอมพูดอะไรออกมา หยางหยวนก็แสดงสีหน้าท่าทางยุ่งยาก
สุดท้ายเขาก็ไม่สามารถทนต่อความรู้สึกที่ไม่ปกติในใจได้ เขาถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนจะเอ่ยขึ้น : "หลิงรุ่ย เธอยังเกลียดพวกเราอยู่ใช่ไหม"
"เปล่าค่ะ" หยางหลิงรุ่ยส่ายหัวปฏิเสธ
เธอรู้สึกว่า แม้เมื่อก่อนจะเคยเกลียดมากแค่ไหน แต่อย่างน้อยตอนนี้ตระกูลหยางก็รักเธอมาก
คนเราไม่ควรยึดติดอยู่กับอดีตไม่ยอมปล่อยวาง เพราะแบบนั้นมีแต่จะทำให้ชีวิตติดอยู่กับความเกลียดชังเท่านั้น
ถ้าหากคุณแม่ยังอยู่ เธอก็คงจะไม่ยอมให้ตระกูลหยางทำเช่นนั้น
"แต่บนหน้าของเธอเขียนเอาไว้ชัดเจนเลย" หยางหยวนยิ้มอย่างขมขื่น
“เรื่องที่เธอขายตัวเองและถูกฮัวเทียนหลันครอบครองในปีนั้นเป็นความผิดของฉันจริง ๆ ฉันไม่ได้ปกป้องเธอให้ดี ช่วงเวลานั้นมีเรื่องบางอย่างเกิดขึ้นและมันได้เบียงเบนความสนใจของฉันไปจนหมด จนถึงตอนนี้ฉันก็ยังไม่สามารถตรวจสอบได้อย่างแน่ชัดว่ามีใครบางคนสร้างเรื่องแบบนี้ขึ้นมาโดยเจตนหรือเปล่า อันที่จริงพวกเราสองคนเริ่มสนิมและคุ้นเคยกันก็ตอนที่หลังจากเธอสูญเสียความทรงจำไปแล้วเมื่อสองปีก่อนนี่เอง ช่วงเวลาก่อนหน้านั้นเธอไม่รู้จักฉันเลย ส่วนฉันรู้จักเธอแต่ก็ไม่สามารถทำให้เรารู้จักกันได้"
คำพูดของหยางหยวนสัมผัสถึงจุดอ่อนไหวในใจของหยางหลิงรุ่ย
เป็นความจริงที่ว่าเธอสูญเสียความทรงจำไปแล้ว แต่ความทรงจำบางอย่างที่ถูกซ่อนเอาไว้ในส่วนลึกกลับเริ่มปรากฏเป็นภาพจำขึ้นมาในตอนที่เธอไม่อยากจะคิดถึงมันเลยสักนิด นั่นทำให้เธอรู้สึกหมดอาลัยตายอยากจากการสูญเสีย
ตอนนี้เธอเหมือนจะจำเรื่องราวการพบกันกับหยางหยินเด็กหนุ่มหน้าตาดีและสดใสร่างเริงคนนั้นได้แล้ว
พวกเธอสองคนรักกันปานจะตาย
แต่ต่อมาทำไมถึงเลิกกันล่ะ
ดูเหมือนว่าจะเป็นเพราะตระกูลอันล้มละลาย?
แล้วเธอก็นึกขึ้นได้อีกว่า เมื่อตอนที่เธอไปมาหาสู่กับหยางหยินนั้น ดูเหมือนเธอจะเคยพบเห็นร่างที่เธอแสนคุ้นเคยโดยบังเอิญประจำ คนตนนั้นมักจะมองจากนอกโรงเรียนเข้ามาเสมอ
ตอนนั้นหยางหลิงรุ่ยไม่ได้เก็บมาคิดอะไร แค่คิดว่าคนคนนั้นคงจะกำลังมองหาใครบางคนก็เท่านั้น
แต่ตอนนี้เวลาผ่านไปนานหลายปีแล้ว หลังจากที่หยางหลิงรุ่ยขบคิดเกี่ยวกับคนคนนั้นในหัวสักพัก เธอก็พบว่าเขาและหยางหยวนมีความคล้ายคลึงกันอย่างน่าประหลาดใจ
หยางหยวนไม่น่าจะโกหกเธอ เพราะอย่างน้อยที่เขาบอกว่าหลังจากที่เธอสูญเสียคุณพ่อและคุณแม่ไปแล้ว ช่วงที่เธอเติบโตเป็นผู้ใหญ่ในไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ เขาก็คอยอยู่ดูแลและเคียงข้างเธอมาเสมอ
“พี่ใหญ่คะ ฉันเชื่อที่พี่พูด พี่อย่าคิดมากเลย”
หยางหลิงรุ่ยเอ่ยขึ้น แต่ขณะเดียวกันเธอก็รู้สึกว่าคำพูดของเธอฟังดูหม่นหมองอย่างบอกไม่ถูก
หยางหยวนยิ้มพร้อมทั้งส่ายหน้าไปมา ราวกับกำลังตกอยู่ในห้วงความทรงจำ
“ฉันรู้ว่าเธอเกลียดตระกูลหยาง เกลียดพวกเราที่ไม่สามารถปกป้องชีวิตของเธอให้ดี และก็เกลียดในความไร้น้ำใจของพวกเรา เพราะหลังจากที่แม่ของเธอจากไป พวกเราก็ไม่แม้แต่จะคิดแยแสใด ๆ และตอนที่เธอถูกทำร้าย พวกเราก็ไม่เคยปรากฏตัวขึ้นเลย ถ้าหากฉันใช้เงิน 500,000 หยวนเพื่อช่วยน้องชายของเธอในตอนนั้น ก็คงจะไม่เกิดเรื่องราวมากมายเหล่านี้ขึ้นมา... "
เมื่อหยางหยวนพูดมาถึงตรงนี้ก็ถูกหยางหลิงรุ่ยเอ่ยขัดจังหวะขึ้นมาทันที
"น้องชาย? พี่ใหญ่กำลังพูดถึงจางรันเหรอคะ"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: โชคชะตาตื้นมาก แต่ความรักนั้นลึกซึ้ง