คุณยายหยางจับมือของหยางหลิงรุ่ยเพื่อส่งสัญญาณบอกให้เธอไม่ต้องนวดต่อแล้วและให้ไปนั่งพักที่เก้าอี้ด้านข้าง
ขณะเดียวกันก็ดันอัลบั้มรูปไปทางหยางหลิงรุ่ยด้วย
ส่วนเธอนอนหลับตาผ่อนคลายและเตรียมจะงีบหลับเพื่อหลบหนีจากโลกภายนอกสักพัก
หยางหลิงรุ่ยนั่งอยู่บนเก้าอี้และมองดูคุณยายที่กำลังสัปหงกอยู่ก็รู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อย
คุณยายปล่อยขนาดนี้แล้ว เห็นได้ชัดว่าอยากให้เธอดูมัน
หยางหลิงรุ่ยลังเลอยู่ครู่นึง จนสุดท้ายก็หยิบมันขึ้นมา
อัลบั้มรูปเต็มไปด้วยร่องรอยแห่งกาลเวลา มันเริ่มขึ้นสีเหลืองและผุกร่อนเล็กน้อย หยางหลิงรุ่ยต้องถือมันไว้ในมืออย่างระมัดระวังมาก
เธอเปิดหน้าปกของมันอย่างเบามือ หน้าแรกเป็นแผ่นกระดาษเปล่าที่มีภาพร่างเอาไว้
มีผู้ชายและผู้หญิงอยู่ข้างใน ผู้หญิงโน้มตัวลงสู่อ้อมกอดของผู้ชายอย่างอ่อนโยน
ดูจากลายพู่กันหยางหลิงรุ่ยคิดว่าน่าจะเป็นคุณยายวาดที่วาดภาพนี้
ส่วนผู้ชายคนนี้ก็เป็นใครไปไม่ได้นอกจากคุณตานั่นเอง
เธอเปิดพลิกดูต่อไป รูปถ่ายข้างในนั้นถูกเรียงตามลำดับเวลาอย่างชัดเจน
ภาพแต่ละหน้าเป็นภาพที่ถ่ายเมื่อคุณตาและคุณยายยังเป็นวัยรุ่ย
ตอนเป็นหนุ่มคุณตาหล่อมาก เขาเต็มไปด้วยมาดของชายชาตรีที่มีมากกว่าหยางหยวนเสียอีก
ส่วนคุณยายนั้นยิ่งไม่ต้องพูดถึง เธอเป็นสาวงามตามมาตรฐาน
ทำให้สิ่งที่หยางหลิงรุ่ยเคยคาดเดามาตลอดในใจได้รับคำตอบ เพราะเมื่อเธอดูโครงร่างและใบหน้าของคุณยายก็มักจะคิดเสมอว่าคุณยายจะสวยแค่ไหนเมื่อตอนเป็นสาว
เมื่อเปิดดูไปเรื่อย ๆ หยางหลิงรุ่ยก็พบว่ามีรูปเด็กหญิงตัวเล็กอยู่ในอัลบั้มอีกด้วย จากนั้นก็พบเด็กชายตัวน้อยอีกคน
อัลบั้มนี้ค่อนข้างหนา เมื่อหยางหลิงรุ่ยเปิดดูจนถึงกลางเล่ม เด็กหญิงและเด็กชายตัวเล็กน้อยก็เริ่มเติบโตไปทีละนิดแล้ว
จากนั้น ภาพถ่ายรวมครอบครัวภาพแรกก็ปรากฏขึ้น
ภาพนี้ถูกถ่ายเมื่อหลายสิบปีก่อน เห็นได้ว่าภาพนี้ไม่ได้ถูกเก็บรักษาเป็นอย่างดีเพราะมันมีล่องรอยการถูกสัมผัสอย่างเห็นได้ชัด
หยางหลิงรุ่ยมองดูบุคคลในภาพ คุณตาคุณยายนั่งอยู่ข้าง ๆ และมีหญิงชราคนหนึ่งอยู่ตรงกลาง คาดว่าน่าจะเป็นคุณทวด
มีหลายคนที่หยางหลิงรุ่ยไม่รู้จัก
ตระกูลหยางเป็นตระกูลใหญ่และมีกิจการมากมาย หยางหลิงรุ่ยเพิ่งจะกลับมาได้เพียงสองปีและยังมีอีกหลายคนที่เธอยังไม่เคยคบค้าสมาคมด้วย
ข้างหลังคุณตาเป็นเด็กผู้ชายท่าทางเคร่งขรึมคนหนึ่ง ส่วนข้างหลังคุณยายนั้นเป็นเด็กผู้หญิงที่มีรอยยิ้มสดใส
และกำลังกอดคุณยายเอาไว้เพื่อถ่ายรูปนี้
ภาพครอบครัวนี้ แม้ว่าทุกคนจะยิ้มอย่างมีความสุขแต่พวกเขาก็ยังคงรักษาท่านั่งและท่ายืนอย่างจริงจังเป็นทางการ
มีเพียงเด็กผู้หญิงคนนี้ที่กอดคุณยายเอาไว้ตามอำเถอใจ ใบหน้าของเธอแนบติดกับใบหน้าของคุณยายอย่างใกล้ชิดสนิทสนม
คนที่กล้าทำเช่นนี้ในตระกูลหยางคงมีเพียงคนเดียวเท่านั้น
หยางหลิงรุ่ยจ้องมองภาพนี้ไม่วางตา ผู้หญิงที่ทำตัวสบาย ๆ คนนี้ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความอ่อนเยาว์
รูปทรงใบหน้ายังดูคล้ายคลึงกับหยางหลิงรุ่ยในปัจจุบันเป็นอย่างมาก
เธอจิตใจล่องลอยอย่างอดไม่ได้ นี่อาจจะเป็นรูปคุณแม่ของเธอเมื่อตอนเป็นสาว มองท่าทางแล้วอีกฝ่ายดูจะไม่มีความกังวลใจใด ๆ เลยสักนิด
แม้ว่าตอนนี้เธอจะจำอะไรไม่ได้เลย แต่นั่นไม่มีผลต่อการคาดการณ์ของเธอเลยแม้แต่น้อย
ไม่รู้ว่าต่อจากนั้นคุณแม่ยังจะยิ้มสวยขนาดนี้อยู่หรือเปล่า
ทันใดนั้นก็มีเสียงดังเข้ามาในหูของหยางหลิงรุ่ย : "รู้ไหมว่านั่นคือใคร"
เมื่อได้ยินเสียงนั้น หยางหลิงรุ่ยก็รีบเงยหน้าขึ้นและปิดอัลบั้มลงอย่างไม่รู้ตัว
ราวกับกลัวว่าตัวเองจะถูกคนอื่นพบว่ากำลังหวนนึกถึงเรื่องราวบางอย่างในอดีตอยู่
เมื่อเห็นใบหน้าใจดีของคุณยาย หยางหลิงรุ่ยก็พูดอ้ำ ๆ อึ้ง ๆ ขึ้นมา : "ผู้หญิงคนนั้น คือ คือคุณแม่ของหนูหรือเปล่าคะ"
"อืม" คุณยายหยางพยักหน้าอย่างแผ่วเบา ความรักใคร่เอ็นดูในแววตาแทบจะล้นออกมาเพราะภาพที่หยางหลิงรุ่ยเห็นภาพนั้น
“เจ้าเด็กเหมิงฟานคนนี้หัวดื้อมาตั้งแต่เด็ก หลังจากหนีไปนานหลายปีแล้วก็ไม่เคยคิดจะกลับมาเยี่ยมแม่เฒ่าคนนี้เลยสักนิด!”
ขณะที่พูด น้ำเสียงของคุณยายหยางก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย
หยางหลิงรุ่ยรีบดึงทิชชู่บนโต๊ะขึ้นมาหนึ่งแผ่นจากนั้นยื่นส่งไปให้
"คุณยายคะ เป็นเพราะตอนนั้นคุณแม่หุนหันพลันแล่นเกินไป ดังนั้นโทษเธอคนเดียวเลย คุณยายไม่ได้ผิดอะไรเลยสักนิด!"
หยางหลิงรุ่ยปัดความรับผิดชอบทั้งหมดไปให้แม่ของเธอ โดยไม่สนว่าจะเป็นหรือตาย แม้ว่าจะพูดให้คุณแม่ไม่ดี แต่เมื่อนึกถึงผู้ที่ล่วงลับไปแล้วก็คิดได้ว่าไม่ควรจะไปโทษเธออย่างนั้น
"เจ้าเด็กคนนี้นี่!" คุณยายหยางเอ่ยตำหนิเล็กน้อย ก่อนจะใช้ทิชชู่เช็ดที่หางตา
เมื่อมองดูรูปร่างของหยางหลิงรุ่ย เธอก็นึกถึงตอนที่หยางเหมิงฟานยังคงอยู่เคียงข้างเธอ
ถ้าหากตอนนั้นสามารถพูดง้ออีกฝ่ายได้มันจะดีแค่ไหนนะ
บางทีอาจจะไม่มีเรื่องราวมากมายที่อยู่เบื้องหลังเช่นนี้ แม้ว่าคนในครอบครัวจะไม่ได้พูดอะไรแต่คุณยายหยางก็รู้สึกได้ เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นในตอนนั้นรวมถึงหยางเฉิงเจ๋อลูกชายของเธอที่มักจะพูดบ่นเรื่องคับแค้นใจอยู่บ่อย ๆ
หยางหลิงรุ่ยยกยิ้มเล็กน้อย แต่รอยยิ้มนั้นดูช่างฝืนใจจนสามารถมองออกได้ในพริบตาเดียว
เธอพลิกเปิดอัลบั้มรูปไปอีกหน้า รูปด้านล่างเป็นรูปเดียวของหยางเหมิงฟาน
เธอนั่งอยู่ท่ามกลางหมู่ดอกไม้และถูกดอกไม้พวกนั้นล้อมรอบตัวเอาไว้พร้อมกับยิ้มสดใส
หยางหลิงรุ่ยจ้องมองอยู่อย่างนั้นจนเริ่มเหม่อลอยเล็กน้อย
นี่คือคุณแม่ของเธอ คุณแม่ที่เลี้ยงดูเธอมาจนโต
ตอนที่คุณแม่ยังเป็นวัยรุ่น เธอดูสดใสร่าเริงและเป็นที่รักของคนอื่น หลังจากที่เธอออกจากบ้านตระกูลหยางไปก็น่าจะมีชีวิตที่ดีมากเหมือนกัน
คุณแม่เป็นคนร่าเริงเช่นนี้ ตอนที่เธอยังเป็นเด็กก็น่าจะถูกเลี้ยงดูมาอย่างมีความสุขมากเหมือนกันใช่ไหมนะ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: โชคชะตาตื้นมาก แต่ความรักนั้นลึกซึ้ง