ชิงหรงพูดด้วยความภาคภูมิใจ
เด็กที่อยู่รายล้อมตู้คีบตุ๊กตา ก็รู้สึกไม่พอใจ
“อย่ามั่นใจไปหน่อยเลย ถ้าจับไม่ได้ขึ้นมาล่ะ!”
เด็กคนที่พูด คือเด็กคนที่หยอดไปเจ็ดหรือแปดเหรียญ แต่คีบไม่ได้
ชิงหรงรู้สึกว่าตัวเองดูว่าไม่เป็นมิตรของทุกคน ดังนั้นเธอจึงไม่พูดอะไรที่ดูมั่นใจแล้ว
แต่การถ่อมตัว ไม่ใช่ลักษณะนิสัยของเธอ
ดังนั้นเธอจึงยิ้ม และไม่พูดเยอะ ท่ามกลางสายตาของเด็ก ๆ ที่ดูตื่นเต้นอย่างเห็นได้ เธอก็หยอดเหรียญลงไป
ชิงหรงไม่เคยเล่นตู้คีบตุ๊กตามาก่อน แต่ความสามารถในการเรียนรู้ของเธอยังคงสุดยอดเสมอ
เมื่อเธอดูเด็ก ๆ เหล่านี้จับตุ๊กตาในตอนนี้เธอมักจะตัดสินการเคลื่อนไหวของเครื่องจับตุ๊กตา
ตำแหน่งไหนควรทำอะไร หรืออะไรที่ทำให้หลุดง่ายๆ
ในสมองของเธอได้สะสมกลยุทธ์ในการจับตุ๊กตาไว้แล้ว
ตอนแรกๆ เธอไม่กล้าจับตัวใหญ่ๆ
ดังนั้นเธอจึงลองจับหมีคุมะมงตัวเล็กๆ เด็กๆหลายคนต่างจ้องมองมาที่เธอด้วยสายตาที่ไม่เหลือเชื่อ ชิงหรงเธอคีบตุ๊กตาหมีคุมะมงมาอย่างง่ายดาย
นั่นทำให้ความมั่นใจของชิงหรงยิ่มเพิ่มขึ้น แสดงว่ากลยุทธ์ที่เธอใช้สามารถใช้ได้
หลังจากคีบหมีคุมะมงตัวแรก ทุกคนต่างก็เชื่อมือชิงหรงขึ้นมาบ้าง
เด็กสาวผมหยิกคนเมื่อกี้ ยังไม่ยอมรับในฝีมือของชิงหรง เธอไม่ได้ชื่นชมและบอกแค่ว่าชิงหรงโชคดีก็เท่านั้น
พูดแค่สองสามประโยค ชิงหรงก็ไม่ได้คิดอะไรมาก
แต่การพูดบ่อยๆ ทำให้ชิงหรงโกรธขึ้นมา
เธอนำความคิดทั้งหมดของเธอโยนไปที่เครื่องคีบตุ๊กตา
ชิงหรงโชว์ความสามารถที่แท้จริงออกมา ทำให้เด็กสาวผมหญิงสีหน้าเปลี่ยนไปในทันที
หนึ่งตัว สองตัว ตัวที่สาม.....เล็กนะ ตัวใหญ่ขึ้นมาหน่อย ตัวใหญ่มากเลยตัวนี้............
ตุ๊กตาทั้งหมดถูกชิงหรงคีบไป
ตอนแรกที่จับตุ๊กตาได้ ก็ยังพอมีที่วางตุ๊กตา
แต่เมื่อจับตุ๊กตาได้มากขึ้น ฮั่วเทียนหลานก็เลยโทรตามโจวหยวน ในไม่ช้าโจวหยวนพร้อมกับอีกสองสามคนวิ่งมาพร้อมกับกล่องกระดาษแข็งขนาดใหญ่สองสามใบ
พนักงานที่เฝ้าอยู่ รู้สึกเจ็บปวดใจเล็กน้อบ เพราะชิงหลงคีบตุ๊กตาไปทีละตัวๆ
สนามเด็กเล่นแห่งนี้ไม่เสียค่าใช้จ่าย
ตู้คีบตุ๊กตานี้ก็ไม่ได้ได้กำไรอะไรมากมาย
ตามจำนวนคนที่มาเล่นตามปกติ เธอจะได้ค่าคอมมิชชั่นประมาณหนึ่งถึงสองร้อย
แต่ตอนนี้ เมื่อเห็นชิงหรงคีบเอาคีบเอา พนักงานรู้สึกว่าค่าคอมมิชชั่นของวันนี้ คงไม่เหลือแล้ว
เนื่องจากชิงหรงเธอคีบได้เกือบหมด เธอดึงดูดเด็กๆจำนวนมาก แถมเด็กๆเหล่านั้นต่างมาคอยเชียร์เธออยู่
ทุกครั้งที่ชิงหรงคีบตุ๊กตาได้ ก็จะมีเสียงเชียร์
ดูเหมือนว่าตอนนี้ชิงหรงกำลังกลายเป็นราชาของเด็ก
เมื่อพนักงานเห็นกล่องขนาดใหญ่ที่อยู่ข้างๆชิงหรง ก็แทบเวียนหัว
เธอต้องการหาเก้าอี้มานั่ง ไม่เช่นนั้นเธอคงเป็นลม
พระเจ้า จะทำมาค้าขายกันอย่างไรเนี่ย?
เอากล่องมาใหญ่ขนาดนี้ จะจับตุ๊กตาให้หมดเลยเหรอ?
ฮั่วเทียนหลันมองไปที่พนักงานที่กำลังนั่งหน้าซีด และมองไปที่ชิงหรงที่ดูดีอกดีใจ
เขาอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาเล็กน้อย แม้ว่าเขาเองก็ไม่เคยเล่นตู้คีบตุ๊กตานี้มาก่อน
แต่เขาก็เดาหลักการของการคีบตุ๊กตาในตู้นี้ได้ไม่ยาก เพียงแต่ต้องทำความเข้าใจกับตู้คีบตุ๊กตานี้ แต่ฮั่วเทียนหลันใช่ว่าจะอยากรู้
แต่นั่นเป็นเพราะลั่นลาน ทุกครั้งที่ออกมากับฮั่วเทียนหลัน เธอก็จะเล่นอยู่นาน
แม้ว่าจะไม่ได้เล่นเอง แต่เห็นวิธีการเล่น ดังนั้นฮั่วเทียนหลันจึงค่อยๆกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญ
บางครั้งเรื่องง่ายๆมันก็ดูว่าง่ายเสียจริง แต่พอลงมือทำมันก็มักจะไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด
ชิงหรงประเดี๋ยวเดียวก็คีบตุ๊กตาได้จำนวนมาก
เด็กคนนี้คือเทพจริงๆ
ฮั่วเทียนหลันเริ่มสนใจตัวตนของชิงหรงมากขึ้นเรื่อย ๆ
พ่อแม่คนไหนกันที่ให้กำเนิดลูกที่ชาญฉลาดขนาดนี้
รอบกายชิงหรง มีเด็กมากกว่ายี่สิบคนมามุง
หลังจากชิงหรงคีบตุ๊กตาคิตตี้ที่ใหญ่ที่สุดทุกคนต่างก็ส่งเสียงเชียร์
"ว้าว สุดยอดจริงๆ!"
"เธอทำได้อย่างไร ช่วยสอนเราได้ไหม ฉันคีบมา20ครั้ง จับมาได้สองตัว แถมยังเป็นตัวเล็กอีก"
" เธอนิสัยไม่ดี ไหนบอกจับได้สองตัวจะให้ฉันไม่ใช่เหรอ แต่ก็ยังจับไม่ได้"
"ที่รัก ก็เป็นเพราตู้คีบนี่มันห่วย!"
"เค้าจับกันได้ตั้งมากมาย คุณอยากโกหกฉันอีก! คุณไม่รักฉันแล้วเหรอ..."
ฮั่วเทียนหลันมองอย่างตกตะลึงกับเสียงโต้เถียงที่ดังออกมา
น้ำเสียงที่ฟังดูคุยกันอย่างสนิทสน ฮั่วเทียนหลันคิดในใจว่าต้องเป็นคู่รักแน่ ๆ
แต่ส่งที่เขาเห็นตรงหน้าคือ เป็นเด็กสองคนอายุพอๆกับชิงหรง
ในขณะนี้ ฮั่วเทียนหลันทํสนคติของเขาจะมีปัญหาแล้ว
โลกใบดีนี้ มีคนเกิดความรักจากการคีบตุ๊กตาเนี่ยนะ?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: โชคชะตาตื้นมาก แต่ความรักนั้นลึกซึ้ง