หลังจากที่หยางหลิงรุ่ยพูดจบเธอก็ไม่สนใจสายตาโกรธเคืองของฮั่วเทียนหลัน
เธอหันมาทำผมให้ชิงหรงใหม่ เธอหยิบหวีในกระเป๋าของเธอออกมา จากนั้นก็หวีให้เธอ รวบ และมัดผมให้เธอใหม่
จากนั้นเธอก็บอกให้ชิงหรงหลบไปข้าง และก็ไม่ลืมที่จะสอนฮั่วเทียนหลัน
เธอบอกฮั่วเทียนหลันถึงวิธีการมัดผมให้เด็กสาว
ว่ามองจากมุมไหนถึงจะรู้ว่าสวยหรือไม่สวย แน่นหรือไม่แน่น เจ็บหรือไม่เจ็บ
หยางหลิงรุ่ยให้เวลาชิงหรงในการดูเครื่องแต่งกายของเธออีกครั้ง
หลังจากที่ผ่านมือของเธอ ภาพเดิมของชิงหรงก็กลับมาอีกครั้ง
อย่างน้อยก็ดีกว่าทรงผมแปลกเมื่อสักครู่หลายเท่า
ลั่นลานที่ยืนอยู่ข้างๆก็พยักเหมือนกับเห็นด้วยกับความคิดของหยางหลิงรุ่ย
นี่ทำให้ฮั่วเทียนหลันขมวดคิ้วขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว ถ้าพูดถึงเรื่องหน้าตาแล้ว ตอนนี้เขาขายหน้าไปแล้วไม่น้อย
แต่เรื่องที่เกิดขึ้นไปแล้วก็ช่างมันไป ฮั่วเทียนหลันไม่ใช่คนที่ห่วงหน้าตาขนาดนั้น
เขารู้ตัวดีว่าที่เขาทำลงไปนั้นไม่ค่อยดี
มองเห็นเด็กผู้หญิงสองคนที่อยู่ตรงหน้า ไม่รู้ว่าทำไมฮั่วเทียนหลันถึงสัมผัสได้กับความรู้สึกของครอบครัว
เขามองไปที่ชิงหรง ชิงหรงก็มองมาที่เขา
ทั้งสองคนจ้องหน้ากันและดูเหมือนจะสื่อสารกันอย่างเงียบ ๆ
สุดท้ายฮั่วเทียนหลันก็ถามคำถามออกมา “หรงหรง หนูคิดว่าลุงผูกผมเปียให้หนูดีไหม?”
คนที่ถูกฮั่วเทียนหลันซื้อไปด้วยโมเดลอย่างชิงหรง ส่ายหัวออกมาอย่างไม่ลังเลพร้อมพูดว่า “ใครบอก? ไร้สาระ!”
ฮั่วเทียนหลันที่ได้ยินคำพูดของชิงหรง ก็รู้สึกดีขึ้นมาในใจ และมีลักยิ้มสวยงามสองอันปรากฏขึ้นที่มุมปากของเขา
หยางหลิงรุ่ยมองไปที่ชิงหรงอย่างไร้ความรู้สึกเธออดไม่ได้ที่จะเอื้อมมือไปแตะหน้าผากของชิงหรง
เด็กคนนี้ก็ไม่ได้ไม่สบายหนิ! ทำไมถึงพูดแบบนี้ออกมาได้หน้าตาเฉย?
ทั้งหมดเข้าไปในรถ ฮั่วเทียนหลันเป็นคนขับ เด็กหญิงทั้งสองคนกับหยางหลิงรุ่ยนี่งอยู่ด้านหลัง
ทันทีที่ขึ้นรถลั่นลานก็ตะโกนอย่างมีความสุขเมื่อเธอเห็นตุ๊กตาเต็มรถ
หยางหลิงรุ่ยมองไปในรถที่เต็มไปด้วยตุ๊กตาด้วยสายตาที่ประหลาดใจ
เธอจึงมองไปที่ฮั่วเทียนหลันด้วยความประหลาดใจ ฮั่วเทียนหลันเพื่อทำให้ชิงหรงมีความสุขเขาต้องลงทุนทำถึงขนาดนี้เลยหรอ?
ฮั่วเทียนหลันสังเกตได้ถึงสายตาที่มีความสงสัยของหยางหลิงรุ่ย เขาจึงส่ายหน้าเพื่อบอกว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวเขา นี่เป็นสิ่งที่ชิงหรงทำทั้งหมดด้วยตัวเอง
ชิงหรงหัดไปหยิบตุ๊กตาตัวใหญ่ที่เธอโปรดปรานที่สุดขึ้นมาให้หยางหลิงรุ่ย
“แม่จ๋า หนูให้แม่!”
หยางหลิงรุ่ยชอบตุ๊กตามาก ใจของเธอสั่น
เมื่อเธอเห็นตุ๊กตาที่อยู่ด้านหน้าเธอก็กอดมันไว้อย่างอ่อนโยน
นอกจากนี้ยังมีกลิ่นลาเวนเดอร์จาง ๆ บนตุ๊กตาซึ่งเป็นกลิ่นที่หยางหลิงรุ่ยนั้นชอบมาก
“ขอบใจมากนะลูก แม่ชอบมันมาก” หยางหลิงรุ่ยยิ้มพร้อมพูดออกมา หอมไปที่ใบหน้าของชิงหรงเบาๆ
ชิงหรงเช็ดหน้าด้วยความไม่ชอบใจ พูดออกมาแบบหงุดหงิดว่า “แม่ ลิปสติก.....”
เธอเข้าใจความหมายที่ชิงหรงพูด ชิงหรงไม่ชอบให้เธอหอมที่ใบหน้าของเธอก็เพราะไม่ชอบให้ลิปสติกแปดเปื้อนใบหน้าของเธอ
“แม่ไม่ต้องหอมหนูแล้ว หนูหอมแม่แทนดีไหม?”
หยางหลิงรุ่ยพูดพร้อมยิ้มออกมา
ชิงหรงมองไปที่หยางหลิงรุ่ยด้วยความเศร้า จากนั้นเธอก็เอื้อมมือไปหยิบทิชชู่เปือกที่วางอยู่ข้างๆเพื่อเอามาเช็ดแก้มของเธอ จากนั้นก็หอมแม่เธอไป
ทิชชู่เปียกมีกลิ่นที่ค่อนข้างเหม็น กลิ่นนั้นติดอยู่บนใบหน้าของชิงหรงทำให้ใบหน้าของเธอเบี้ยวบูด
เมื่อชิงหรงหอมแก้มหยางหลิงรุ่ยเสร็จ เธอก็นำน้ำแร่ที่ฮั่วเทียนหลันได้เตรียมไว้ให้ล้างปาก หลังจากนั้นความรู้สึกข่มขื่นก็ค่อยหายไปจากปากของเธอ
เมื่อเธอเห็นท่าทางที่ไม่ชอบใจของชิงหรง หยางหลิงรุ่ยก็ยิ้มออกมาอีกครั้ง เด็กคนนี้เป็นแบบนี้เพราะการหอมของเธอ
ลั่นลานเริ่มตาเป็นประกาย เธอเห็นมีตุ๊กตาที่อยู่เต็มรถมองไปทางไหรก็ชอบไปหมด เธอหยิบตุ๊กตาหนึ่งตัวขึ้นมากอดจากนั้นก็หยิบขึ้นมาอีกตัว
1 ตัว 2 ตัว 3 ตัว 4 ตัว....
ไม่นานเบาะหลังซึ่งค่อนข้างกว้างขวางก็เต็มไปด้วยตุ๊กตา
แต่ลั่นลานก็ยังรู้สึกไม่พอใจเธอจึงหยิบออกมาอีกเรื่อยๆ
จู่ๆก็มีเสียงแผ่วเบาดังมาจากด้านข้างของเธอ “ลั่นลาน ถ้าเธอยังหยิบมามากกว่านี้พวกเราก็คงถูกฝังด้วยตุ๊กตานี้!”
“เอ๋?” ลั่นลานพูดออกมาด้วยความตกใจเหมือนกับว่ายังไม่เข้าใจคำที่ชิงหรงพูดออกมา
ชิงหรงมองไปที่ลั่นลานด้วยสายตาแปลก หลังจากนั้นเธอก็ชี้ไปที่ตุ๊กตาที่วางอยู่เต็มเบาะหลังรถไปหมด
“ฉัน....” ตอนนี้ลั่นลานเข้าใจแล้ว ใบหน้าของเธอแดงขึ้นอย่างไม่ได้ตั้งใจ
เธอคิดว่าเธอหยิบมาแค่มีกี่ตัว แต่เธอไม่คิดว่าพอหยิบมาเรื่อยๆแล้วมันจะเยอะขนาดนี้
“นี่เอามาให้เธอ”
เมื่อมองไปที่ท่าทางเขินอายของลั่นลาน ชิงหรงก็ไม่ได้ทำให้ลั่นลานลำบากใจต่อไป
ท้ายที่สุดลั่นลานก็เป็นพี่สาวที่ดีของเธอ แม้ว่าลั่นลานตั้งใจจะขโมยแม่ของเธอก็ตาม
และชิงหรงจำได้ว่ามันเขียนไว้ในหนังสือที่เธอเคยอ่านว่าพี่สาวที่ดีควรแบ่งปันสิ่งดีๆให้น้อง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: โชคชะตาตื้นมาก แต่ความรักนั้นลึกซึ้ง