หลังจากทำแบบนั้นไปแล้วหยางหลิงรุ่ยถึงได้สติกลับมา ดูเหมือนว่าเธอจะทำตัวใกล้ชิดกับผู้ชายคนนี้มากเกินไปแล้ว!
ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาสองคนมาถึงจุดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน
ท่าทางทำตัวไม่ถูกของเธอ ในสายตาของฮั่วเทียนหลันกลับดูขี้อ้อนและน่ารักเป็นพิเศษ อย่างที่เขาว่ากันว่าความรักทำให้โลกกลายเป็นสีชมพูจริง ๆ
"คนดี จูบผมแล้วเราลงจากรถกัน"
ฮั่วเทียนหลันรู้ว่าวันนี้เขาหยอกล้อหยางหลิงรุ่ยพอประมาณแล้วจึงเห็นสมควรที่จะหยุด
เพราะถึงอย่างไรการประลองในครั้งนี้ ก็ถือว่าเขาเอาชนะมาได้ครึ่งหนึ่งแล้ว
ตอนนี้เขาต้องรู้จักอดทนและใจเย็นลง
“ทำไมต้องจูบคุณด้วย”
เมื่อเห็นฮั่วเทียนหลันมีท่าทีอ่อนลงแล้ว ความรู้สึกหวาดกลัวของหยางหลิงรุ่ยเมื่อสักครู่ก็เริ่มหายไป
เธอไม่อาจแสดงความอ่อนแอต่อหน้าฮั่วเทียนหลันได้ เพราะแค่เธออ่อนแอเพียงเล็กน้อยก็อาจจะถูกฮั่วเทียนหลันเอาเปรียบได้ในทันที
"ถ้าไม่จูบผม เราก็ไม่ต้องลงจากรถ"
ฮั่วเทียนหลันทำให้หยางหลิงรุ่ยได้เข้าใจว่าการมีอำนาจสูงสุดนั้นเป็นอย่างไร
หยางหลิงรุ่ยตะลึงตาค้างและมองดูฮั่วเทียนหลันเป็นเวลาเนิ่นนาน สุดท้ายเธอก็ถอนหายใจออกมาอย่างหมดทางเลือก
โอเค เธอไม่อาจต่อต้าน
แต่ว่าเธอยังสามารถพูดต่อรองได้นี่นา
"บนรถร้อนเกินไป ฉันไม่มีอารมณ์หรอกนะ"
"แต่ผมมีอามรมณ์ หรือจะเปลี่ยนให้ผมเป็นคนเริ่มแทน"
หลังจากพูดจบเขาก็ไม่รอฟังความคิดเห็นของหยางหลิงรุ่ยเลยสักนิด แต่กลับโน้มตัวเข้าหาเธอในทันที
อาศัยจังหวะที่หยางหลิงรุ่ยยังไม่ทันตั้งตัว กดจูบลงบนริมฝีปากของเธอ
และค้างไว้อย่างนั้นสามวินาทีก่อนจะผละออก
หยางหลิงรุ่ยตอนนี้หน้าแดงก่ำลามไปถึงใบหู
ผู้ชายคนนี้ ทำอย่างนี้ยังไง ทำได้ยังไงกัน...
“ฮั่วเทียนหลัน คุณ ... ”
หยางหลิงรุ่ยอยากจะเอ่ยต่อว่าฮั่วเทียนหลันแต่เธอก็พูดอะไรไม่ออกสักคำ
ฮั่วเทียนหลันในตอนนี้ทำท่าทีสบาย จากนั้นเอ่ยขึ้นเสียงเรียบ : "ทำไมครับ คุณยังรู้สึกไม่พอใจกับจูบเมื่อกี้งั้นเหรอ งั้นผมจูบใหม่อีกรอบ!"
ในฐานะคนปฏิบัติ ข้อดีที่สุดของฮั่วเทียนหลันก็คือทำได้อย่างที่พูดทุกอย่าง
เมื่อเห็นว่าเขากำลังจะโน้มตัวลงมาอีกครั้ง หยางหลิงรุ่ยก็รีบเบือนหน้าหลบฮั่วเทียนหลันในทันที จากนั้นจึงเปิดประตูและลงจากรถไป
ฮั่วเทียนหลันค่อย ๆ ยันตัวลุกขึ้น มองดูหยางหลิงรุ่ยที่กำลังกุมหัวใจของตัวเองอยู่นอกรถ
ใบหน้าแดงระเรื่อของเธอที่อยู่ภายใต้แสงตะวันยามเย็นที่ตกกระทบลงมานั้น ช่างดูงดงามเป็นพิเศษ
หยางหลิงรุ่ยมองเห็นฮั่วเทียนหลันกำลังยิ้มและรอยยิ้มนั้นของเขาดูเหมือนกำลังสะใจที่ได้แกล้งเธอ
เธอจึงอดไม่ได้ที่จะจ้องมองเขาด้วยสายตาดุร้ายราวกับต้องการข่ม
แต่ฮั่วเทียนหลันกลับไม่ได้คิดจะต่อสู้กับสายตาดุดันที่หยางหลิงรุ่ยมองมา เขาเพียงแค่ยกยิ้มอย่างอ่อนโยนส่งไปให้
นั่นทำให้หยางหลิงรุ่ยที่กำลังว่างท่าข่มขู่รู้สึกราวกับโดนตบหน้า
ใขณะนั้นเองก็มีรถคนหนึ่งเคลื่อนตัวเข้ามาจากระยะไกลและได้ทำลายสถานการณ์ระหว่างสองคนในตอนนี้ลง
หยางหลิงรุ่ยเหลือบมองเล็กน้อยก่อนจะเดินเข้าไปหา
รถที่ขับเข้ามาที่นี่ในตอนนี้คาดว่าน่าจะเป็นชิงหรงและลั่นลานไม่ผิดแน่
แล้วก็เป็นอย่างที่คิด หลังจากที่เธอหยุดยืนก็มองเห็นประตูที่กำลังเปิดออกและเด็กน้อยน่ารักสองคนก็ปรากฏขึ้นมาตรงหนา
"คุณแม่!" "คุณแม่!"
ทั้งสองคนรีบวิ่งแจ้นเข้ามาหาเธออยากต้องการจะกอด
หยางหลิงรุ่ยมีเพียงสองแขน จะกอดแค่ใครคนใดคนหนึ่งก็คงไม่ดีเท่าไหร่ ดังนั้นเธอจึงลังเลเล็กน้อย สุดท้ายจึงกอดเด็กน้อยทั้งสองคนพร้อมกันทีเดียว
เพียงแค่อยู่ต่อหน้าหยางหลิงรุ่ย ลั่นลานก็ไม่มีท่าทีว่าจะสำรวมเลยสักนิด
เธอพูดเจี๊ยวจ๊าวอย่างต้องการอวดว่าวันนี้เธอซื้อโมเดลจำลองตัวที่เธอชอบมาด้วย
ส่วนชิงหรงที่รู้ว่าหยางหลิงรุ่ยไม่ชอบให้เธอเล่นโมเดลก็ทำเพียงยืนเเงียบอยู่ด้านข้าง
แต่ลักยิ้มน้อย ๆ ที่เผยขึ้นมาทั้งสองแก้มนั้นบ่งบอกได้อย่างชัดเจนว่าเธอกำลังมีความสุข
ขณะนั้นเองฮั่วเทียนหลันก็เดินเข้ามาและลูบผมของลั่นลานอย่างรักใคร่เอ็นดู
"หิวหรือยัง"
"อื้อ!"
"อยากกินอะไร"
“คุณพ่อทำอะไรหนูก็ชอบหมดเลย!”
ลั่นลานตอบอย่างลื่นไหล ทำให้ชิงหรงและหยางหลิงรุ่ยถึงกับตกตะลึง
ชิงหรงไม่รู้เลยว่ายังมีสิ่งที่เรียกว่าประจบสอพลออยู่บนโลกนี้อีกด้วย
ส่วนหยางหลิงรุ่ยตอนนี้เริ่มเป็นกังวลเล็กน้อยเกี่ยวกับการเติบโตในอนาคตของลั่นลาน
เด็กคนนี้ถูกฮั่วเทียนหลันสอนมาอย่างผิด ๆ ไม่ว่าจะพูดยังไงก็ดูไม่มีหลักการเอาเสียเลย
ภายในคฤหาสน์หรู หยางหลิงรุ่ยและลั่นลานรวมถึงชิงหรงกำลังนั่งอยู่บนโซฟา อนิเมะเรื่องล่าสุดกำลังฉายอยู่บนหน้าจอทีวี
เนื่องจากปัญหาในการดูทีวี ทำให้ลั่นลานและชิงหรงเกิดความขัดแย้งกันขึ้นมาเล็กน้อย
ลั่นลานต้องการดูเรื่องเจ้าหญิงทั้งเจ็ดคนที่เพิ่งเริ่มฉายล่าสุด เพราะเธอชื่นชอบแนวน่ารัก ๆ
แต่ชิงหรงต้องการดูอะไรบางอย่างที่มีความเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมาหน่อย
แม้ว่าเธอจะไม่ได้พูดอะไร แต่จากการที่เธอกดเปลี่ยนช่องและสายตาเอาแต่จับจ้องอยู่ที่อินุยาฉะนั้น ทำให้หยางหลิงรุ่ยอดไม่ได้ที่จะกุมหน้าผาก
เธอกังวลมากว่าลูกสาวของเธอโตขึ้นมาจะกลายเป็นคนบ้าคลั่งความรุนแรง
ผู้ใหญ่หนึ่งคนและเด็กอีกสองคนที่อยู่ในห้องนั่งเล่นส่งเสียงหัวเราะพอใจขึ้นมาเป็นระยะ ๆ
ในขณะเดียวกันนั้นฮั่วเทียนหลันก็กำลังยุ่งอยู่ในห้องครัว เขาสวมหมวกเชฟอยู่บนหัวและสวมผ้ากันเปื้อนบนตัว นอกจากนั้นที่มือของเขายังสวมใส่ถุงมือสีขาวอีกด้วย ราวกับเป็นเชฟระดับมืออาชีพ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: โชคชะตาตื้นมาก แต่ความรักนั้นลึกซึ้ง