โชคชะตาตื้นมาก แต่ความรักนั้นลึกซึ้ง นิยาย บท 480

หลังจากทานอาหารเย็นแล้วเวลายังไม่ถึงสองทุ่ม

ทั้งสองคนจึงไปเดินเล่นซื้อของในห้างสรรพสินค้าตามคำแนะนำของหยางหลิงรุ่ย

ผู้หญิงเดินห้างมักจะซื้อซื้อซื้ออย่างเดียว

ในตอนแรกเป็นหยางหลิงรุ่ยที่พอเจอของที่ชอบก็ซื้อมันเลยทันที

และมีฉีหลานคอยเฝ้าดูอยู่ข้าง ๆ อย่างสงบ

เมื่อหยางหลิงรุ่ยเอ่ยปากถามเธอว่าดีหรือไม่ดีนั้น เธอก็พูดตามความคิดเห็นของตัวเองอย่างตรงประเด็นทันที

แต่หยางหลิงรุ่ยมักจะรู้สึกว่าฉีหลานนั้นดูนิ่งเกินไป รูปร่างของฉีหลานสวยงามสมส่วนแทบจะแต่งตัวได้ทุกสไตล์

มีเสื้อผ้าสวยงามมากมายที่เธอสามารถสวมใส่ได้

ดังนั้นภายใต้การยุยงของหยางหลิงรุุ่ย ฉีหลานจึงเข้าสู่สภาวะช็อปปิ้งอย่างรวดเร็ว

หลังจากที่พวกเธอเดินออกมาจากโซนเสื้อผ้าชั้นสาม มือก็แทบจะไม่มีแรงเนื่องจากต่างคนต่างก็ถือถุงกระดาษกันคนละเจ็ดแปดถุง

หลังจากจัดการนำของทั้งหมดไปให้พนักงานช่วยส่งกลับที่พักแล้ว หยางหลิงรุ่ยและฉีหลานก็ไปดื่มชายามเย็นกันต่อที่ชั้นบนสุดของห้าง

ชั้นบนสุดเป็นลานชมวิว ร้านอาหารเป็นแบบเปิดโล่งทั้งหมดและตกแต่งตามสไตล์เมืองริมน้ำของเจียงหนาน มองดูหรูหราแปลกตาเป็นอย่างมาก

ครั้งนี้หยางหลิงรุ่ยเลือกดื่มชานม เธอเดินช็อปปิ้งจนรู้สึกเหนื่อยและอยากดื่มอะไรหวาน ๆ สักหน่อย

ฉีหลานลังเลอยู่ครู่นึง จู่ ๆ เธอก็อยากดื่มของหวาน ๆ เช่นเดียวกัน

เพราะแต่ก่อนเธอก็เป็นผู้หญิงที่ชอบกินของหวานมาก

แต่ในขณะที่เธอกำลังคิดอยู่นั้น หยางหลิงรุ่ยก็ได้ทำการตัดสินใจแทนฉีหลานไปเรียบร้อย

ไม่นานชานมของทั้งสองคนก็ถูกนำมาเสิร์ฟและหยางหลิงรุ่ยยังสั่งผลไม้และขนมหวานเพิ่มมาอีกด้วย

หยางหลิงรุ่ยเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า ดวงดาวแพรวพราวระยิบระยับทำให้เธออดไม่ได้ที่จะนึกถึงชายหาดเมืองออร์ตัน

ถ้าตอนนี้เธอยังอยู่ที่ออร์ตันล่ะก็ เธอคงจะกำลังเพลิดเพลินไปกับลมทะเลอ่อน ๆ บนชายหาดเป็นแน่!

ชิงหรงอาจจะเล่นน้ำกับกลุ่มเด็ก ๆ อยู่ด้านข้าง เล่นก่อกองทรายอะไรพรรคนี้เธอทำไม่เป็นหรอก

การเล่นน้ำมีไว้เพื่อแข่งขัน แต่การก่อกองทรายนั้นในมุมมองของผู้ใหญ่ตัวน้อยอย่างเธอรู้สึกว่ามันปัญญาอ่อนเกินไป

ฉีหลานมองไปที่พระจันทร์ครึ่งเสี้ยวบนท้องฟ้าด้วยความรู้สึกร้อยแปดพันเก้าในใจ

หลังจากออกจากห้องขังแล้วเธอได้ใช้ชีวิตอยู่ในโลกแห่งอุบาย ทุกสิ่งทุกอย่างที่เธอทำก็เพื่อเป็นการการปูทางไปสู่การจัดเตรียมอะไรบางอย่าง

เธอจำไม่ได้แล้วว่าครั้งสุดท้ายที่เธอรู้สึกเพลินเพลินกับของบางสิ่งด้วยจิตใจที่เย็นสงบนั่นคือเมื่อไหร่

ขณะนั้นเองหยางหลิงรุ่ยก็ได้ยินเสียงคนพูดคุยกันดังขึ้นมารอบตัว

เธอมองไปรอบ ๆ ไม่รู้ว่าภายในร้านเต็มไปด้วยผู้คนตั้งแต่ตอนไหน

คนที่มาที่นี่ส่วนใหญ่เป็นคู่รักหรือคู่สามีภรรรยา

ดังนั้นสายตาของพวกผู้ชายผู้หญิงเหล่านั้นต่างก็เต็มไปด้วยความรักอย่างเปิดเผย

เช่นเดียวกับหยางหลิงรุ่ยที่หลงใหลในความงามของฉีหลานและผู้คนรอบข้างเองก็ไม่มีทางต้านทานได้เช่นเดียวกัน

เธอได้ยินคนพูดเกี่ยวกับตัวตนของฉีหลานแว่ว ๆ

บ้างก็บอกว่าเธอเป็นนางแบบ บ้างก็บอกว่าเธอเป็นดารานักแสดง หน้าตาเธอเหมือน xxx มากเลย บราบราบรา

ทั้งหมดนี้ต่างถูกพูดถึงเธอในทางที่ดี แต่ก็มีบางคนคาดเดาว่าฉีหลานเป็นมือที่สามบ้างล่ะ มีเสี่ยเลี้ยงบ้างล่ะต่าง ๆ นา ๆ

สิ่งนี้ทำให้หยางหลิงรุ่ยโกรธจนแทบปอดระเบิด นี่พวกเธอพูดบ้าอะไรกัน

ในตอนที่เธอกำลังกังวลว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นไหมนั้น เรื่องราวที่เธอกลัวก็เดินเข้ามาหาถึงที่

ชายวัยกลางคนพุงโตคนหนึ่งโอบหญิงสาวแต่งตัวโป๊เปลือยซึ่งดูเหมือนว่าจะเป็นเด็กเลี้ยงของเจ้าตัวเดินเข้ามา

ในตอนที่เขากำลังจะเดินผ่านโต๊ะของหยางหลิงรุ่ยไปนั้น สายตาของเขาก็เหลือบมองไปที่ฉีหลานจากนั้นจ้องมองเธออย่างไม่วางตา

แต่เหมือนเขาจะนึกได้ว่านี่คือร้านอาหารระดับไฮเอนด์

หลังจากเขาเปลี่ยนที่นั่งริมสระน้ำมาตรงที่หยางหลิงรุ่ยและคนอื่น ๆ นั่งอยู่ไม่ไกล เขาก็ทิ้งผู้หญิงแต่งหน้าจัดคนนั้นไว้อีกทางและเดินพุงกางตรงเข้ามาทันที

เมื่อเห็นชายวัยกลางคนเดินเข้ามาใกล้มากขึ้นเรื่อย ๆ หยางหลิงรุ่ยก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกประหม่า

สัญชาตญาณบอกเธอว่าผู้ชายคนนี้ต้องมาไม่ดีอย่างแน่นอน

หลังจากชายวัยกลางคนคนนั้นเดินเข้ามาแล้วเขาก็ดึงเก้าอี้ข้าง ๆ หยางหลิงรุ่ยออกและนั่งลงทันที

เขาแสร้งทำเป็นยกยิ้มอย่างสุภาพบุรุษ แต่ไม่รู้ตัวเลยว่าตัวเองเหมือนกับหมูอ้วนตัวใหญ่เสียมากกว่า

เมื่อตอนเขาหัวเราะยังมองเห็นคราบสีเหลืองบนฟันอีกด้วย

หยางหลิงรุ่ยที่กำลังจะดื่มชานมก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกคลื่นไส้จนแทบจะอาเจียนออกมา

“คุณผู้หญิงท่านนี้ คืนนี้ว่างไหมครับ”

ชายวัยกลางคนเป็นคนตรง ๆ หรืออาจเรียกได้ว่าในโลกของเขาไม่มีอะไรที่ซื้อไม่ได้ด้วยเงิน

ดังนั้นเขาจึงเอ่ยขึ้นอย่างตรงไปตรงมาและเข้าสู่ใจความหลักทันที

ฉีหลานไม่ได้เอ่ยตอบแต่คิ้วของเธอเริ่มขมวดขึ้นเล็กน้อย บ่งบอกว่าเธอกำลังไม่พอใจ

จู่ ๆ ก็มีเจ้าหมูอ้วนที่ไหนไม่รู้เข้ามารบกวนและถามคำถามอย่างโจ้งแจ้งเช่นนี้ เป็นใครก็ต้องรู้สึกสะอิดสะเอียนด้วยกันหมดทั้งนั้น

ยิ่งไปกว่านั้นคือเมื่อสักครู่ฉีหลานกำลังดื่มด่ำอยู่กับบรรยากาศที่มีชีวิตชีวาและทำให้หัวใจที่เต็มไปด้วยความเกลียดแค้นของเธอรู้สึกสงบมากขึ้น

เพราะช่วงนี้เธอใช้ชีวิตด้วยความรู้สึกประหม่ามากจนเกินไป การได้ผ่อนคลายเช่นนี้ถือเป็นเรื่องที่ดีมาก ๆ

แต่ทว่าตอนนี้แม้แต่เวลาผ่อนคลายเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่นนี้ก็ยังถูกรบกวนอีก

ฉีหลานไม่ได้พูดอะไรแต่กลับเป็นหยางหลิงรุ่ยที่เริ่มทนไม่ไหวเสียก่อน

"คุณผู้ชายคะ การที่คุณนั่งลงทั้งยังไม่ได้รับอนุญาตเช่นนี้มันดูเป็นการเสียมารยาทไปสักหน่อย กรุณาลุกออกไปด้วยค่ะ!"

หยางหลิงรุ่ยระงับความโกรธภายในใจเอาไว้และพยายามอย่างเต็มที่ที่จะเอ่ยขึ้นด้วยความสุภาพ

ภรรยาคู่ทุกข์คู่ยากของเขาก็ได้ตกอับดับวาสนาไปนานแล้ว

กลายเป็นว่ามีเพียงสาวสวยอ่อนวัยไร้เดียงสามากมายคอยหมุนอยู่รอบตัวเขาตลอดเวลาแทน

เขามีเงินและอีกฝ่ายต้องการเงิน เพราะฉะนั้นถือเป็นการแลกเปลี่ยนที่ยุติธรรมมากเลยทีเดียว

และอีกอย่างฐานะอย่างเขา เขาคิดว่าตัวเองยังสามารถก้าวไปต่อในเมือง S ได้

แต่คราวนี้ดูเหมือนว่าเขาจะคิดคำนวณผิดพลาดไป

ในตอนที่มือของเขากำลังจะสัมผัสกับฉีหลานนั้น หยางหลิงรุ่ยที่โกรธจัดก็คว้าจานขนมบนโต๊ะขึ้นมาจากนั้นคว่ำมันลงใส่หน้าของเขาทันที

ใบหน้าของชายอ้วนกลายเป็นแมวลายตัวใหญ่ในทันที

เขาชะงักอยู่ครู่หนึ่งหลังจากนั้นไม่นานก็ตอบสนองกลับมา

"f*ck นังผู้หญิงเลว แกอยากตายหรือไง!"

ชายอ้วนยื่นมือออกไปต้องการตบลงที่ใบหน้าของหยางหลิงรุ่ย

ตอนนั้นเองหญิงสาวคู่ควงของเขาที่ยังรออยู่ที่โต๊ะนั้น เมื่อเห็นว่าชายอ้วนกำลังแย่ก็รีบพุ่งเข้ามาหาทันที

“เฮ้ พี่สามเป็นอะไรหรือเปล่าคะ”

"นี่หล่อน รู้ตัวไหมว่ากำลังวอนหาที่ตายน่ะ! เธอรู้ไหมว่าพี่สามเป็นใคร รีบคุกเข่าขอโทษซะ ไม่อย่างนั้นตอนออกจากร้านไปเธอได้หายตัวไปจากโลกแน่!"

เท้าและมือหยาบของชายอ้วนเคลื่อนไหวค่อนข้างช้า

ดังนั้นหยางหลิงรุ่ยจึงไหวตัวทัน ในขณะเดียวกันก็ดึงฉีหลานให้หลบไปอีกด้านด้วย

เมื่อเห็นว่าไม่สามารถตบหยางหลิงรุ่ยได้ ชายอ้วนจึงด่าสาปแช่งขึ้นมาและผลักหญิงสาวคู่ควงออกไปอีกด้านอย่างเต็มแรง

“ถอยออกไป อย่ามาขวาง!”

เขาก้าวไปข้างหน้าเพื่อจัดการกับหยางหลิงรุ่ย คำพูดที่ว่าผู้ชายที่ดีไม่ต่อสู้กับผู้หญิงนั้นสำหรับเขาแล้วมันใช้ไม่ได้ผล หากใครบังอาจทำให้เขาโมโหมันก็ไม่คู่ควรที่จะมีชีวิตรอดต่อไปได้

ยิ่งไม่ต้องพูดถึงผู้หญิงไม่รู้จักชั่วดีตรงหน้าเขาคนนี้ เธอกล้าดียังไงมาทำให้เขาเสียศักดิ์ศรีต่อหน้าผู้คนมากมายขนาดนี้

สำหรับเขาแล้วนี่ถือเป็นเรื่องที่น่าอับอายอย่างยิ่ง

แน่นอนว่าหยางหลิงรุ่ยจะไม่ยอมปล่อยให้ชายอ้วนคนนี้ทำอะไรเธอได้ง่าย ๆ ระหว่างที่เธอหลบตัวอยู่อีกด้านเธอก็กดสายโทรออกไปด้วย

โทรศัพท์มือถือดังขึ้นอยู่สักพักถึงมีคนกดรับ

ในสายเป็นเสียงที่ฟังดูเกียจคร้านของหยางเหยียน เขาพูดขึ้นว่า : "หลิงรุ่ย ดึกขนาดนี้แล้วมีเรื่องอะไร!"

เขากำลังทำเรื่องดี ๆ อยู่และกำลังจะเข้าสู่หัวข้อหลักอยู่แล้ว แต่หยางหลิงรุ่ยก็โทรเข้ามาขัดจังหวะเสียก่อน

หยางเหยียนจึงรู้สึกหน่ายเล็กน้อย แต่เขาก็รู้ว่าหยางหลิงรุ่ยโทรมาเอาตอนนี้ก็คงมีเรื่องอะไรเร่งด่วนเป็นแน่

ในสายมีเสียงสบถด่าขึ้นมาไม่หยุดและยังมีเสียงร้องโหวกเหวกโวยวายอีกด้วย

หยางหลิงรุ่ยรีบตอบกลับไปว่า : "พี่สาม ร้านอาหารเจียงหนาน รีบมาช่วยฉันที!"

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: โชคชะตาตื้นมาก แต่ความรักนั้นลึกซึ้ง