หยางหลินรุ่ยเบะปากอย่างเหยียดหยาม "ใช่ค่ะ การขี้โม้ไม่ต้องเสียเงิน ประธานหลี่แสดงอย่างสุดความสามารถก็ดีแล้วค่ะ!"
แต่ในใจของหยางหลินรุ่ยไม่เชื่อ หลี่ซื่อหยวนยังคงฝึกยิมนาสติกอย่างนี้
เกรงว่าเขาจะเล่นพุ่งแหลม น่าจะยังดูปกติซะมากกว่าเสียอีก
หลีซื่อหยวนเห็นท่าทางและสีหน้าที่ไม่เชื่อของหยางหลินรุ่ย ทันใดนั้นในใจก็รู้สึกไม่ดีเล็กน้อย
โอโห นี่ก็ไม่เชื่อเขา?
ความจริงหลี่ซือหยวนไม่ได้โกหกจริง ๆ ตอนที่เขาอยู่มัธยม แม้ว่าคะแนนของเขาจะยอดเยี่ยม
แต่เขาต้องการเอาตัวรอดด้วยสมองและความขยันมาโดยตลอด ต้องเผชิญกับสนามรบของการสอบเข้ามหาวิทยาลัยที่มีการแข่งขันสูงขึ้นทุกปี ท้ายสุดเขาก็เลือกสายพิเศษการกีฬา
การเลือกของเขา ตอนนั้นทำให้คุณครูทั้งโรงเรียนต่างรู้สึกเสียดาย
รวมไปถึงคุณครูประจำชั้นและคุณครูแนะนว ต่างพากันไปพูดคุยกับหลี่จือหยวนหลายรั้ง ให้หลี่จือหยวนเปลี่ยนวิชาเอก
แต่ทว่าเห็นได้ชัด ในใจของหลี่จือหยวนตัดสินใจอย่างแน่นอนแล้ว
การเผชิญหน้ากับคำโน้มน้าวของคุณครูกลุ่มหนึ่ง เขาต่างส่ายหน้าให้
เขาอาศัยความสามารถของร่างกายที่แข็งแกร่งของเขา และยังมีหัวสมองที่ปราดเปื่องมาก รวมทั้งการประสานของร่างกายที่สมบูรณ์แบบ
ที่น่าแปลกใจคือภายในระยะเวลาหนึ่งปี ตอนนั้นก็มีร่องรอยหนึ่งอย่างของเขาอยู่ที่มัธยมปลายออกมา
ในโครงการของยิมนาสติกทั่วประเทศ เป็นโครงการที่เป็นทางการมาก ได้รับเหรียญเงินเพียงงานเดียว
และครั้งนั้น มีปัญหากับผู้ที่รับเหรียญทอง ก็มีการถกเถียงกันเป็นอย่างมาก
คนจำนวนมาก ต่างพูดว่าคนที่ได้รับเหรียญทอง กลัวว่าจะทำธุรกิจกันแล้ว มีการจ่ายเงินกันภายใน
เพียงแค่ยุคนั้นของหลี่จือหยวน ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนแต่เป็นกฎที่พูดไม่ได้ ไม่กระจ่างแจ้ง
ทุกคนล้านเข้าใจ แต่กลับไม่มีใครที่จะสามารถพูดออกมาได้ชัดเจน
เพราะเมื่อพูดออกมา ก็จะหมายถึงการถูกปฏิเสธจากอุตสาหกรรม
ดังนั้นหลี่จือหยวนจึงได้รับเพียงเหรียญเงิน แต่เพราะว่าครั้งนั้นเขาแสดงได้อย่างยอดเยี่ยม ก็ถูกเชิญชวนจากมหาวิทยาลัยหลายแห่งไป
เดิมทีที่เลือกวิชาเอกเกี่ยวกับการกีฬาแล้ว หลี่จือหยวนควรจะอยู่ในอุตสากรรมการกีฬาและพัฒนาต่อไป
ที่ส่งคำเชิญชวนมาให้เขา เป็นโรงเรียนออกกีฬานานาชาติที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างมาก
แน่นอนว่า ยังมีมหาวิทยาลัยอีกไม่น้อย ที่จะฟื้นฟุทุกวิชาให้ดี จึงส่งคำเชิญชวนมาให้กับหลี่ซือหยวน
แม้ว่า ทุกคนต่างไม่ไม่คาดหวังอะไร
ที่จริงแล้ว คุณไม่สามารถคาดหวังว่านักเรียนพลศึกษาคนหนึ่ง จะมาเรียนศิลปศาสตร์หรือวิทยาศาสตร์ได้ใช่มั้ย?
แต่การเลือกของหลี่ซือหยวนในครั้งนี้ ก็ทำให้ผู้คนตะลึงกันอีกครั้ง
นิสัยภาคภูมิใจทั้งตัวของเขาก็กลับมาอีกครั้ง เลือกคณะสารพัดช่างของมหาวิทยาลัย985
หลังจากการเลือกขอเขาประกาศออกไป หลังจากที่ทุกคนตกใจกันยกใหญ่ ก็อดไม่ได้ที่จะประหลาดใจ
เพราะ นี่คือหลี่ซือหยวน
ถ้าหลี่ซือหยวนไม่ทำเรื่องที่น่าประหลาดใจ เกรง่าคนจำนวนมากจะรู้สึกว่านี่ไม่ใช่เรื่องปกติน่ะสิ!
ยังคงเป็นเรืองปกติ ครูประจำชั้นของหลี่ซือหยวนก็ออกโรง ให้หลี่ซือหยวนเปลี่ยนความตั้งใจ ไปเลือกคณะพละศึกษา
ตอนที่ครูประจำชั้นพูดตอนนั้น หลี่จือหยวนยังจำได้ชัดเจน
"หลี่ซือหยวนอ่า! เธอเป็นเมล็ดพันธุ์ที่ดีของการกีฬา มุ่งมั่นที่จะคว้าความรุ่งโรจน์ให้กับประเทศ! อย่าเสียเวลาไปกับศิลปะและวิทยาศาสตร์ที่ไร้ประโยชน์..."
หลี่ซือหยวนที่กำลังฟังประโยคนี้ อารมณ์บนใบหน้าก็ซับซ้อนมาก
เพราะคำพูดเหมือนกัน แต่กับมีความหมายตรงข้ามกัน ตอนนั้นครูประจำชั้นก็เคยแนะนำกับเขา
แต่ครั้งนั้น เขาก็เป็นเมล็ดพันธุ์ที่ดีของสายศิลปะและวิทยาศาสตร์
ยังคงเป็นแบบอย่างที่ปกติ หลี่ซือหยวนกลับไม่เปลี่ยนความตั้งใจ
หลี่ซือหยวนยังคงเลือกวิทยาศาสตร์ และเดินทางมหาวิทยาลัยที่ปกติ
เพียงแค่เพราะว่าเหตุผลที่เขาเป็นนักกีฬา ตอนนั้นเขาจึงไปเข้าร่วมการแข่งขันระดับโรงเรียนไม่น้อยทีเดียว
และนิสัยขงหลี่ซือหยวน ดูแล้วไม่ว่าจะเป็นอุตสาหกรรมไหน เขาก็ต่างล้วนดิ้นรนจนเปนที่หนึ่งเสมอ
ดังนั้น เขาจึงคว้าถ้วยรางวัลให้โรงเรียนได้ไม่น้อย
และเป็นตัวท็อปของมหาวิทยาลัย ผลงานของนักเรียน โรงเรียนต่างล้วนมองเห็นอยู่ในสายตา และได้รับรางวัลอย่างหนัก
หลังจากที่หลี่ซือหยวนเรียนจบ ก็ยังถูกมหาวิทยาลัยแนะนำ ไปต่างประเทศเพื่อเรียนในมหาวิทยาลัยชั้นนำระดับต้น ๆ
ต่อมา เขาพรางพัฒนาตนเง จนในที่สุดก็ได้ในตำแหน่งตอนนี้
เรื่องที่เกี่ยวกับเขาในเมื่อก่อน ฝุ่นเกาะมานานมากแล้ว ขนาดหลี่ซือหยวนเองก็ยังลืมบ้างเล็กน้อย
และครั้งนี้ถ้าหยางหลินรุ่ยไม่พูดแบบนี้ เกรงว่าหลี่ซือหยวนเองก็ยังต้องคิดอย่างรอบครอบสักหน่อย เกี่ยวกับเรื่องตัวเองในเมื่อก่อน
"เธอ ยังไม่เชื่อ ฉัน..."
ในใจของหลี่ซือหยวนจบการคิดพิจารณา แค่อยากคุยกับหยางหลิงรุ่ยเกี่ยวกับเรื่องราวอันรุ่งโรจน์ของเขาก่อนหน้านี้โดยไม่รู้ตัว
แต่เมื่อคำพูดกำลังเพิ่งจะออกจากปาก เขาก็กลับหยุดไว้ทันที
อารมณ์ของเขาก็รู้สึกซับซ้อนแปลก ๆ บางเรื่องก็ผ่านไปหลายปีแล้ว
ตัวเองช่วงตอนเด็ก ตอนวัยรุ่น...ตลอดจนถึงปัจจุบัน
และตัวเอง และตัวเองในตอนที่ใกล้จะแต่งงานแล้้ว จำเป็นต้องตัดสินใจเลือกกับปัญหาครอบครัวอย่างจริงจังใช่หรือไม่
สำหรับการสร้างอาชีพ ระดับความสูงในปัจจุบันของหยางหลินรุ่ยนั้น เกินเอื้อมสำหรับคนส่วนใหญ่ในชีวิตหนึ่ง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: โชคชะตาตื้นมาก แต่ความรักนั้นลึกซึ้ง