โซ่รักใยพิศวาส นิยาย บท 39

หนึ่งเดือนต่อมา

ณ ท่าอากาศยานเลโอนาร์โด ดาวินชี – ฟีอูมีชีโน ประเทศอิตาลี

วารุณียืนโบกมือให้เหนือเมฆพี่ชายต่างมารดาที่เดินออกมาจากประตูผู้โดยสารขาเข้า โดยข้างกายเหนือเมฆมีสาวสวยเดินเคียงข้างกันมาด้วย สาวคนนั้นจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก ช้องนาง คนรักของเขาที่มีกำหนดวัววิวาห์อีกสองเดือนข้างหน้า ก่อนวิ่งเข้าไปกอดด้วยความคิดถึง

“คิดถึงพี่เหนือที่สุดเลย” วารุณีบอกพี่ชายหลังจากคลายอ้อมแขน เปลี่ยนเป็นพนมมือไหว้เหนือเมฆและว่าที่พี่สะใภ้

“คิดถึงพี่แล้วทำไมไม่กลับเมืองไทยล่ะ กลับบ่อยๆ สิจะได้หายคิดถึง” เหนือเมฆวางมือลงบนศีรษะวารุณีแล้วส่ายช้าๆ ด้วยกิริยาเอ็นดู

“เปลืองเงินพี่เหนือคะ ค่าเครื่องบินแพง เก็บไว้ดีกว่า” หล่อนตอบตามนิสัยคนตระหนี่

“จะเปลืองเท่าไหร่กันเชียว พี่ยินดีจ่ายนะ”

“กลับไปวาก็ไม่ได้ทำอะไร ได้แต่นั่งๆ นอนๆ เดินไปดูคนงานทำงานในไร่ หรือไม่ก็ไปกินข้าวดูหนังกับเพื่อน วาเบื่อค่ะ วาอยู่ที่นี่สนุกกว่า วาหางานพิเศษทำด้วยนะคะ จะได้ประหยัดเงินพี่เหนือ”

“พี่บอกแล้วไงว่าไม่ต้องทำให้เรียนอย่างเดียว น้องสาวคนเดียวพี่เลี้ยงได้”

“วาอยากทำค่ะ ได้ทั้งเงินและแก้เหงาด้วยค่ะ พอเลิกเรียนหรือวันไหนไม่มีเรียน วาก็จะอยู่แต่ในห้อง เสียเวลาเปล่าๆ วาเลยไปหางานทำค่ะ แต่วาไม่ให้เรื่องนี้ทำให้เสียการเรียนแน่นอนค่ะ ปีหน้าก็จะจบแล้ว วาไม่มีวันทำให้พี่เหนือผิดหวังค่ะ”

วารุณีไม่ใช่คนดื้อรั้นขัดคำสั่งคนเป็นพี่ หล่อนคิดว่า เวลาที่นั่งนอนอยู่แต่ในอพาต์เม้นต์เป็นการโยนเวลาทิ้งไปเปล่าๆ สู้เอาเวลาว่างมาทำให้เกิดประโยชน์ ได้เงินและคลายเหงาไปในตัว

“ที่พี่ไม่อยากให้วาทำเพราะเป็นห่วง แค่เรียนต่างบ้านต่างเมืองก็หนักพอแล้ว นี่ต้องทำงานอีก”

“วาไหวค่ะพี่เหนือ ถ้าวันไหนไม่ไหววาก็พัก วาไปฝืนตัวเองค่ะ” วารุณีบอกเสียงแจ๋ว

“งั้นก็ตามใจ แต่ดูแลตัวเองด้วยนะ” พี่ชายยังไม่วายเป็นห่วง

“ค่ะพี่ชายสุดหล่อ วาว่าเราไปกันเถอะคะ นั่งเครื่องมาตั้งหลายชั่วโมงไปนอนพักที่โรงแรมสักงีบท่าจะดี” สองพี่น้องพากันเดินออกไปจากสนามบิน ตรงไปยังโรงแรมที่เหนือเมฆจองไว้

การเดินทางมากรุงโรม ประเทศอิตาลีครั้งนี้ของเหนือเมฆกับช้องนาง มีจุดประสงค์ด้วยกันสองอย่างคือหนึ่งมาร่วมแสดงความยินดีกับราซิเอลโล่และเพชรหอมที่จะเข้าประตูวิวาห์ในอีกสองวันข้างหน้า สองคือมาท่องเที่ยวซ้อมฮันนีมูนล่วงหน้า

คราแรกช้องนางไม่อยากมาเพราะเกรงใจเหนือเมฆ หล่อนคิดว่าอวยพรเพชรหอมผ่านทางโทรศัพท์ก้ได้ แต่ความที่ช้องนางกับเพชรหอมเคยสัญญากันไว้ว่า หากใครแต่งงานคนนั้นก็จะเป็นเพื่อนเจ้าสาว ช้องนางสองจิตสองใจที่จะทำตามสัญญา เป็นเพราะหล่อนอยู่คนละประเทศกับเพชรหอม

และที่ช้องนางเกรงใจเหนือเมฆเนื่องจากค่าใช้จ่ายที่มาครั้งนี้ไม่ใช่น้อยๆ ไหนจะค่าตั๋วเครื่องบินที่เขาจองไว้ระดับเฟิร์สคลาส ค่าโรงแรมที่พัก ค่าอาหารการกินอีก รวมๆ แล้วหลักแสนและอาจถึงหลักล้าน เนื่องจากงานนี้เหนือเมฆเปย์หล่อนไม่อั้น ทว่าเหนือเมฆคะยั้นคะยอให้มา เพราะเขาเต็มใจเสียเงินเพื่อช้องนาง ในเมื่อเขาเต็มใจแล้วหล่อนก็อยากมา การเดินทางข้ามประเทศครั้งแรกของช้องนางจึงเกิดขึ้น

เหนือเมฆ ช้องนางและวารุณีมาถึงโรงแรมในอีกสี่สิบห้านาทีต่อมา และหลังจากเช็คอินเสร็จ ทั้งสามได้พากันขึ้นมายังห้องพักของเหนือเมฆ โดยมีพนักงานของโรงแรมเป็นคนยกกระเป๋าขึ้นมาให้

“พี่เหนือกับพี่กุ้งพักผ่อนนะคะ ทุ่มนึงวาจะมารับไปหาของอร่อยๆ กินค่ะ” วารุณีพูดเสียงแจ๋ว “พี่กุ้งมาเหนื่อยๆ ล้ามาจากการนั่งเครื่องบินนาน อาบน้ำแล้วนอนพักผ่อนนะคะ ค่ำนี้จะได้มีแรงไปท่องราตรีกัน”

“ค่ะน้องวา” วารุณีไม่บอกให้อาบน้ำหล่อนก็ตั้งใจจะยืนอยู่ใต้ฝักบัวนานๆ ให้สายน้ำชะล้างความเหนื่อยล้า จะให้ดีมีหมอนวดสักคนนวดตามเนื้อตามตัว คลายเส้นก็คงดีไม่น้อย

“วาไปก่อนนะคะ เจอกันตอนทุ่มนึงค่ะ” วารุณีโบกมือให้เหนือเมฆและช้องนาง ก่อนเดินออกจากห้องพักสุดหรู

“กุ้งไปอาบน้ำก่อนนะ ท่าทางอิดโรยมากเลย” เหนือเมฆบอกคนรัก

“กุ้งเมื่อยไปทั้งตัวค่ะ ไม่เคยนั่งเครื่องบินนานๆ มันปวดตามเนื้อตามตัวไปหมด”

“งั้นรีบไปอาบน้ำ จะได้นอนพักผ่อน” เหนือเมฆจับกระเป๋าสะพายที่คล้องบ่าหล่อนมาถือไว้ “เรื่องกระเป๋าไม่ต้องห่วง พี่จัดเอง กุ้งไปอาบน้ำเถอะนะ”

“ค่ะ” ช้องนางไม่เกี่ยงงอน หล่อนเดินไปยังห้องน้ำเพื่ออาบน้ำให้ร่างกายสดชื่น ส่วนเหนือเมฆนำเสื้อผ้าออกมาจากกระเป๋า จัดเรียงใส่ตู้เสื้อผ้าอย่างเป็นระเบียบ

เวลาผ่านไปสิบนาที เสียงน้ำในห้องน้ำหยุดลง เหนือเมฆเข้าใจว่าช้องนางคงอาบน้ำเสร็จแล้ว จึงเตรียมเสื้อผ้าให้หล่อนผลัดเปลี่ยน รวมถึงชุดชั้นในสองตัวเขาก็เตรียมไว้ให้หล่อนเช่นกัน

ทว่าความผิดปกติเกิดขึ้น เวลาผ่านไปเกือบห้านาที ช้องนางก็ยังไม่ออกมาจากห้องน้ำเสียที ด้วยความเป็นห่วง เขาจึงเดินไปหยุดยืนหน้าห้องน้ำ แล้วร้องเรียกคนรัก

“กุ้งครับ กุ้ง” เหนือเมฆเรียกช้องนาง ทว่าก็หาได้มีเสียงตอบรับ เขาจึงลองจับลูกบิดประตูดูว่า หล่อนล็อคประตูหรือไม่ เมื่อรู้ว่าช้องนางไม่ได้ล็อคประตู เขาจึงเปิดมันเข้าไป

ภาพที่เหนือเมฆเห็น เปลี่ยนจากความตกใจเป็นสงสาร ช้องนางคงอ่อนเพลียจากการเดินทางมาก ถึงขนาดนั่งหลับอยู่ในห้องอาบน้ำ สายน้ำไม่ด้ช่วยให้ร่างกายหล่อนเกิดอาการกระปรี่กระเปร่าสักนิดเดียว

เหนือเมฆใจสั่น ขาทั้งสองข้างก็สั่นตามไปด้วย เป็นเพราะตอนนี้เนื้อตัวหล่อนล่อนจ้อน และเมื่อเห็นเรือนร่างไร้เสื้อผ้าของหล่อนครั้งใด เขามักควบคุมตัวเองไม่ได้ กอดรัดฟัดเหวี่ยงช้องนางด้วยความกระหายใคร่ ครั้งนี้ก็เช่นกัน อารมณ์ปรารถนาวิ่งเข้าสู่ร่างกาย ทว่าเหนือเมฆต้องข่มความต้องการไว้ ท่องเอาไว้ในใจว่า ช้องนางเหนื่อย ช้องนางต้องการพักผ่อน ก้าวเดินไปอุ้มร่างช้องนางออกมาจากห้องน้ำ นำหล่อนไปนอนบนเตียง จากนั้นก็เดินมาหยิบเสื้อผ้าที่เตรียมไว้ให้หล่อน

‘กูจะอดใจไหวมั้ยเนี่ย’

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: โซ่รักใยพิศวาส