ยศนัยกระโดดกอดราซิเอลโล่ทันทีที่ประตูห้องเปิดออก คนกำลังเจ็บเท้าเซไปหนึ่งก้าว ก่อนจะอุ้มลูกชายขึ้นมาไว้บนแขน หอมแก้มเด็กชายทั้งซ้ายขวาด้วยความคิดถึง ฝ่ายยศนัยก็หอมกลับราซิเอลโล่บนแก้มทั้งสองข้างเช่นกัน
“ลุงคิดถึงฮาร์ทมากเลยครับ” พูดจบ มาเฟียหนุ่มกดจมูกลงบนแก้มยศนัย
“ผมก็คิดถึงคุณลุงฮะ”
ยศนัยบอกตามความรู้สึกที่แท้จริง หอมแก้ราซิเอลโล่กลับหนึ่งฟอด ภมรเห็นว่าเท่าของราซิเอลโล่ยังเจ็บอยู่ จึงบอกให้ภรรยาบอกมาเฟียหนุ่มให้วางยศนัยลง ทว่าคำตอบที่ได้กลับมาคือ
“ไม่เป็นไรครับ ผมอุ้มได้” ราซิเอลโล่หมุนตัวเดินกะเผลกเข้าไปในห้อง ทรุดตัลงนั่งบนโซฟา ให้ลูกชายนั่งบนตักตน
“คุณเอลโล่เป็นยังไงบ้างคะ” ชุติมาถาม
“ก็ยังเจ็บเท้าอยู่ครับ แปลบๆ ตรงข้อเท้าเป็นครั้งคราว” คนเจ็บเท้าบอก
“ฮาร์ทอยากเจอคุณน่ะค่ะ รบเร้าตั้งแต่เมื่อวานแล้ว แต่ฉันเห็นว่าปล่อยให้คุณพักก่อนดีกว่า ถ้าฮาร์ทมาหาคุณ คุณคงไม่ได้พักแน่ ฉันเลยพามาวันนี้ค่ะ” ชุติมาบอกมาเฟียรูปงาม
“ฮาร์ทมาหาผมได้ทุกเวลา ไม่ว่าผมจะเจ็บป่วยหรือใกล้ตาย คุณสองคนก็รู้ว่า ฮาร์ทสำคัญกับผมมาก” ราซิเอลโล่ตอบอย่างไม่ลังเลในความรู้สึก “ผมขอบคุณคุณสองคนมากนะครับที่พาฮาร์ทมาหาผม”
“ค่ะ ยินดีค่ะ” ชุติมาตอบกลับ “ฉันกับพี่นายจะไปธุระแถวนี้สักสองถึงสามชั่วโมง คุณอยู่กับฮาร์ทได้นะคะ”
“ไม่มีปัญหาครับ ตามสบายเลยครับ ดีซะอีกผมจะได้ไม่เหงา”
ราซิเอลโล่เต็มใจเป็นที่สุด อยู่กับยศนัยเขาไม่เคยเบื่อหรือรำคาญ ทั้งที่อุปนิสัยเขาไม่ชอบเด็กสักเท่าไหร่ ทว่าความต่างคือ เด็กที่ว่านี้คือลูกชายของเขา ราซิเอลโล่มีแต่ความรัก ความเอาใจใส่ให้มากกว่า
“งั้นฉันกับพี่นายขอตัวนะคะ จะรีบทำธุระให้เสร็จแล้วจะรีบกลับมารับฮาร์ท”
สองสามีลุกขึ้นยืน ภมรควักมือเรียกยศนัยทีรี่บลงจากตักบิดา เดินมาหาภมรที่กระซิบบอกบางอย่าง ยศนัยเงยหน้าขึ้นยิ้มแล้วพยักหน้า
“คุณลุงฮะ เล่านิทานให้ผมฟังหน่อย”
ยศนัยพูดขณะเอาเป้ที่สะพายอยู่ลงมาวางบนโต๊ะตัวเตี้ย หยิบหนังสือนิทานที่ในนั้นมีทั้งภาษาไทยและอังกฤษส่งให้ราซิเอลโล่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: โซ่รักใยพิศวาส