โซ่รักใยพิศวาส นิยาย บท 37

หนึ่งเดือนต่อมา

ณ กรุงโรม ประเทศอิตาลี

ยศนัยยังคงความตื่นเต้นกับการได้นั่งเครื่องบินลำใหญ่ที่ใหญ่กว่าลำที่ตนนั่งไปภูเก็ต การเดินทางด้วยนกยักษ์ครั้งนี้เป็นการเดินทางยาวนานสิบกว่าชั่วโมง ข้ามน้ำข้ามทะเล ข้ามน่านฟ้าหลายประเทศกว่าจะถึงจุดหมายปลายทาง

หลังจากปรับความเข้าใจกันแล้ว ราซิเอลโล่ตั้งใจพาเพชรหอมกับยศนัยไปอิตาลีพร้อมตน เขาจึงจัดการเรื่องพาสปอร์ตและวีซ่าให้ยศนัย ซึ่งต้องใช้เวลาราวสองสัปดาห์จึงแล้วเสร็จ คราแรกตั้งใจว่าจะกลับอิตาลีทันที ทว่ายศนัยเกิดไม่สบาย เขากับเพชรหอมรอให้ลูกชายหายป่วยก่อนจึงบินลัดฟ้ามาอิตาลี

ไม่เพียงแค่ยศนัยที่ตื่นเต้น ยังมีอีกคนที่ตื่นเต้นยิ่งกว่า บุคคลนั้นคือโซเฟียนา มารดาของราซิเอลโล่ที่นับวันรอคอยดูหน้าหลานชายแบบเผชิญหน้า แทนการดูผ่านมือถือหรือคุยกันผ่านโทรศัพท์แบบวีดีโอคอลหรือที่เรียกกันว่า โทรศัพท์แบบเห็นหน้า

ราซิเอลโล่เคยกังวลเรื่องมารดา เพราะรู้ดีว่า นางไม่ขอบสาวไทยเพราะมีความหลังฝังใจที่ลบเลือนยาก เขาจึงโทรปรึกษานานโอว่าจะจัดการเรื่องนี้อย่างไรดี ซึ่งนานโอรับปากเคลียร์เรื่องนี้ให้ แล้วก็สำเร็จสวยงามแม้ว่าแรกเริ่มโซเฟียนาจะโกรธเมื่อรู้ว่า ราซิเอลโล่จะพาเพชรหอมมาเป็นลูกสะใภ้ของนาง แต่พอนานโอบอกว่า ราซิเอลโล่จะพายศนัยหรือน้องฮาร์ทมาด้วย ทีท่าของโซเฟียนาเปลี่ยนไปทันที

“จริงเหรอ เรื่องทั้งหมดเป็นเรื่องจริงแน่นะนานโอ”

โซเฟียนาถามย้ำน้องสามี เมื่อได้รับรู้เรื่องเพชรหอมกับยศนัย นางแทบไม่เชื่อหูตัวเองว่า ราซิเอลโล่มีลูกอายุหกปี ในความตกใจกลับมีความดีใจเข้ามาปะปน

“จริงสิครับ ผมจะโกหกพี่ทำไม” นานโอตอบ

“แล้วแน่ใจนะว่า เด็กคนนั้นเป็นลูกเอลโล่จริง” นางถามอีกคำถาม

“แน่ใจสิพี่ หน้าตาเหมือนกันอย่างกับแฝด เพื่อความแน่ใจพี่ลองดูภาพของฮาร์ทที่ผมถ่ายไว้ พี่เห็นแล้วจะอึ้ง”

นานโอเพิ่มความแน่ใจให้อีกฝ่ายด้วยการหยิบมือถือออกมาจากกระเป๋ากางเกง กดเลือกดูภาพถ่ายที่เขาถ่ายเก็บไว้ ก่อนยื่นให้โซเฟียนาดู

โซเฟียนามองดูใบหน้าของเด็กชายที่รูปหน้าและเส้นผม แม้กระทั่งรอยยิ้มเหมือนกับราซิเอลโล่ตอนเด็กไม่มีผิด จะพูดได้ว่า แบบพิมพ์เดียวกันก็ว่าได้ โซเฟียนาหัวใจเต้นแรงเมื่อเห็นหน้าหลานชาย หลานที่นางอยากอุ้มเชยชมมานานแล้ว เคยคิดไว้ว่า ชาตินี้คงไม่มีโอกาสเป็นเพราะราซิเอลโล่ไม่ปลงใจกับหญิงสาวคนใดเสียที นางก็ได้แต่เฝ้าหวัง เป็นความหวังที่ห่างไกลความเป็นจริง ทว่าตอนนี้นางไม่ต้องคอยอีกต่อไปแล้ว นางได้อุ้มหลานตามความฝันเสียที

“เหมือนกันจริงๆ ด้วย” โซเฟียนาพูดกับภาพหลานชายที่ฉีกยิ้มกว้าง “บอกเอลโล่ว่า ให้พาหลานมาหาฉันด่วนที่สุด พรุ่งนี้ได้เลยยิ่งดี”

“แต่มีปัญหาอยู่เรื่องนึงนะพี่”

“ปัญหาอะไร”

“ก็ปัญหามันอยู่ที่แม่ของฮาร์ทเป็นคนไทยไง พี่ไม่ชอบผู้หญิงไทย ไม่อยากได้มาเป็นลูกสะใภ้ เอลโล่ก็กลัวว่าพี่จะโกรธ จะโมโหไม่ยอมรับเพ้นท์ เอลโล่ก็ลำบากใจ อีกคนนึงก็เมีย อีกคนนึงก็แม่ ถ้าพี่ไม่ยอมรับเพ้นท์ เอลโล่ก้จะบินไปๆ มาๆ ระหว่างอิตาลีกับไทย ส่วนฮาร์ทคงให้อยู่ที่เมืองไทยเพราะต้องอยู่กับแม่ แล้วพี่ก็จะได้เห็นหน้าหลานหนึ่งปีครั้งนึงหรือไม่ก็นานกว่านั้น คิดถึงก็ได้แค่โทรคุยกัน” นานโอรู้จุดพี่สะใภ้

“มาถึงขนาดนี้แล้ว ฉันก็คงต้องยอม เพราะถ้าไม่ยอมฉันก็ไม่ได้เห็นหน้าหลาน ไม่ได้อุ้มหลานน่ะสิ”

แม้ว่าจะทำใจยาก ทว่านางไม่มีทางเลือก ความปรารถนาสูงสุดของโวเฟียนาตอนนี้คือ อยากได้หลาน ยิ่งพอรู้ว่า ตัวเองมีหลานโตวัยกำลังน่ารัก นางจึงยอมอย่างไม่มีเงื่อนไข

“งั้นผมโทรบอกเอลโล่เลยนะว่า พี่โอเค”

“โทรเลย แล้วกำชับด้วยว่า ให้พาหลานมาหาฉันให้เร็วที่สุด”

“แล้วพี่จะไปไหน” นานโอถามเมื่อเห็นโซเฟียนาลุกขึ้นยืน และหยิบกระเป๋าถือที่วางไว้บนโต๊ะตัวเตี้ยไปด้วย

บทที่ 35 ครอบครัวสุขสันต์ 1 1

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: โซ่รักใยพิศวาส