ป่ะป๊าจ๋า หนูมาแล้ว นิยาย บท 17

เยี่ยจิงเฉินทำงานอย่างเด็ดเดี่ยวแน่วแน่ และไม่ผัดวันประกันพรุ่ง

ครึ่งชั่วโมงผ่านไปด้านหน้าของถังซินเหยและฟางซวี่เจ๋อก็มีสัญญาวางอยู่ตรงหน้าแล้ว

มิตรภาพระหว่างฟางซวี่เจ๋อและเยี่ยจิงเฉินเป็นไปได้ด้วยดี เขาไม่ได้แปลกใจตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ในตรงกันข้ามถังซินเหยากลับทั้งพูดไม่ออกและทั้งรู้สึกประหลาดใจ

พอเห็นว่าสัญญาไม่ได้มีปัญหาอะไร พวกเขาก็เซ็นต์มันทันที

ตัวหนังสือของเยี่ยจิงเฉินดูแข็งแกร่งทรงพลัง ดูออกเลยว่าเขาเป็นคนที่มั่งคงและแน่วแน่คนหนึ่งเลย

การเซ็นต์สัญญาวันนี้ผ่านลุล่วงไปได้ด้วยดี คงจะหลีกเลี่ยงการทานข้าวมื้อเที่ยงวันนี้ด้วยกันไม่ได้แล้วล่ะ

เยี่ยจิงเฉินพาฟางซวี่เจ๋อและถังซินเหยาไปทานอาหารที่......โรงอาหารของบริษัท

คุณป่าปี้เป็นเจ้าพ่อของที่นี่ไม่ใช่หรอ? ต้องกินอาหารจากโรแรมหรูเจ็ดดาวสิ โต๊ะอาหารจะต้องทำด้วยหยกขาวที่มีเนื้อแกะวางเรียงไว้อยู่ จะต้องมีดอกไม้ที่สั่งตรงมาจากเนเธอร์แลนด์ ส่วนผ้าปูโต๊ะจะต้องทำมาจากผ้าไหม อาหารบนโต๊ะต้องหรูหราโออ่าไม่ใช่หรอ ?

ไปทานข้าวที่โรงอาหารบริษัทอย่างนี้ไม่สมกับคนบุคลิกแล้วก็ภาพลักษณ์แบบคนอย่างคุณเลยสักนิดเดียว?

ถ้าเป็นอย่างนี้ ต่อไปคงไม่มีใครคิดจะมาผูกมิตรกับคุณหรอกนะโอเค๊?

ความรู้สึกผิดหวังที่ไม่ได้ไปทานข้าวมื้อใหญ่ ทำให้ถังซินเหยาตัดสินใจทานอาหารเพิ่มอีกจานหนึ่งในตอนเท่ียงนี้ ในเมื่อชนะด้วยคุรภาพอาหารหรูไม่ได้ งั้นก็ขอเติมเต็มหัวใจด้วยปริมาณอาหารแทนแล้วกัน

อืม......เอาจริงๆนะ ถึงแม้โรงอาหารพนักงานของเยี่ยหวงจะไม่โอ่อ่าหรูหราเทียบเท่ากับโรงแรมระดับเจ็ดดาว แต่ก็รสชาติอาหารนี่อร่อยใช้ได้เลย

ในระหว่างที่ทานข้าวพวกเขาก็ยังพูดคุยกันเรื่องรายละเอียดงาน ดังนั้นทั้งสามคนเลยทานข้าวไปด้วยพูดคุยกันไปด้วย

แต่เขานี่สิ ทำอะไรอยู่เนี่ย เลือกกินมันไม่ดีนะ !

"ท่านประธานเยี่ยคะ เลือกทานมันไม่ดีนะคะ แครอทสามารถป้องกันโรคมะเร็งได้ ส่วนกระเทียมก็มีวิตามินซีนะคะ ดีต่อตับ สายตาและการไหลเวียนเลือดนะคะ ทานเข้าไปแล้วมันดีต่อสุขภาพทั้งหมดเลย" ถังซินเหยามองเยี่ยจิงเฉินด้วยใบหน้าที่จริงจัง

เยี่ยจิงเฉินฟังคำของถังซินเหยา ตะเกียบของเขาคีบตับอยู่ชิ้นหนึ่งแล้วเลือกกินต่อไป

ถังซินเหยายกคิ้วขึ้นพร้อมพูดกับเยี่ยจิงเฉินอย่างจริงจังเสียงแข็งว่า "ไม่ฟังกันเลยนะคะ ห้ามเลือกกทานไงคะ ทานเข้าไปให้หมดเลยนะ!"

เยี่ยจิงเฉินตะลึง

ฟางซวี่เจ๋อเองก็ตกใจ

ถังซินเหยาเงยหน้าขึ้นไปมองหน้าเยี่ยจิงเฉิน จู่ๆก็คิดขึ้นมาว่าตัวเองทำอะไรผิดไปหรอ.......

อ่า....... เธอทำผิดจริงๆด้วย

เค่อหลานกับลั่วหลิงลูกของเธอก็เลือกทานเช่นกัน ทั้งสองไม่ชอบกินผัก แครอทและตับ

เธอเป็นคนที่ไม่ชอบการเห็นที่ได้เห็นคนอื่นเลือกกินที่สุดเลย สุดจะทนจริงๆ

เยี่ยจิงเฉินเลิกคิ้วขึ้นด้วยความลำบากใจ ริมฝีปากของเขาเม้มแน่นราวกับว่าพบเจอปัญหาที่หาทางแก้ไม่ได้ยังไงอย่างงั้นเลยทีเดียว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ป่ะป๊าจ๋า หนูมาแล้ว