อาจจะเพราะว่าออร่ารอบๆตัวนั้นดูแข็งแกร่งมาก พวกนักข่าวในสตูดิโอ เงียบลงทันที
แต่วารุณีกลับไม่ปล่อยพวกเขาไปแบบนี้ ปิดประตูของสตูดิโอ พูดอีกว่า:“ถ้าต่อไปใครยังไม่เชื่อฟังคำสั่ง เสียงดัง ก็จะยกเลิกสิทธิ์สัมภาษณ์ แล้วฉันจะให้ยามของตึกขึ้นมา ลากเขาออกไป!”
“ไม่แล้วๆ วางใจเถอะคุณวารุณี พวกเราไม่โวยวายแล้ว”ยังไงนักข่าวกลุ่มนี้ก็คิดไม่ถึงว่า เธอจะแข็งแกร่งแบบนี้ จึงหัวเราะคิกคักออกมาทันที
สีหน้าเย็นชาของวารุณีจึงละลายหายไป ก้าวเท้าเดินไปทางปาจรีย์
ปาจรีย์จับมือของเธอ กระซิบอย่างตื่นเต้น:“วารุณี เมื่อกี๊เธอเท่สุดๆ หล่อจริงๆเลย!”
วารุณีวางกระเป๋าไป ตอบกลับด้วยรอยยิ้มไปว่า:“หมดหนทาง กับนักข่าวหัวโบราณพวกนี้ ต้องแข็งใส่หน่อย อย่างแรกออร่า ก็ต้องกดพวกเขาไว้ ไม่งั้นพวกเขาก็จะมีพฤติกรรมดีไม่ได้”
“พูดก็ถูก จะจำไปใช้!”ปาจรีย์ลูบคางแล้วพยักหน้า
“สื่อที่เชิญมา มาถึงกันหมดยัง?”วารุณีหยิบไมค์ตัวหนึ่งจากด้านข้างมาตรวจสอบข้อบกพร่อง
ปาจรีย์ตอบอือ“ถึงหมดแล้ว กล้องที่ฉันเตรียมไว้ก็วางเข้าที่หมดแล้ว ห้องถ่ายทอดสดของแพลตฟอร์มถ่ายทอดสดสองสามที่ก็เปิดแล้ว ผู้ชมถูกดึงดูดเข้ามาด้วยหัวข้อเรื่องจำนวนมาก”
“ฉันดูสิ”วารุณีหันไปมอง
ปาจรีย์อุ้มโน้ตบุ๊กตัวหนึ่งขึ้นมา วางตรงหน้าเธอ
อย่างไรก็ตามพอวารุณีเข้าเลนส์มา ก็ถูกโจมตีด้วยความเห็นที่เลื่อนบนหน้าจอของผู้คนในห้องถ่ายทอดสดอย่างถล่ม ล้วนแต่เป็นคำด่าที่ฟังดูไม่ดี
ปาจรีย์โกรธมาก แต่วารุณีกลับได้แต่ยิ้ม ไม่สนใจ หลังจากปิดความเห็นที่เลื่อนบนหน้าจอพวกนี้อย่างนิ่งๆ ก็ดูจำนวนผู้ชม
ผู้ชมที่เข้ามาในห้องถ่ายทอดสด รวมกันแล้วมีไม่เกินห้าล้านคนได้ ถือว่าไม่เลวเลย
“โอเค”วารุณีโบกมือ แสดงออกว่าเอาคอมออกไป
ปาจรีย์อุ้มคอมไป นั่งไปตรงด้านข้าง เตรียมควบคุมความคิดเห็นอยู่ตลอดเวลา
วารุณีหยิบไมค์ขึ้นมา หลังจากมองสื่อพวกนั้นที่อยู่ด้านล่างเวทีแล้ว จึงเอาไมค์ไปลองเสียงที่ริมฝีปาก แล้วเริ่มพูดว่า:“สวัสดีตอนเช้าค่ะทุกท่าน ยินดีต้อนรับทุกท่านสู่งานแถลงข่าวของฉันนะคะ ที่ฉันจะพูดวันนี้ ก็เป็นข่าวลือในเน็ตพวกนั้น”
ได้ยินคำนี้ เหล่านักข่าวที่อยู่ด้านล่างเวที ดวงตาก็ดูเหมือนหมาป่า ดุร้ายและน่ากลัว แต่ละคนต่างยื่นไมค์ไปข้างหน้า ความเร็วของกล้องที่ถ่าย ก็เร็วขึ้นมาก
ถ้าเปลี่ยนเป็นคนทั่วไป เผชิญหน้ากับแสงแฟลชจำนวนมากกับสายตาที่คึกคักเร่าร้อนมากมายขนาดนี้ กลัวว่าจะตื่นตระหนกจนพูดไม่ออก แต่วารุณียังคงยืนอยู่ด้านบนอย่างใจกว้าง แม้แต่ตาก็ไม่กะพริบบ่อย ดูนิ่งสงบสุดๆ
นัทธีที่ติดตามถ่ายทอดสดงานแถลงข่าวนี้ เห็นวารุณีแบบนี้ ยกมุมปากขึ้นอย่างเกียจคร้าน สายตามีความชื่นชมอย่างแผ่วบาง
แม้แต่มารุตที่ยืนอยู่ด้านหลังเขา ก็อดไม่ได้ที่จะดันแว่น ชื่นชม:“ประธาน คุณวารุณีนั้นปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ได้ดีจริงๆ”
“สถานการณ์เล็กๆแบบนี้ถ้าทำให้เธอตื่นตระหนกได้ งั้นความสำเร็จในวันข้างหน้าของเธอ ก็จะจำกัดอยู่แค่ตรงนี้”นัทธีปล่อยมือลง ถามเสียงนิ่งๆ“สื่อของพวกเรามาหรือยัง?”
“ทยอยกันมาแล้วครับ กำลังรออยู่ในห้องรับรองครับ”มารุตพยักหน้าแล้วตอบกลับ
นัทธีเงยคางขึ้นเล็กน้อย“โอเค จัดการให้พวกเขาไปห้องประชุมใหญ่ก่อน รอจนฝั่งวารุณีเสร็จสิ้น ฝั่งพวกเราก็เริ่มได้เลย”
“ครับ”มารุตตอบรับไป แล้วก็ออกไปทำตามทันที
นัทธีปรับท่านั่ง ดูถ่ายทอดสดต่อ
ในห้องถ่ายทอดสด วารุณีหยิบรีโมตอันหนึ่งขึ้นมา เปิดหน้าจอใหญ่ด้านหลัง“ทุกท่านคะ สองวันก่อนคุณสุภัทรผู้เป็นประธานของบริษัท ศรีสุขคํา กรุ๊ป ประกาศว่าฉันยั่วยวนประธานบริษัท ไชยรัตน์ กรุ๊ป และพาดพิงว่าฉันทำให้ตระกูลไชยรัตน์กับตระกูลศรีสุขคําทั้งสองตระกูลหยุดการเกี่ยวดอง และเพราะว่าอิจฉาพิชญา จึงแฉพิชญาในการแข่งขัน ในที่นี้ฉันจะทำการชี้แจง ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นเรื่องไม่จริง ล้วนแต่เป็นการใส่ร้าย!”
คำนี้พูดออกไป ทุกคนต่างตกใจ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ
อ่านจบครบทุกตอนแล้วค่ะ สนุกมากค่ะเนื้อเรื่องน่าติดตาม ติดงอมแงมเลย นางเอกฉลาดทันคนดีค่ะ ขอติอย่างเดียวคือ พิมพ์ผิดเยอะมากทำให้เสียอรรถรสใน การอ่าน เป็นกำลังใจให้นักเขียนนะคะ🫶🏻...
แล้วกโอ้เอ คุยยืดยาดอยู่นั่น หนีสิคะ ไปหาตำรวจก่อน แจ้งว่ามีสตอคเกอร์ ขอความคุ้มครองจากตำรวจ รอนัทธีส่งคนไปรับ...
นางเอกโง่มาก มีคนชั่วอยู่ในบ้าน ก็ต้องรีบกำจัดสิ เก็บไว้ให้มันทำร้ายตัวเองกับลูกเหรอ น่าจะรีบบเอาวีดีโอให้สามีดูแล้วแจ้งตำรวจ...