วารุณีตะลึงงัน
นี่มันเรื่องอะไรกัน ?
“หม่ามี๊……”ไอริณรู้สึกกลัวจนต้องไปหลบในอ้อมแขนของวารุณี
วารุณีก้มศีรษะลงแล้วพูดปลอบเธอ “ไม่เป็นไรนะ หม่ามี๊อยู่นี่ ”
“หม่ามี๊ ดูเหมือนเราจะถูกเลือก ต้องร่วมเล่นเกมอะไรเหรอครับ”อารัณชี้ไปที่ชายวัยกลางคนที่กำลังเดินเข้ามา
ชายวัยกลางคนก็ได้ยินเข้าพอดี ยิ้มแล้วอธิบายไปว่า “ใช่ครับ วันนี้เป็นวันครบรอบหนึ่งปีของทางร้านเรา ดังนั้นจึงได้จัดกิจกรรมนี้ขึ้นมาโดยเฉพาะ ขอแค่เข้าร่วม ไม่ว่าจะแพ้หรือชนะก็ล้วนมีรางวัลให้ คุณผู้หญิงสนใจไหมครับ ?”
“รางวัล ?”เมื่อไอริณได้ยินคำนี้ ก็ไม่ได้รู้สึกกลัวอีกต่อไป ผละออกมาจากอ้อมแขนของวารุณี จ้องมองตาแป๋วไปที่ชายวัยกลางคนคนนั้น “คุณปู่ รางวัลคืออะไรคะ?”
คุณปู่ ?
ชายวัยกลางคนมุมปากกระตุก อดไม่ได้ที่จะยกมือขึ้น แตะไปที่ศีรษะที่โล้นๆนั้น ในใจรู้สึกเศร้ารันทด แต่ใบหน้าก็ยังต้องมีรอยยิ้ม“ เป็นตุ๊กตาหมีที่ตัวใหญ่มากๆ ”
“ตุ๊กตาหมี?”ดวงตาไอริณเป็นประกาย จากนั้นก็ดึงไปที่มุมเสื้อของวารุณี“หม่ามี๊ ไอริณอยากได้ตุ๊กตาหมี ”
“มัน……”วารุณีรู้สึกลำบากใจ ไม่รู้จะทำยังไงดี
มุมหนึ่ง เธอก็ไม่อยากให้ลูกสาวต้องผิดหวัง
และในอีกมุมหนึ่ง เธอก็กลัวว่าพ่อแท้ๆของเด็กจะอยู่ที่นี่จริงๆ หากเธอสามคนแม่ลูกไปร่วมเล่นเกม ก็ยิ่งจะเป็นจุดสนใจแล้วเห็นพวกเธอได้ง่ายขึ้น
“หม่ามี๊”จู่ๆอารัณก็เงยหน้าขึ้น “ในเมื่อไอริณอยากได้ เราก็ร่วมเล่นเกมกันเถอะ ผมก็อยากเล่น เราไม่ได้เล่นเกมด้วยกันมานานมากแล้วนะ”
ทั้งลูกชายและลูกสาวต่างก็อยากจะอยู่ต่อ วารุณีเองก็จนปัญญา
คิดไปคิดมา เธอหยิบหมวกสีแดงสองใบออกมาจากกระเป๋าแล้วให้เด็กทั้งสองคนสวมใส่ สวมเสื้อคลุมให้อีกชั้น เพื่อให้พอที่จะอำพรางใบหน้าของพวกเขาได้บ้างไม่มากก็น้อย
แบบนี้ ก็น่าจะไม่โดดเด่นเท่าไรนัก ?
“ก็ได้ พวกเราจะร่วมเล่นเกม แต่หากได้รางวัลแล้วเราก็จะกลับทันทีนะ” วารุณีกล่าว
“หม่ามี๊ใจดีที่สุด!”ไอริณดีใจจนกระโดดโลดเต้น
หลังจากนั้น อารัณก็เดินตามชายวัยกลางคนเพื่อไปจับฉลากร่วมเล่นเกม
ห้องอาหารชั้นสองของร้าน คนผู้หนึ่งที่แต่งตัวสบายๆ หน้าตาน่ารักกำลังยืนอยู่ริมหน้าต่าง มองลงมาด้วยอารมณ์คึกคัก
เมื่อเห็นอารัณ เขาจึงรีบหันกลับไปแล้วมือตบไปที่นั่งบนโซฟา ที่มีชายคนหนึ่งเจิดจรัสรัศมีความสง่างาม “นัทธี นายมาดูสิว่าคนคนนั้นเป็นใคร ? ”
นัทธีค่อยๆหันหน้ามา มองไปยังมือที่อยู่บนไหล่ของเขาด้วยความรังเกียจ “เอามือออกไป !”
พิชิตเบะปาก “ทำไม ? ผู้หญิงแตะเนื้อต้องตัวนายไม่ได้ ตอนนี้แม้แต่ผู้ชายก็แตะไม่ได้แล้วเหรอ ? ”
นัทธีไม่ได้สนใจเขา ถือแท็บเล็ตแล้วดูผลประกอบการทางการเงินของครึ่งปีแรกอยู่
พิชิตมองไปแวบหนึ่ง ก็รู้สึกเวียนหัว จึงรีบละสายตาออก “ไม่เข้าใจจริงๆว่ามันมีอะไรที่น่าสนใจนัก ไม่สู้ดูเด็กคนนั้น คนที่หน้าตาเหมือนนายอย่างกับแกะ ”
“หืม?”หูของนัทธีขยับเล็กน้อย
พิชิตชี้ออกไปยังนอกหน้าต่าง “อยู่นั่น สวมหมวกด้วย ฉันเองก็เกือบจะจำไม่ได้ ยังดีที่ฉันเรียนแพทย์ สายตาแหลมคม”
นัทธีวางแท็บเล็ตลงแล้วเดินไปที่หน้าต่าง มองไปยังทิศทางที่เขาชี้ ในที่สุดก็เห็นเด็กคนนั้น
“เมื่อกี้ฉันไปเจอเขาที่หน้าห้องน้ำ เขากับน้องสาวของเขา น้องสาวของเขาไม่เหมือนนายเท่าไร แต่เขาเหมือนนายย่อส่วนมาเลย ตอนที่ฉันทำการตรวจ ฉันเองก็คิดว่าเขาเป็นลูกของนายจริงๆ และเด็กคนนี้ก็ร้ายพอๆกับนายเลย ยังเหยียบเท้าฉันด้วย”
พูดมาถึงตรงนี้ พิชิตก็มองไปที่นัทธีแวบหนึ่ง ถอนหายใจอย่างน่าเสียดาย “เหมือนมาก ทำไมถึงไม่ใช่เลือดเนื้อเชื้อไขของนายกันนะ”
“หุบปาก!”นัทธีตำหนิด้วยน้ำเสียงเย็นชา
พิชิตยักไหล่ และไม่ได้พูดอะไรต่อ
บางทีอาจจะเป็นเพราะสายตาที่ชัดเจนเกินไปของทั้งสองคน ที่ไม่ได้ปิดบังใดๆ อารัณที่จับฉลากเล่นเกมเสร็จก็รู้สึกได้ว่ามีคนกำลังมองมาที่เขา
เขาเงยหน้าขึ้นโดยไม่รู้ตัว แล้วสบตาเข้ากับดวงตาที่เย็นเยือกของนัทธี
อารัณจำเขาได้
เป็นคุณอาที่เจอกันที่ห้างคนนั้น !
อารัณยิ้มแล้วโบกมือให้กับนัทธี
นัทธีตะลึงงันเล็กน้อย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ
อ่านจบครบทุกตอนแล้วค่ะ สนุกมากค่ะเนื้อเรื่องน่าติดตาม ติดงอมแงมเลย นางเอกฉลาดทันคนดีค่ะ ขอติอย่างเดียวคือ พิมพ์ผิดเยอะมากทำให้เสียอรรถรสใน การอ่าน เป็นกำลังใจให้นักเขียนนะคะ🫶🏻...
แล้วกโอ้เอ คุยยืดยาดอยู่นั่น หนีสิคะ ไปหาตำรวจก่อน แจ้งว่ามีสตอคเกอร์ ขอความคุ้มครองจากตำรวจ รอนัทธีส่งคนไปรับ...
นางเอกโง่มาก มีคนชั่วอยู่ในบ้าน ก็ต้องรีบกำจัดสิ เก็บไว้ให้มันทำร้ายตัวเองกับลูกเหรอ น่าจะรีบบเอาวีดีโอให้สามีดูแล้วแจ้งตำรวจ...