“ผมไม่เคยพูด ตอนนั้นผมเงียบไป”นัทธีขยี้คิ้ว แก้ไขให้เธออย่างถูกต้อง
วารุณีกำฝ่ามือ“เงียบไม่ใช่ว่ายอมรับไปโดยปริยายเหรอคะ?”
“ไม่ ผมแค่ไม่อยากยอมรับเท่านั้นเอง”นัทธีส่ายหน้าเล็กน้อย“ตอนนั้นผมไม่ยอมรับ เพราะว่าทารีนาแอบจับตาดูคุณอยู่ ผมกังวลว่าถ้าผมยอมรับไป เธอจะเล่นงานคุณอย่างบ้าระห่ำ”
รูม่านตาวารุณีสั่นเล็กน้อย“เป็นแบบนี้เหรอคะ?”
“ผมไม่หลอกคุณแน่”นัทธีมองเธออย่างจริงจัง
วารุณีละสายตาลง ในหัวมีคำพูดที่สองสามวันก่อนปาจรีย์เคยพูดกับเธอ
ปาจรีย์บอกว่านัทธีชอบเธอ ดังนั้นจะต้องฟังคำพูดเธอแล้วให้อภัยพงศกร
ในใจเธอไม่เชื่อมาตลอด แต่ตอนนี้นัทธีกลับสารภาพรักเธอ......
เวลานั้น ในใจวารุณีก็ปั่นป่วน ยังไงก็สงบลงไม่ได้ ใจเต้นเร็วจนไม่อาจคืนเป็นจังหวะปกติได้
ผ่านไปสักพัก เธอจึงหายใจลึกๆ พูดออกไปว่า“งั้นคุณนวิยาล่ะ คุณเป็นอะไรกับคุณนวิยากันแน่คะ?”
“เธอถูกรับเป็นลูกสาวบุญธรรม ตอนที่แม่ผมยังมีชีวิตอยู่”นัทธีเงยตาขึ้นมาตอบ
“ลูกสาวบุญธรรม?”วารุณีกะพริบตาอย่างตกใจ“งั้นพวกคุณก็คือ......พี่น้อง?”
นัทธีเงยคางขึ้น“ใช่ ดังนั้นใครบอกคุณเหรอ คนที่ผมรักคือนวิยา?”
สักพักวารุณีจึงกลืนน้ำลายลงแล้วตอบกลับว่า“ไม่มีใครบอกฉันค่ะ แต่ตอนที่ทุกคนพูดถึงคุณนวิยากับคุณ อาการที่แสดงออกมาล้วนแต่มีความหมายที่ลึกซึ้ง ดังนั้นฉันคิดว่าพวกคุณชอบพอกัน......”
“ไม่ใช่เลย”นัทธีขมวดคิ้วตอบไป
ในใจของวารุณีโล่งอก ขณะเดียวกันก็มีความสุขเล็กน้อย
เธอคิดมาตลอดว่าเขากับนวิยาเป็นคู่กันจริงๆ ดังนั้นในใจจึงรู้สึกผิดอย่างมาก กับเรื่องเมื่อคืน คิดว่าตัวเองทำผิดต่อนวิยามาก
แต่ตอนนี้พอรู้ว่านวิยากับเขาไม่ได้มีความสัมพันธ์แบบนั้น ก็สบายใจขึ้นเยอะเลยทันที
มองรอยยิ้มที่ปรากฏบนใบหน้าวารุณี ริมฝีปากบางๆของนัทธีจึงยกขึ้นเป็นมุมเล็กน้อย“ตอนนี้คุณรู้แล้ว คนที่ผมรัก มีแค่คุณคนเดียวใช่ไหม?”
วารุณีปล่อยขอบโต๊ะ อยากกลับไปนั่งลงที่เก้าอี้ตรงหน้า
ไม่คิดว่าพอเธอก้าวไป ร่างก็จะดึงกลับไปที่จุดหนึ่ง เจ็บจนหน้าเล็กๆนั้นเหยเก และขาอ่อน
นัทธีเห็นแบบนี้ ก็ยืนขึ้นเลย อุ้มเธอไปที่โซฟา
หลังจากนั่งลงที่โซฟาแล้ว วารุณีจึงสบายขึ้นเยอะ ก้มหน้าลง พูดเสียงเบา“ขอโทษค่ะประธานนัทธี ฉันยังไม่อาจแต่งงานกับคุณได้ค่ะ จู่ๆคุณก็มาพูดเรื่องพวกนี้กับฉัน ทำให้ฉันไม่ได้เตรียมตัวอะไรเลย ฉัน......”
คำพูดต่อจากนั้น เธอไม่ได้พูด นิ้วมือบิดมุมเสื้ออย่างกระวนกระวาย
เธอก็ไม่รู้ว่าการปฏิเสธติดๆกันแบบนี้ของตัวเอง จะยั่วโมโหเขาหรือเปล่า
ความจริงนั้นได้พิสูจน์แล้วว่า ความกังวลของเธอนั้นมีมากเกินไป
นัทธีไม่โกรธ แต่ยังลูบผมของเธอ“ผมเข้าใจแล้ว ผมเข้าใจคุณนะ จู่ๆผมมาพูดพวกนี้กับคุณ ก็เร็วไปจริงๆ ทำให้ในใจคุณไม่ได้เตรียมตัว คุณวางใจเถอะ รอคุณยอมรับผมแล้วค่อยพูดกันก็ได้”
ตั้งแต่แรกเขาก็รู้แล้วว่า ตัวเองพูดเรื่องแต่งงานไป ยังไม่ได้รับการเห็นด้วยของเธอทันทีแน่
ดังนั้นเขาจึงไม่ว่าอะไรที่จะรอต่อไป รอเธอพร้อม
วารุณีรู้สึกได้ถึงความอ่อนโยนที่มาจากเขา ในใจรู้สึกอบอุ่น ยิ้มออกไป“ขอบคุณค่ะประธานนัทธี”
“ไม่เป็นไร ดูคุณยังไม่ค่อยสบาย ไปนอนต่อเถอะ ทางด้านสตูดิโอของคุณ ผมช่วยคุณลากับปาจรีย์แล้ว”นัทธีชี้กระเป๋าของเธอบนโต๊ะน้ำชาแล้วพูด
วารุณีตกใจ“งั้น......หมายความว่า ปาจรีย์เธอรู้เรื่องระหว่างพวกเราแล้ว?”
“ผมไม่ได้บอกเธอ แต่ว่าเธอน่าจะเดาได้”นัทธีตอบกลับอย่างนิ่งๆ
เป็นผู้ใหญ่กันหมดแล้ว ตอนเช้าเขาใช้โทรศัพท์ของเธอโทรหาปาจรีย์ ปาจรีย์ไม่คิดมากสิแปลก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ
อ่านจบครบทุกตอนแล้วค่ะ สนุกมากค่ะเนื้อเรื่องน่าติดตาม ติดงอมแงมเลย นางเอกฉลาดทันคนดีค่ะ ขอติอย่างเดียวคือ พิมพ์ผิดเยอะมากทำให้เสียอรรถรสใน การอ่าน เป็นกำลังใจให้นักเขียนนะคะ🫶🏻...
แล้วกโอ้เอ คุยยืดยาดอยู่นั่น หนีสิคะ ไปหาตำรวจก่อน แจ้งว่ามีสตอคเกอร์ ขอความคุ้มครองจากตำรวจ รอนัทธีส่งคนไปรับ...
นางเอกโง่มาก มีคนชั่วอยู่ในบ้าน ก็ต้องรีบกำจัดสิ เก็บไว้ให้มันทำร้ายตัวเองกับลูกเหรอ น่าจะรีบบเอาวีดีโอให้สามีดูแล้วแจ้งตำรวจ...