พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ นิยาย บท 26

“ล่วงเกินกันมากไปแล้ว”ในตอนที่วารุณียังคิดไม่ออกว่าเคยได้กลิ่นนี้จากที่ไหน นัทธีก็ยึดไหล่ของเธอเอาไว้ แล้วขัดจังหวะความคิดของเธอ

ด้วยความจนใจ วารุณีจึงหยุดทุกอย่างลง และพักเรื่องนี้ไปก่อน

“เตรียมพร้อม หนึ่ง สอง ไป!”ชายวัยกลางคนยกปืนแข่งขันขึ้น แล้วเหนี่ยวไกยิงขึ้นฟ้า

ปัง!

เสียงปืนที่ชัดเจนดังขึ้น นัทธีก้าวขาที่ถูกมัดอยู่ออกก่อน แล้วพูดเตือนไปว่า“ไปกัน”

“ค่ะ”วารุณีตอบรับไปอย่างรวดเร็ว ตั้งสติแล้วเดินไปพร้อมกับเขา ไม่ทำตัวให้เป็นภาระ

แม้ว่าการเริ่มต้นของคนทั้งสองจะเป็นไปอย่างราบรื่น แต่ก็ยังสู้เด็กทั้งสองคนไม่ได้

เด็กทั้งสองคนที่ความสูงไล่เลี่ยกัน หนำซ้ำยังเติบโตมาด้วยกันอีก มีความเข้าใจกันเป็นอย่างดี ทันทีที่เสียงปืนดังขึ้น พวกเขาก็ไปไกลจนไม่เห็นฝุ่น ทิ้งพวกเขาไว้ข้างหลัง

ไอริณที่กำลังเดินหน้า ก็ยังหันหลังกลับมาตะโกน “ปะป๊าหม่ามี๊ เร็วๆหน่อย!”

“ปะป๊าหม่ามี๊ กำลังจะแพ้แล้วนะ”อารัณก็พูดเสริมไปอีกคำ

วารุณีจะไม่รู้ได้ยังไงว่าเด็กทั้งสองคนกำลังเยาะเย้ยพวกเขาอยู่ ได้แต่หัวเราะไม่ได้ร้องไห้ไม่ออกเท่านั้น

“เราต้องเดินให้เร็วกว่านี้” นัทธีมองไปยังเส้นชัยที่ยังห่างไกลอีกมากนัก จากนั้นก็มองไปยังเด็กทั้งสองที่ก็ไปได้ครึ่งทางแล้ว พูดพร้อมดวงตาที่หรี่เล็กลง

วารุณีเองก็รู้หากยังไม่เร่งให้เร็วกว่านี้ก็ต้องแพ้แน่ๆ สูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วตกลงที่จะเร่งให้เร็วขึ้น

ขาของผู้ใหญ่นั้นย่อมจะยาวกว่าของเด็ก หลังจากที่เร่งความเร็วแล้ว ไม่นานก็ตามมาทัน แล้วแซงหน้าไป

เมื่อเห็นชัยชนะที่อยู่ตรงหน้า ทันใดนั้นสีหน้าของวารุณีก็ชะงักไป

เพราะเธอเห็นฉากกั้นตรงเส้นชัยกำลังสั่นไหวไปมา

ในวินาทีถัดมา นอตตัวหนึ่งก็ตกลงมา ฉากกั้นก็หลุดออกจากกัน แล้วล้มลงมายังที่เธอกับนัทธีอยู่

รูม่านตาของวารุณีหดเกร็ง ไม่ทันได้คิดอะไรมาก เธอผลักนัทธีลงไปที่พื้นทันที แต่เธอเองกลับโดนฉากกั้นนั้นหล่นทับเข้าที่ขา

ภาพนี้ ทำให้ทุกคนที่อยู่ในร้านต่างก็ตกใจ ชายวัยกลางคนที่เป็นคนจัดเกมการแข่งขันนี้ วิญญาณก็แทบหลุดออกจากร่าง แล้วรีบเรียกคนให้มาช่วย

เพียงครู่เดียว รปภ ของทางร้านก็ได้มายกฉากกั้นนั้นออกไป

นัทธีแก้เชือกที่ขาของเขาออก แล้วพยุงวารุณีขึ้นมา มองไปยังข้อเท้าที่เปื้อนเลือดของเธอ ในใจก็เต้นแรง “คุณ……”

“ประธานนัทธี คุณไม่เป็นอะไรใช่ไหม ?”วารุณีเอ่ยถามด้วยใบหน้าที่ซีดเซียว และเหงื่อเย็นที่ไหลท่วมตัว

ริมฝีปากบางของนัทธีขยับ “ผมไม่ได้เป็นอะไร ”

“ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว ”วารุณีรู้สึกโล่งใจ

นัทธีมองไปที่เธอด้วยแววตาที่สับสน “ทำไมคุณต้องช่วยผมด้วย ?”

ภาพเมื่อครู่เขาเองเห็นมันชัดเจน ตอนที่ฉากกั้นนั้นล้มลงมา เธอเข้ามาช่วยเขาทันที โดยไม่ลังเลมันเลยสักนิด

เธอดูราวกับจะกลัวเขาได้รับบาดเจ็บ

“การช่วยชีวิตคนมันเป็นเรื่องปกติ”วารุณียกยิ้ม แล้วตอบกลับอย่างอ่อนแรง

เขามาเพื่อช่วยเล่นเกม หากเขายังได้รับบาดเจ็บอีก มันก็ยิ่งจะทำให้เธอลำบากใจมากขึ้นไปอีก

“หม่ามี๊ ไม่เป็นอะไรใช่ไหม ? ”อารัณพาไอริณวิ่งเข้ามา ถามด้วยความเป็นห่วง

ไอริณถึงกับร้องไห้ออกมา “หม่ามี๊มีเลือดไหลด้วยฮื่อๆฮื่อๆ ……”

เมื่อเห็นเด็กทั้งสองเป็นกังวลเพราะเรื่องของตัวเอง วารุณีก็รู้สึกอบอุ่นในหัวใจ อดกลั้นกับความเจ็บปวดแล้วพูดปลอบไปว่า “ไม่เป็นอะไรแล้ว ทั้งสองคนไม่ต้องเป็นห่วง หม่ามี๊ไม่ได้เป็นอะไร”

“จะไม่เป็นอะไรได้ยังไง ผิวหนังถลอกอย่างนี้ ” อารัณกำหมัดเล็กๆนั้นแน่น แล้วจ้องมองไปที่นัทธี “เพราะคุณ หากไม่ใช่เพราะช่วยคุณ หม่ามี๊ก็คงไม่ได้รับบาดเจ็บ”

“อารัณ!”วารุณีขมวดคิ้วแล้วพูดตำหนิไปว่า“ลูกพูดแบบนี้กับคุณอาได้ยังไง หม่ามี๊เต็มใจช่วยคุณอาเอง ไม่เกี่ยวอะไรกับคุณอาเลย”

“แต่ว่า……”อารัณดวงตาแดงก่ำ ยังอยากจะพูดต่อ

นัทธีก้มหน้ามองไปที่เขา “หนูพูดถูก หม่ามี๊ของหนูได้รับบาดเจ็บเพราะช่วยฉัน เรื่องนี้ ฉันจะรับผิดชอบให้ถึงที่สุด”

อารัณเงยหน้าขึ้น แล้วสบตาเขาไปหลายวินาที แค่นเสียงฮึในลำคอ แล้วหันหน้าไปอีกทาง ถือว่ายอมรับคำพูดที่เขาพูดแล้ว

นัทธีเลิกคิ้วขึ้น ด้วยความประหลาดใจ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ