เธออยากจะหยุดการพบเจอกันของวารุณีกับนัทธี
คิดไม่ถึงว่าตอนที่เธอไม่รู้ พวกเขาไม่เพียงแค่เคยเจอกัน แต่ยังมีท่าทีที่สนิทสนมกันเป็นอย่างมากด้วย!
มันทำให้เธอยากที่จะรับได้จริงๆ !
“มันเป็นความเข้าใจผิดจริงๆ นะ เรื่องมันเป็นแบบนี้……” วารุณีมองพิชญาที่ดวงตาค่อยๆ แดงขึ้นเรื่อยๆ ก่อนจะพูดเรื่องเมื่อคืนออกมาทั้งหมด
แต่พิชญานั้นไม่เชื่อ เล็บก็แทบจะจิกลงไปในฝ่ามือแล้ว “พอแล้ว!มาหาพ่อเพื่อเล่นเกมอะไร มันเป็นข้ออ้างทั้งหมดนั่นแหละ!ร้านอาหารที่ใหญ่ขนาดนั้น ทำไมไม่หาผู้ชายคนอื่น แต่ต้องมาหาคู่หมั้นของฉัน วารุณี คุณกล้าบอกไหมว่าคุณไม่ได้คิดอะไร?”
เมื่อเป็นแบบนั้น จู่ๆ วารุณีก็หัวเราะขึ้นมา
เสียงหัวเราะนี้ ทำให้พิชญาไม่สบายใจ เสียงนั้นแหลมมากขึ้นเรื่อยๆ “คุณหัวเราะอะไร?”
“ฉันหัวเราะจินตนาการที่มากมายของคุณไงล่ะ พูดอย่างมีเหตุผลมากเลยล่ะ แต่ฉันก็ยังพูดแบบนั้นเหมือนเดิม ว่าทั้งหมดมันเป็นความเข้าใจผิด ถ้าคุณไม่เชื่อฉัน คุณก็ไปถามประธานนัทธีได้ ดูสิว่าฉันโกหกหรือเปล่า แล้วได้คิดอะไรหรือเปล่า”
พูดไป วารุณีก็ทำท่าผายมือเพื่อเชิญ
เธอมีท่าทีที่มั่นอกมั่นใจขนาดนี้ กลับทำให้คนในห้องทำงานบางคนเลือกที่จะเชื่อ
ถึงพิชญาจะโกรธ แต่ก็ไม่ใช่ว่าไม่มีสติเลย เมื่อมองสายตาที่ไม่เกรงกลัวของวารุณี เธอก็รู้ว่าระหว่างวารุณีกับนัทธีนั้นไม่มีอะไร
แต่เธอก็ไม่ยินยอมอยู่ดี
ทำไมวารุณีต้องมาเจอนัทธีในเวลาที่สำคัญตลอดเลย ไม่ว่าเธอจะพยายามไม่ให้พวกเขาเจอกันเท่าไหร่ สุดท้ายพวกเขาก็หาวิธีมาเจอกันได้อยู่ดี
หรือว่าพระเจ้าอยากให้พวกเขาได้คบกันนะ?
คิดมาถึงตรงนี้ ในใจของพิชญานั้นอิจฉาเป็นอย่างมาก
ในตอนนี้เอง เพื่อนร่วมงานชายก่อนหน้านี้พูดเสียงดังขึ้นมา “ผู้จัดการพิชญา ประธานนัทธีประกาศคำอธิบายเรื่องนี้ออกมาแล้ว!”
“อะไรนะ?” พิชญาอึ้งไป จากนั้นก็เธอก็ไม่มีเวลาไปหาเรื่องวารุณีอีก เลยรีบเดินตรงเข้าไป
วารุณีเองก็ตามไปด้วย
เธอเองก็อยากรู้ ว่านัทธีจะชี้แจงเรื่องนี้อย่างไร
เมื่อมาอยู่ตรงหน้าคอมพิวเตอร์ของเพื่อนร่วมงานชาย วารุณีก็มองไปทางที่เขาชี้ ก็เห็นว่าของนัทธีที่ไม่มีการโพสต์ใดๆเลย ในที่สุดก็อัปเดตแล้ว:ไม่ใช่ลูกนอกสมรส ลูกน้องบาดเจ็บ ส่งลูกน้องกลับบ้าน!
ภายใต้คำพูดนี้ ยังมีคลิปจากกล้องวงจรปิดอีกสองคลิป
คลิปแรกนั้น เห็นว่าไฟในร้านอาหารนั้นมันมืดลง จนถึงอารัณดึงนัทธีปรากฏออกมา
ส่วนคลิปที่สอง ก็เห็นว่าฉากมันล้มลงมา แล้ววารุณีก็ช่วยไม่ให้นัทธีบาดเจ็บ
ทั้งสองคลิปนี้ บวกกับคำพูดของนัทธีนั้น ก็พอจะมั่นใจได้ว่าทั้งหมดนี้เป็นความเข้าใจผิดจริงๆ
วารุณีไม่ใช่มือที่สามอย่างในข่าว ส่วนเด็กทั้งสองคนก็ไม่ใช่ลูกนอกสมรสที่เป็นข่าวอยู่เช่นเดียวกัน
“เป็นอย่างไรบ้าง?ผู้จัดการพิชญา ตอนนี้คุณพูดอะไรไม่ออกแล้วใช่ไหมล่ะ?” วารุณียิ้ม
พิชญามีสีหน้าแดงพลางซีด ดูไม่ได้เลยทีเดียว
ถึงเธอจะรู้ถึงความเข้าใจผิดนี้แล้วก็ตาม
แต่ตอนแรกเธอจะผลักความเข้าใจผิดนี้ให้เต็มที่ แถมยังจะใช้ความเข้าใจผิดนี้มากดวารุณี แล้วก็จะไม่มีใครมาว่าเธอ
แต่คิดไม่ถึงว่านัทธีจะทำให้เรื่องนี้มันบริสุทธิ์ได้ แผนที่อยากจะใส่ร้ายวารุณีก็ถูกทิ้งไป มันทำให้เธอโมโหจริงๆ เลย!
“ฉันไม่มีอะไรจะพูดแล้ว แต่คุณกับคู่หมั้นของฉันก็เกิดมีข่าวฉาวขึ้นมา ฉันเป็นคู่หมั้นอย่างถูกต้อง คงจะปล่อยไปง่ายๆ ไม่ได้ คุณรอฉันก่อนเถอะ!”
พิชญามองวารุณีด้วยแววตาเย็นชา พลางใส่รองเท้าส้นสูง ก่อนจะเดินจากไปด้วยสีหน้าหนักใจ
วารุณีสบายใจขึ้นเล็กน้อย แต่ก็มีความลำบากใจอยู่บ้าง
วันเวลาต่อจากนี้ พิชญาคงจะพยายามจับจ้องเธอมากกว่าเดิม
แต่ก็ไม่เป็นไร ถึงอย่างไรก็รับมือได้ทุกสถานการณ์อยู่แล้ว เธอไม่เชื่อว่าตัวเองจะผ่านเรื่องนี้ไปไม่ได้
หลังจากที่พิชญาไปแล้ว เหล่าเพื่อนร่วมงานก็เริ่มพูดขึ้นพลางเข้ามาล้อมรอบวารุณี
“วารุณี คุณเก่งมากจริงๆ แผ่นฉากหนักขนาดนั้น แต่คุณยังกระโจนเข้าไปแบบนั้น ถ้าเป็นฉัน ถึงจะช่วยประธานนัทธีแล้วเขาจะตกรางวัลให้มากแค่ไหน ฉันเองก็ทำไม่ได้แน่นอน”
“ไม่เลวเลย นับถือความกล้าหาญของคุณจริงๆ เลย คุณช่วยประธานนัทธี ประธานนัทธีก็ควรไปส่งคุณกลับบ้าน ต้องโทษพวกนักข่าวบันเทิงที่สร้างข่าวเพื่อเน้นการดึงดูดความน่าสนใจเท่านั้น ว่าแต่วารุณี เด็กสองคนนั้นเป็นลูกคุณหรือเปล่า?”
“เป็นลูกของฉันเอง” วารุณีพยักหน้า
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ
อ่านจบครบทุกตอนแล้วค่ะ สนุกมากค่ะเนื้อเรื่องน่าติดตาม ติดงอมแงมเลย นางเอกฉลาดทันคนดีค่ะ ขอติอย่างเดียวคือ พิมพ์ผิดเยอะมากทำให้เสียอรรถรสใน การอ่าน เป็นกำลังใจให้นักเขียนนะคะ🫶🏻...
แล้วกโอ้เอ คุยยืดยาดอยู่นั่น หนีสิคะ ไปหาตำรวจก่อน แจ้งว่ามีสตอคเกอร์ ขอความคุ้มครองจากตำรวจ รอนัทธีส่งคนไปรับ...
นางเอกโง่มาก มีคนชั่วอยู่ในบ้าน ก็ต้องรีบกำจัดสิ เก็บไว้ให้มันทำร้ายตัวเองกับลูกเหรอ น่าจะรีบบเอาวีดีโอให้สามีดูแล้วแจ้งตำรวจ...