คุณพ่อประสิทธิ์และคุณแม่ปารวีต่างก็รู้ดีว่าลูกสาวของพวกเขาให้ความสำคัญกับเด็กในท้องมากเพียงใด เรียกได้ว่าเปรียบดั่งชีวิตของเธอ
ในตอนแรก ปาจรีย์จะฆ่าตัวตายเพื่อระงับบุญคุณความแค้นระหว่างพงศกรกับตระกูลจิรดำรงค์
แต่หลังจากที่รู้ว่าตนเองท้อง จึงเลิกคิดที่จะฆ่าตัวตาย พูดได้ว่า ปาจรีย์มีชีวิตอยู่ต่อไปได้ก็เพราะเด็กในท้อง
แม้กระทั่ง เธอยอมที่จะย้ายรกราก แต่ไม่ยอมให้พงศกรเอาเด็กออก แม้ว่าจะสะกดจิตตัวเองให้ลืมพงศกร ลืมความรู้สึกที่มีต่อพ่อของเด็กคนนี้ แต่เธอก็ยังต้องเก็บเด็กไว้
ดังนั้น สำหรับปาจรีย์แล้ว เด็กคนนี้คือชีวิตของเธอ
แต่ทว่าตอนนี้ เธอกลับเต็มใจที่จะสละเด็กคนนี้เพื่อพ่อแม่ของเธอ เช่นนี้จะไม่ทำให้พวกเขาในฐานะพ่อแม่สะเทือนใจได้อย่างไร
"ปาจรีย์ลูก... " คุณแม่ปารวีกอดลูกสาวอย่างทุกข์ใจ "ลูกไม่ต้องกังวลนะ พ่อจะต้องไม่เป็นอะไร แม่จะไม่ยอมให้ลูกเสียสละตัวเองหรอกจ้ะ"
“แม่ของลูกพูดถูก” คุณพ่อประสิทธิ์ถอนหายใจด้วยสีหน้าจมดิ่ง “พ่อจะไม่ปล่อยให้ลูกต้องเสียสละตัวเองหรอก มีเรื่องอะไร พวกเราในฐานะพ่อแม่จะรับผิดชอบเอง และจะไม่ปล่อยให้ลูกมารับผิดชอบแทนพ่อกับแม่หรอก เพราะงั้นปาจรีย์ ลูกอย่าคิดแบบนั้น เข้าใจไหมลูก?”
ปาจรีย์หลับตาลง ไม่ได้กล่าวอะไร
คุณพ่อประสิทธิ์เห็นเธอเป็นเช่นนี้ ก็รู้ว่าเธอไม่ได้ฟังที่เขาพูดเลยแม้แต่น้อย ภายในใจอับจนหนทาง
ทว่าเขาเข้าใจว่าเหตุใดลูกสาวถึงไม่ฟัง ถึงอย่างไรหากยืนอยู่ในจุดของเธอ เธอก็มีเพียงทางเลือกนี้เท่านั้น
เธอทำไม่ได้ จะให้ละทิ้งเขาในฐานะพ่อเพื่อเก็บเด็กไว้น่ะหรือ?
เขารู้ว่าลูกสาวของเขาจะไม่ทำเช่นนั้น เธอเป็นคนกตัญญูรู้คุณ หากเธอจะละทิ้งเขาที่เป็นพ่อเพราะเลือกลูกจริง ๆ เธอคงจะเกลียดตัวเองที่เป็นแบบนั้น
ดังนั้นสิ่งที่ปาจรีย์จะทำ คือการเสียสละลูกของตัวเองและเลือกคุณพ่อของเธอ
มิฉะนั้น ปาจรีย์จะถูกคนชี้หน้าด่ากราด
แน่นอนว่าทางที่เลือกของเธอจะทำให้เธอต้องสูญเสียลูกไป และสิ่งที่ปาจรีย์ทำได้คือแบกรับความเจ็บปวดของตัวเธอเอง
ดังนั้นเขาจึงไม่ต้องการให้ลูกสาวเผชิญกับทางเลือกนั้น ยิ่งไม่ต้องการให้ลูกสาวเสียสละลูกของเธอเพื่อช่วยเขา
อายุอานามเขาก็มากแล้ว ชีวิตเขาก็เป็นเช่นนี้ ดังนั้นไม่ว่าจะตายหรือเข้าคุก เขาก็ไม่กลัว
สรุปได้ว่า เขาจะไม่ยอมให้ครอบครัวเสียสละสิ่งใดเพื่อช่วยตัวเอง
อย่างมากก็แค่ เขากับพงศกรก็พินาศไปพร้อมกัน และเมื่อเขาตาย เขาก็จะลากพงศกรไปด้วย ทีนี้ ตระกูลจิรดำรงก็นับว่าสงบสุขอย่างแท้จริง
คุณพ่อประสิทธิ์คิดด้วยสีหน้าเศร้าสร้อย
หลังจากนั้น ทุกคนก็ไม่พูดอะไรอีก และนั่งเงียบ ๆ บนเก้าอี้เพื่อรอให้พงศกรฟื้น
อย่างไรก็ตาม รอจนกระทั่งฟ้ามืดพงศกรก็ไม่มีทีท่าว่าจะฟื้น ตามที่แพทย์กล่าวว่า สมองได้รับการกระทบกระเทือนเล็กน้อย และอาจต้องใช้เวลาสองวันกว่าจะฟื้น
ไม่มีวิธีแล้ว คุณพ่อประสิทธิ์จึงให้พยาบาลมาดูแล แล้วทุกคนก็กลับบ้านไป
หลังจากกลับมา คุณพ่อประสิทธิ์ก็ติดต่อหาวารุณี โดยหวังให้วารุณีส่งคนมารับคุณแม่ปารวีกับปาจรีย์ไป
เขาที่จะอยู่ที่นี่ต่อ และเขาไม่ต้องการให้ภรรยาและลูกสาวต้องทนทุกข์ทรมาน
อย่างไรก็ตาม เขาพูดยังไม่ทันจบ คุณแม่ปารวีก็แย่งโทรศัพท์มือถือไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ
อ่านจบครบทุกตอนแล้วค่ะ สนุกมากค่ะเนื้อเรื่องน่าติดตาม ติดงอมแงมเลย นางเอกฉลาดทันคนดีค่ะ ขอติอย่างเดียวคือ พิมพ์ผิดเยอะมากทำให้เสียอรรถรสใน การอ่าน เป็นกำลังใจให้นักเขียนนะคะ🫶🏻...
แล้วกโอ้เอ คุยยืดยาดอยู่นั่น หนีสิคะ ไปหาตำรวจก่อน แจ้งว่ามีสตอคเกอร์ ขอความคุ้มครองจากตำรวจ รอนัทธีส่งคนไปรับ...
นางเอกโง่มาก มีคนชั่วอยู่ในบ้าน ก็ต้องรีบกำจัดสิ เก็บไว้ให้มันทำร้ายตัวเองกับลูกเหรอ น่าจะรีบบเอาวีดีโอให้สามีดูแล้วแจ้งตำรวจ...