พงศกรหันหน้า ไม่สนใจคุณพ่อประสิทธิ์
คุณพ่อประสิทธิ์คนนี้เขารู้จักเป็นอย่างดี ตอนที่สนิทสนมกันนั้น ช่างบ่นมาก
ตอนที่อคติกับคนอื่น ก็ขี้บ่นมากเช่นกัน มันจะหาคำพูดไปวิจารณ์คนอื่นได้เสมอ
แต่ตัวเขานั้นไม่ใช่คนประเภทพูดมาก และก็ไม่มีความสามารถคารมคมคาย ผลลัพธ์จากการต่อล้อกับคุณพ่อประสิทธิ์ก็มีแค่หนึ่งคน ที่ถูกทำให้หงุดหงิด
ดังนั้นถ้าหากตัวเองสนใจคุณพ่อประสิทธิ์ ก็มีแต่จะเสริมศักดิ์ศรีของคุณพ่อประสิทธิ์ ทำให้คุณพ่อประสิทธิ์ตำหนิพึมพำไปไม่มีประโยชน์ สู้พูดอะไรเลยดีกว่า
“ไม่พูดอะไร เดี๋ยวคุณพ่อประสิทธิ์ก็หยุด
อย่างที่คิด เมื่อคุณพ่อประสิทธิ์เห็นว่าพงศกรไม่สนใจเขา ในใจก็ตระหนก แต่ท้ายที่สุดก็ไม่พูดอะไร แล้วปิดปากเงียบ
ด้านตรงข้าม ปาจรีย์ออกแรงหักบิดส่วนบนของขวดอย่างแรง
แต่หลอดแก้วราวกับหิน หักยังไงก็ไม่ออก จนหน้าแดงขึ้นมา
คุณพ่อประสิทธิ์ทนดูไม่ได้อีกต่อไป ขณะที่กำลังบอกว่าเปิดเอง พงศกรถอนหายใจอีกครั้ง พร้อมกับเสียงที่อ่อนลงเล็กน้อย “ซ้ายมือเธอมีกรรไกรตัดผ้าก๊อซอยู่ เธอใช้ด้ามมีดกรรไกรขีดสักสองสามครั้ง ให้มันเป็นรอยแล้วค่อยหัก เดี๋ยวก็จะหักออก”
เมื่อได้ยินเขาพูดแบบนี้ ดวงตาของปาจรีย์ก็เป็นประกาย หลังจากนั้นจึงตบไปที่หน้าผาก “ใช่สินะ ทำไมฉันถึงคิดไม่ออกนะ ขอบคุณนะคะคุณพงศกร ขอบคุณที่เตือนฉัน”
พูดจบ เธอก็หยิบกรรไกรขึ้นมาเปิด หลังจากนั้นก็ทำตามที่เขาบอก ภายใต้การขีดไปสองสามครั้งเพื่อให้ขวดเป็นรอย
กรรไกรนั้นคมมาก ไม่นานขวดหลอดแก้วก็ถูกขีดจนเป็นรอย
ปาจรีย์วางลงอย่างง่ายๆ แล้วออกแรงหักอีกครั้ง ครั้งนี้ ในที่สุดขวดแก้วก็ถูกเธอหักออก
เธอชูจุดหลอดแก้วที่หักออก ให้พงศกรดูแล้วยิ้ม “คุณพงศกรดูสิคะ ฉันหักออกแล้ว”
พงศกรมองรอยยิ้มที่ใสสะอาดของเธอ นัยน์ตามืดดำ ตั้งใจแสร้งทำเสียงพ่นลมอย่างเย็นชา
คุณพ่อประสิทธิ์พ่นลมอย่างเย็น “ปาจรีย์ ลูกอวดอะไรเขา ลูกดูสิเขาสนใจลูกไหม?”
ปาจรีย์ยิ้ม “เอาล่ะค่ะพ่อ ฉันไม่ได้อวด ฉันแค่อยากให้เขาดู ว่าฉันทำตามที่เขาบอกได้แล้ว”
“แล้วมีอะไร วิธีเปิดของนี่มีเยอะแยะ ต่อให้วิธีเขาเปิดไม่ออก ลูกก็ยังมีวิธีอื่นมาใช้เปิด เพราะฉะนั้นมีอะไรดีให้เขาดู” คุณพ่อประสิทธิ์เหลือบไปมองพงศกรอย่างเย็นชาแล้วพูด
ปาจรีย์ยิ้มแล้วพูด “เอาล่ะค่ะพ่อ เลิกพูดเรื่องนี้ได้แล้ว ยื่นมือมาค่ะ ฉันจะฆ่าเชื้อให้”
คุณพ่อประสิทธิ์เชื่อฟังที่เธอพูด ยื่นมือออกมา วางบนโต๊ะเล็กๆ
ปาจรีย์หยิบก้านสำลีขึ้นมา หลังจากที่จุ่มลงไปบนเบตาดีน ก็เริ่มทำการฆ่าเชื้อบนมือให้เขา
พงศกรเฝ้าดูการเคลื่อนไหวของเธอ ถ้าหากว่าเธอทำผิด เขาจะได้เตือนได้ทัน ให้เธอแก้ไข
แต่การฆ่าเชื้อไม่ใช่เรื่องที่ซับซ้อนมากอะไร เพียงเช็ดปากแผลแค่หนึ่งรอบก็พอแล้ว
ดังนั้นทุกขั้นตอน ปาจรีย์ทำได้อย่างดี โดยที่พงศกรไม่ได้พูดเลยสักประโยค
ฆ่าเชื้อเสร็จ ปาจรีย์ก็ทิ้งก้านสำลีบนมือ หลังจากนั้นก็มองไปที่พงศกร “คือ......คุณพงศกรคะ ที่คุณพูดเมื่อกี้ หลังฆ่าเชื้อเสร็จ ก็พ่นอะไรนะสเปรย์ใช่ไหมคะ?”
“ขวดขวามือเธอ” พงศกรชี้แล้วพูด
ปาจรีย์หยิบขวดขึ้นมาพ่น “ขอบคุณค่ะ”
หลังจากที่เธอขอบคุณ หลังจากนั้นก็เปิดฝาสเปรย์
ทันใดนั้นพงศกรก็พูดขึ้นอีกครั้ง “ก่อนพ่นเขย่าสองครั้ง ไม่อย่างนั้นพ่นออกมาตอนแรก จะมีแต่อากาศ”
“ค่ะ ขอบคุณที่เตือน” ปาจรีย์พยักหน้าตอบรับ หลังจากนั้นก็หยิบขวดสเปรย์ขึ้นมาเขย่า
หลังจากเขย่าไปสองครั้ง เธอจึงกดลงบนปุ่มพ่นสเปรย์
ไม่ช้า ผงเปียกสีขาว ก็พ่นออกมาจากปากพ่นสเปรย์ และตกลงบนตำแหน่งผิวที่แตกของคุณพ่อประสิทธิ์ได้อย่างดี
พงศกรอธิบาย “นี่คือผงห้ามเลือด สามารถช่วยจับตัวเซลล์เม็ดเลือดแดง ทำให้ตกสะเก็ดแผลได้อย่างมีประสิทธิภาพ”
“เข้าใจแล้วค่ะ” ปาจรีย์ดูชื่อบนขวดสเปรย์บนมือ
บนนั้นไม่ใช่ภาษาอังกฤษ แต่เป็นภาษาของอีกประเทศหนึ่ง เธอไม่รู้จัก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ
อ่านจบครบทุกตอนแล้วค่ะ สนุกมากค่ะเนื้อเรื่องน่าติดตาม ติดงอมแงมเลย นางเอกฉลาดทันคนดีค่ะ ขอติอย่างเดียวคือ พิมพ์ผิดเยอะมากทำให้เสียอรรถรสใน การอ่าน เป็นกำลังใจให้นักเขียนนะคะ🫶🏻...
แล้วกโอ้เอ คุยยืดยาดอยู่นั่น หนีสิคะ ไปหาตำรวจก่อน แจ้งว่ามีสตอคเกอร์ ขอความคุ้มครองจากตำรวจ รอนัทธีส่งคนไปรับ...
นางเอกโง่มาก มีคนชั่วอยู่ในบ้าน ก็ต้องรีบกำจัดสิ เก็บไว้ให้มันทำร้ายตัวเองกับลูกเหรอ น่าจะรีบบเอาวีดีโอให้สามีดูแล้วแจ้งตำรวจ...