ปาจรีย์หัวเราะอย่างขมขื่น “กลัวค่ะ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ คุณก็เดาได้แล้วว่าฉันจะโทรหาวารุณีพูดอะไร ดังนั้นหากฉันไม่ตอบ คุณก็สามารถกลับคำได้เช่นเดียวกันไม่ใช่เหรอคะ การที่ฉันพูดออกมา คุณอาจเห็นแก่การที่ฉันพูดความจริง ไม่ถือสาก็ได้”
“คุณนี่มันคิดได้เนอะ”พงศกรฮึออกมาทีหนึ่ง
ปาจรีย์ดูไม่ออกว่าเขากำลังประชดประชันเธอหรือเป็นยังไงกันแน่ กัดริมฝีปากแล้วพูด “คุณพงศกร ฉันสามารถโทรได้ไหมคะ”
“คุณโทรเถอะ”พงศกรหันหน้าไปด้านข้าง “แม้ผมจะไม่ให้คุณโทร คุณก็จะหาโอกาสโทรได้อยู่ดีไม่ใช่หรือไง”
ปาจรีย์เงียบไปอีกครั้ง
พงศกรโบกมือ “คุณออกไปเถอะ ผมเวียนหัวนิดหน่อย”
“เวียนหัวเหรอคะ” เมื่อได้ยินเขาพูดเช่นนี้ ปาจรีย์ก็รู้สึกประหม่าขึ้นมาทันที จึงรีบถามอย่างเป็นห่วง “คุณไม่เป็นไรใช่ไหมคะ เวียนมากไหมคะ เป็นเพราะกระทบกระเทือนทางสมองใช่ไหมคะ ฉันจะเรียกคุณหมอมาดูคุณนะคะ”
ในขณะที่พูด ก็จะกดกริ่งเรียก
พงศกรจับแขนเธอไว้ “ไม่ต้อง ไม่มีอะไร นอนพักแป๊บเดียวก็หาย”
ปาจรีย์คิดไม่ถึงว่าจู่ๆเขาจะจับแขนเธอไว้ จนทั้งร่างนิ่งอึ้งไป ชั่วขณะหนึ่ง ก้มหน้ามองดูแขนของตัวเองที่เขาจับไว้ โดยไม่เงียบไม่พูดอะไรไปครู่หนึ่ง
พงศกรราวรับรู้ได้ว่าพฤติกรรมของตัวเองไม่เหมาะสม จึงค่อยๆปล่อยมือออก แล้วเอากลับเข้าไปในผ้าห่ม โดยอดถูมือเบาๆไม่ได้ ราวกับผิวบนท้อง ยังหลงเหลืออุณหภูมิแขนของเธออยู่
พงศกรเลื่อนเปลือกตาลง ปิดบังแววตาไว้ เสียงก็แหบเล็กน้อย “คุณออกไปเถอะ”
“ได้ค่ะ......” ปาจรีย์ปล่อยแขนตัวเองลง ก้มหน้า ตอบด้วยเสียงเบาราวกับยุง
เมื่อกี้ เธอเป็นอะไรไป
ใจเต้นทำไมจู่ๆเต้นเร็วขนาดนั้น
ตอนที่เขาวางมือไว้บนแขนเธอ ใจก็เต้นผิดจังหวะไปทันที แถมเปลี่ยนเป็นเต้นอย่างรวดเร็วด้วย
หรือว่า สาเหตุเกิดจากเมื่อก่อนที่เธอยังรักเขา ดังนั้นเพียงแค่เขาสัมผัสเธอ สภาพจิตใจเธอก็จะเปลี่ยนรึเปล่า
หากเป็นเช่นนี้ ดูเหมือนต่อไปตัวเองต้องระวัง ไม่ควรให้เขาถึงเนื้อถึงตัวอีก ไม่งั้นสภาพจิตใจเธอ อาจเป็นเช่นนี้อีกแน่
นอกจากนี้ เธอกลัวว่าถ้าสัมผัสกันนานไป ผลของการสะกดจิตจะค่อยๆลดลง มันอาจแย่จนทำให้ตัวเองจำเขาได้
“คุณพงศกร คุณพักผ่อนเถอะค่ะ ฉันจะออกไปแล้วนะคะ” ปาจรีย์สูดหายใจเข้าลึกๆ หลังจากพยายามควบคุมจิตใจตัวเองให้นิ่งได้แล้ว ก็ตรงไปที่ประตู
ในเวลานี้เอง จู่ๆพงศกรก็ตะโกน “ตอนเย็น ผมอยากทานซุปหน่อไม้ใส่บวบ”
“ห๊ะ” ปาจรีย์ชะงักเท้า “ซุปหน่อไม้ใส่บวบเหรอคะ”
พงศกรอือตอบสั้นๆ
นี่คืออาหารที่เธอถนัดที่สุด
ในอดีต เธอทำใส่ให้เขาหลายต่อหลายครั้ง แต่เขาไม่เคยรับไว้เลยสักครั้ง ถึงขั้นโยนกระติกน้ำซุปเธอลงถังขยะ ต่อหน้าเธอหลายครั้ง
ตอนนี้ เขานึกถึงเธอในตอนนั้น ที่สีหน้าซีด
ในอดีต เขาไม่สามารถเก็บมันกลับมาได้อีก แต่ตอนนี้ เขาอยากลอง ลองดูสักครั้ง ซุปที่เธอทำมันจะรสชาติเป็นยังไงกันนะ
ปาจรีย์ไม่รู้ว่าในใจพงศกรกำลังคิดอะไรอยู่
และไม่รู้ด้วยว่าเมื่อก่อนตัวเองเคยทำซุปนี้ให้เขาด้วย เพราะเธอไม่มีความทรงจำของเมื่อก่อนแล้ว
ดังนั้นตอนที่ได้ยินเขาบอกว่าอยากทานซุปนี้ ก็รู้สึกคนๆนี้ช่างประหลาดจริง
แต่ไม่ได้รู้สึกประหลาดใจนาน ก็พยักหน้ารับปาก “ซุปหน่อไม้ใส่บวบใช่ไหมคะ ฉันรู้แล้วค่ะ ตอนเย็นทำให้คุณนะคะ”
ต่อไปเธอมีหน้าที่ดูแลเขา แน่นอนอยู่แล้ว ก็ต้องทำซุปให้เขา ซึ่งไม่มีอะไรอยู่แล้ว
พงศกรเห็นปาจรีย์ตกลง คิ้วของเขาก็ผ่อนคลายลงมาก แล้วอือตอบ หลับตาลง ไม่พูดอะไรอีก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ
อ่านจบครบทุกตอนแล้วค่ะ สนุกมากค่ะเนื้อเรื่องน่าติดตาม ติดงอมแงมเลย นางเอกฉลาดทันคนดีค่ะ ขอติอย่างเดียวคือ พิมพ์ผิดเยอะมากทำให้เสียอรรถรสใน การอ่าน เป็นกำลังใจให้นักเขียนนะคะ🫶🏻...
แล้วกโอ้เอ คุยยืดยาดอยู่นั่น หนีสิคะ ไปหาตำรวจก่อน แจ้งว่ามีสตอคเกอร์ ขอความคุ้มครองจากตำรวจ รอนัทธีส่งคนไปรับ...
นางเอกโง่มาก มีคนชั่วอยู่ในบ้าน ก็ต้องรีบกำจัดสิ เก็บไว้ให้มันทำร้ายตัวเองกับลูกเหรอ น่าจะรีบบเอาวีดีโอให้สามีดูแล้วแจ้งตำรวจ...