ก็ใช่ เขาไม่รับสายจะต้องยุ่งมากแน่ พอยุ่งแล้ว จะรับสายได้ไง?
เธอคิดมากไป คิดแค่ว่าตอนนี้อยู่ในช่วงสงครามเย็น นัทธีไม่รับสายน่าจะจงใจ ซึ่งเป็นความผิดเธอเองที่ไม่คิดบ้างว่าบางทีนัทธีอาจจะยุ่ง
เธอวิตกจริตไปแล้ว
รอเขากลับมา เธอจะขอโทษเขาสักหน่อย
คิดไป วารุณีส่งสัญญาณไปให้ลีน่า สื่อว่าลีน่าอย่าเพิ่งทะเลาะกับมารุต จากนั้นถามมารุตที่อยู่ปลายสายไปว่า:“ผู้ช่วยมารุต นัทธีเขายุ่งอะไรอยู่เหรอ?เกิดเรื่องใหญ่อะไรหรือเปล่า?คุณบอกฉันว่า ฉันอยากรู้สถานการณ์ของนัทธีตอนนี้ ถ้าไม่รู้ ฉันก็ไม่สบายใจ”
ฟังความกังวลและประหม่าในน้ำเสียงของวารุณีแล้ว มารุตก็จริงจังขึ้นมา“คุณหญิงอย่าห่วงเลยครับ ประธานสบายดีมาก ยังไม่เกิดอะไรขึ้น วันนี้ท่านประธานออกไปข้างนอก แค่ไปดูการติดอาวุธ คุณก็รู้ว่า พวกเราจะดวงกับนิรุตติ์เป็นครั้งสุดท้าย ดังนั้นด้านการติดอาวุธ ก็ต้องเตรียมไว้อยู่แล้ว”
“ที่แท้ก็แบบนี้”วารุณีพยักหน้า รู้สึกโล่งอก
แค่นัทธีไม่เป็นไรก็พอแล้ว งั้นเธอก็วางใจ
“ใช่สิคุณหญิง เมื่อกี๊คุณลีน่าบอกว่า คุณยอมเชื่อฟังประธาน ออกไปก่อนเหรอครับ?”มารุตจึงถามกลับ
วารุณีตอบอือ“ใช่ค่ะ”
“งั้นก็ดีเลยครับ เดี๋ยวผมจะบอกท่านประธาน ตอนนี้ประธานกำลังประชุมอยู่กับคนขายเครื่องติดอาวุธ โทรศัพท์ก็เลยอยู่กับผม และเมื่อกี๊ผมก็คุยโทรศัพท์อยู่ ก็เลยไม่ทันรับ ขอโทษนะครับคุณหญิง ที่ทำให้คุณ......”
“ไม่เป็นไร”มารุตยังพูดไม่จบ วารุณีก็ตัดบทเขา ส่ายหน้า สื่อว่าไม่ถือสาอะไร
แค่เธอรู้ว่า นัทธีไม่รับสายเธอเพราะยุ่ง ไม่ใช่จงใจไม่รับสาย ในใจก็มีความสุขมากแล้ว
ส่วนอย่างอื่น เธอเข้าใจได้
ได้ยินวารุณีพูดแบบนี้ มารุตโล่งอก
เขากลัวว่าตัวเองรับสายนานแบบนี้ จะทำให้วารุณีไม่พอใจได้
แต่ว่าดีที่ วารุณีเข้าใจเขาดี
“เอาล่ะผู้ช่วยมารุต ในเมื่อพวกคุณยุ่งอยู่ งั้นฉันก็ไม่รบกวนแล้ว คุณบอกนัทธีหน่อยว่า ฉันจะรอเขากลับมา แล้วพวกเราค่อยคุยกันดีๆ”วารุณีพูดไปอีก
มารุตจำคำพูดเธอไว้ แล้วพยักหน้า“ครับคุณหญิง ผมจะบอกประธานให้”
“อือ งั้นแค่นี้นะ”
“ครับบ๊ายบาย”
โทรศัพท์เสร็จ วารุณีก็วางโทรศัพท์ลง โล่งอกเล็กน้อย
ลีน่ามองเธอแล้วหัวเราะอย่างร่าเริง“ตอนนี้สบายใจแล้วใช่ไหม ประธานนัทธีไม่ได้จะไม่รับสายเธอ แต่เขายุ่ง”
วารุณีส่งเสียงฮึดฮัด“เอาล่ะ รีบกินเถอะ กินก็ยังอุดปากเธอให้เงียบไม่ได้เลย”
ถึงเธอจะพูดแบบนี้ แต่รอยยิ้มในดวงตากลับปกปิดไม่อยู่เลย ชัดเจนว่าตอนนี้ เธอสบายใจแล้ว และก็อารมณ์ดี
“โอเคๆๆ ฉันกินๆ ฉันไม่ขำเธอแล้ว”ลีน่าจะไม่รู้ได้ไงว่าวารุณีอาย เธอหัวเราะหึหึ แล้วกินข้าวเช้าไม่พูดอีก
จนกินข้าวเช้าเสร็จ ลีน่าก็ถือแท็บเล็ตมานั่งลงด้านข้างวารุณี“วารุณี วันก่อนพวกเราแข่งรอบชิงแล้ว เธอว่าคะแนนจะออกเมื่อไหร่?สองวันนี้ ฉันคอยเข้าไปดูเว็บไซต์หลักตลอด แต่คะแนนก็ยังไม่อัปเดต ทำฉันร้อนใจไปหมด”
วารุณีดูทีวีไป ก็หันไปมองเธอด้วย จากนั้นหัวเราะเบาๆ“ร้อนใจไปทำไมกัน ถ้าผลมันจะออก มันก็ออกมาเองแหละ รอบรองชนะเลิศก่อนหน้านี้ก็เหมือนกันไม่ใช่เหรอ”
“ฉันรู้ แต่ฉันอยากรู้ผลมากๆแล้ว อยากรู้ว่าพวกเราใช่แชมป์หรือไม่ ตอนเราแข่งรอบรองชนะเลิศ ฉันกลัวมากว่าเราจะถูกกำจัดออก ดีที่สุดท้ายแล้วพวกเราเข้าสองอันดับแรกได้ ได้ดำเนินการแข่งขันรอบชิงกับอีกฝ่าย ตอนนี้พวกเขาก็น่าจะประหม่าแบบพวกเรา สุดท้ายแล้วเราสองทีมใครจะได้แชมป์ไป”ลีน่าถอนหายใจแล้วพูด
วารุณีละสายตาลง“พูดตรงๆนะ ฉันไม่ร้อนใจก็เป็นไปไม่ได้หรอก แต่ร้อนใจไปก็ไม่ได้อะไร เวลาที่ผลออกมา มันก็ออกมาอยู่แล้ว รีบร้อนไปตอนนี้ก็ไม่มีประโยชน์ สู้รออย่างนิ่งๆดีกว่า ไม่ว่าสุดท้ายแล้วผลจะเป็นอย่างไร พวกเราก็ต้องเผชิญหน้ากับมันให้ได้ เพราะเราก็พยายามอย่างที่สุดแล้ว”
“พูดก็ถูก แต่ฉันใจเย็นไม่ได้นี่ ช่างเถอะ เธอไม่ต้องสนฉันหรอก ถ้าฉันไม่ได้ดูก็อยู่นิ่งไม่ได้”ลีน่าส่ายมือแล้วพูด
วารุณียักไหล่“โอเค งั้นฉันไม่สนเธอละ เธอก็ค่อยๆรีเฟรชไปละกัน”
“อือ”ลีน่าพยักหน้า จากนั้นก็ถือแท็บเล็ตไว้จริงๆ แล้วไม่หยุดรีเฟรชหน้าเว็บการแข่งขัน เพื่อดูผลการแข่งขัน
แต่ทุกครั้งที่รีเฟรช ผลก็ยังไม่ออกมา มีแต่รอบที่แล้ว
ทำให้ในใจลีน่ายิ่งหงุดหงิด จากนั้นพอหงุดหงิด ก็จะยิ่งรีเฟรช
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ
อ่านจบครบทุกตอนแล้วค่ะ สนุกมากค่ะเนื้อเรื่องน่าติดตาม ติดงอมแงมเลย นางเอกฉลาดทันคนดีค่ะ ขอติอย่างเดียวคือ พิมพ์ผิดเยอะมากทำให้เสียอรรถรสใน การอ่าน เป็นกำลังใจให้นักเขียนนะคะ🫶🏻...
แล้วกโอ้เอ คุยยืดยาดอยู่นั่น หนีสิคะ ไปหาตำรวจก่อน แจ้งว่ามีสตอคเกอร์ ขอความคุ้มครองจากตำรวจ รอนัทธีส่งคนไปรับ...
นางเอกโง่มาก มีคนชั่วอยู่ในบ้าน ก็ต้องรีบกำจัดสิ เก็บไว้ให้มันทำร้ายตัวเองกับลูกเหรอ น่าจะรีบบเอาวีดีโอให้สามีดูแล้วแจ้งตำรวจ...