“นอน ชุดนอนเหรอ?” เมื่อลีน่าได้ยินที่วารุณีพูด ก็ตกตะลึง
จะเป็นชุดนอนได้ยังไงกัน?
ที่เธอให้มันคือไอ้นั่นต่างหาก
“วารุณี นี่เธอ......”
ลีน่ายังไม่ทันได้พูดจบ ก็ถูกเสียงทุ้มของนัทธีตัดบท “เอาล่ะ ตอนนี้คือเวลาทานข้าว ก็ตั้งใจทาน อะไรที่ไม่จำเป็นก็ไม่ต้องพูด”
พูดจบ เขาก็หันไปมองลีน่าด้วยสายตาเย็นเฉียบ
ลีน่าสัมผัสได้ถึงสายตาของเขา ก็หดคอลงด้วยความหวาดกลัว แล้วปิดปากทันที
เอาเถอะ เธอพอจะมองออกแล้วล่ะ
ประธานนัทธีตั้งใจจะใช้อันนั้นในคืนนี้อีกนั่นแหละ
ดังนั้นในตอนนี้ ประธานนัทธีเลยไม่อยากให้เธอพูดเรื่องนี้ต่อ จะได้ไม่โป๊ะแตก
ดูจากประโยคที่วารุณีบอกว่าชุดนอนก็รู้ วารุณีไม่รู้ว่าเธอส่งไปตอนไหน
เพื่อที่ประธานนัทธีจะได้ปกปิดวารุณี นึกไม่ถึงเลยว่าขนาดเรื่องชุดนอนยังโกหกขึ้นมาได้
ช่าง......
คิดอยู่ ลีน่าก็มองไปทางประธานนัทธีด้วยสายตาดูถูก
นัทธีกำลังจะจ้องกลับมา เธอก็รีบก้มหน้าลงด้วยอาการใจฝ่อทันที
วารุณีมองไปที่เธอ แล้วก็มองไปที่อยู่สามีข้างๆ แล้วก็มองไปที่พงศกรที่นั่งขำอย่างสุดๆ อยู่ตรงข้าม
ในใจคิดอยู่สามคำคือแปลกประหลาด
แถมยังมีเรื่องชุดนอนแปลกๆ จากประโยคที่นาน่าพูด
คงไม่ใช่ ว่าที่ลีน่าส่งมาไม่ใช่ชุดนอน แต่เป็นอย่างอื่นสินะ?
ไม่อย่างนั้นทำไมนาน่าถึงได้ตกใจขนาดนั้น?
ถ้าเป็นแบบนี้จริง งั้นนัทธีก็กำลังโกหกเธออยู่
ถ้าหากว่าเขาโกหกเธอจริง คอยดูเลยว่าคืนนี้เธอจัดการเขาแน่
คิดถึงเท่านี้ วารุณีจึงพ่นเสียงออกทางจมูกใส่นัทธี
นัทธีเลิกคิ้ว “มีอะไรเหรอ?”
วารุณีไม่สนใจเขา กลอกตาใส่เขาแล้วเก็บสายตากลับมา
นี่ยิ่งทำให้นัทธีงงไปใหญ่
แต่ยังไงซะเขาก็เป็นคนฉลาด ไม่นานเขาก็เข้าใจอะไรบางอย่างได้ จึงหัวเราะขื่นๆ ออกไป
เหอะ เขารู้ว่าว่าเธอกำลังโกหกเธอแล้ว
ทั้งหมดนี่ก็เพราะยัยผู้หญิงลีน่าปากมากคนนี้
นัทธีส่งสายตาเย็นเฉียบไปมองลีน่าอีกครั้ง การมองที่ทำให้ลีน่าหนังหัวชาไปหมด แถมยังงงไปในเวลาเดียวกัน
เกิดอะไรขึ้น?
ประธานนัทธีมองเธอแบบนี้อีกทำไมกัน?
เหมือนตอนนี้เธอก็ไม่ได้ทำอะไรแล้วไม่ใช่เหรอ?
ลีน่าคิดอย่างไม่ค่อยแน่ใจ
พงศกรที่อยู่ข้างๆ คลายแขนที่คล้องกันไว้ นั่งตัวตรงอีกครั้งแล้วหยิบตะเกียบขึ้นมาทานอาหารต่อ
ระหว่างมื้ออาหาร มองอันนี้ แล้วก็มองอันนั้น ความสนุกในสายตายังคงเข้มข้น ไม่จางหายไป
คนพวกนี้ ตลกชะมัด
อาหารมื้อนี้ ภายใต้สถานการณ์ความคิดของแต่ละคน ก็ได้ปิดม่านลง
ลีน่ากลัวนัทธี ดังนั้นหลังจากทานอาหารเสร็จ จึงหาข้ออ้างแอบหนี แล้วกลับห้องไป แม้แต่สุขใจก็ไม่ไปดู
พงศกรก็กลับห้องตัวเอง แอบไปอย่างเงียบๆ
ภายในห้องรับแขกเหลือเพียงแค่วารุณีกับนัทธี
วารุณีมองที่ชายหนุ่ม สองมือเท้าสะเอว “พูดมาค่ะ ว่านาน่าส่งอะไรมา ไม่ใช่ชุดนอนใช่มั้ย?”
สายตานัทธีล่อกแล่กหันไปทางอื่นด้วยอาการร้อนตัว ไม่ตอบคำถาม
แต่ท่าทีแบบนี้ของเขา ได้แสดงออกมาอย่างชัดเจนแล้ว เขากำลังโกหก ที่ลีน่าจัดเตรียมไว้ ไม่ใช่ชุดนอนแน่นอน
“โอเค คุณโกหกฉัน!” วารุณีโกรธจนแก้มป่อง ตาแดงก่ำ
เมื่อนัทธีเห็นท่าทางเธอแบบนี้ หัวใจก็อ่อนรวบเป็นแอ่งน้ำ “เอาล่ะๆ ผมผิดเอง เดี๋ยวผมจะพาคุณไปดูว่ามันคืออะไร?”
พูดอยู่ เขาก็จูงมือเธอ
ยังไงซะตอนนี้ก็ค่ำแล้ว ข้าวก็กินแล้ว ก็ควรเป็นเวลาของกิจกรรมหลังอาหารแล้วล่ะ
หลังจากที่ดวงตาของนัทธีเป็นประกาย ก็จูงมือวารุณีไปที่บันได
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ
อ่านจบครบทุกตอนแล้วค่ะ สนุกมากค่ะเนื้อเรื่องน่าติดตาม ติดงอมแงมเลย นางเอกฉลาดทันคนดีค่ะ ขอติอย่างเดียวคือ พิมพ์ผิดเยอะมากทำให้เสียอรรถรสใน การอ่าน เป็นกำลังใจให้นักเขียนนะคะ🫶🏻...
แล้วกโอ้เอ คุยยืดยาดอยู่นั่น หนีสิคะ ไปหาตำรวจก่อน แจ้งว่ามีสตอคเกอร์ ขอความคุ้มครองจากตำรวจ รอนัทธีส่งคนไปรับ...
นางเอกโง่มาก มีคนชั่วอยู่ในบ้าน ก็ต้องรีบกำจัดสิ เก็บไว้ให้มันทำร้ายตัวเองกับลูกเหรอ น่าจะรีบบเอาวีดีโอให้สามีดูแล้วแจ้งตำรวจ...