บทที่ 42 คว้าน้ำเหลว
“ถูกต้องๆ เพราะสาเหตุนี้ จากนั้นผมก็คิดหาวิธีที่จะขายที่ดินผืนนี้ออกไป ก็ประจวบกับพอดีที่……คุณชิวมาหาผม”
หวางต้าจาวพูดถึงตรงนี้ก็ก้มหน้าลง น้ำเสียงก็จ๋อยลง “คุณเนี่ยครับ ถ้าคุณรู้สึกว่าที่ผืนนี้ไม่ดี งั้นคุณก็คืนให้ผม ผมจะคืนเงินเต็มจำนวนให้!”
ว่าไปแล้วที่หวางต้าจาวยักยอกเงินหลวงทุนบริษัท ก็เพราะอยากจะทำงานใหญ่ ถึงได้ทำเรื่องแผลงๆ ออกมา
นี่ถ้าคุณลุงรู้เข้า เขาต้องจบเห่แน่
ตอนนี้เขาอุตส่าห์ได้เงินก้อนมาชดเชยกลับไปแล้ว ยังต้องออกเงินตัวเองอีก เช่นนี้ไม่เท่ากับเอาตะกร้าสานไปตักน้ำ ขโมยไก่ไม่สำเร็จยังต้องเสียข้าวอีกกำมืออีกเหรอ? (เป็นการเปรียบเปรยว่าคว้าน้ำเหลว)
“ผมบอกแล้วไง ไม่ต้องการให้คุณทำอย่างนี้ เรื่องนี้ผมจะจัดการเอง”
พอเนี่ยเฟิงพูดจบไม่ทันที่หวางต้าจาวจะถามว่าจะจัดการอย่างไร เขาก็วางสายไป
หวางต้าจาวรู้สึกแปลกใจอยู่อย่าง แต่พอมาคิดดู นี่ไม่ใช่เรื่องที่เขาจะบงการได้ ดังนั้นเขาไม่ยุ่งจะดีกว่า
เนี่ยเฟิงพอออกจากห้องน้ำมาใบหน้าก็เปลี่ยนเป็นรอยยิ้ม “พี่ใหญ่ แล้วเราจะไปไหนกันต่อ?”
ชิวมู่เฉิงเมื่อกี๊คิดอยู่ตลอดว่าเรื่องนี้จะทำอย่างไร “ฉันจะไปถามดูอีกที”
“งั้นผมจะไปกับพี่ใหญ่ด้วย!”
เนี่ยเฟิงที่ภายนอกดูเหมือนผู้ชายที่ไม่มีความทุกข์ร้อน อยู่เคียงข้างชิวมู่เฉิงที่มีเรื่องหนักใจ เขามองดูพี่ใหญ่กลุ้มใจกับเงินหลักล้าน ก็รู้สึกไม่สบายใจ อยากให้รู้ว่าเขาเป็นราชามังกรที่รวยทัดเทียมประเทศๆ หนึ่งได้เลย
เขาอยากแจกเงินพันล้านให้พี่สาวทั้งหลายได้ใช้ อีกอย่าง เงินพันล้านสำหรับเขาแล้วก็เป็นแค่ขนเส้นเดียวในบรรดาวัวเก้าตัว (เปรียบเปรยว่าเป็นเศษเสี้ยวของสมบัติที่มีอยู่)
ว่าแต่ถ้าเขาทำอย่างนี้จริงๆ อาจจะทำให้พี่สาวเสียศักดิ์ศรี เนี่ยเฟิงคลุกคลีกับพวกเขามานาน แน่นอนต้องรู้ว่านิสัยของพี่สาวแต่ละคนไม่เหมือนกัน โดยเฉพาะพี่ใหญ่
เธอเหมือนเป็นคนไม่รู้สึกอะไร แต่ความจริงเป็นคนที่ถือศักดิ์ศรีมาก
พอเห็นชิวมู่เฉิงกลับมาอีกครั้ง ใบหน้าของลิซานเผ้าก็เผยรอยยิ้มออกมา “ท่าทางคุณชิวคงจะคิดออกแล้ว จะจ่ายเงินใช่ไหม?”
“ขอโทษด้วย ผู้อำนวยการลิ ช่วงนี้ฉันไม่สามารถหาเงินก้อนนี้ออกมาได้ คุณก็รู้ว่ามันเป็นจำนวนน้อยไม่น้อย……”
หลังจากลิซานเผ้าได้ยิน สีหน้าก็เปลี่ยนทันที “ถ้าคุณหาเงินไม่ได้ แล้วกลับมาหาผมทำไม เวลาของคนมีค่านะ”
“ทำไมคุณถึงพูดจาน่าอัดอย่างนี้นะ?”
เนี่ยเฟิงที่อยู่ข้างๆ เหลือกตาขาวมองบนใส่ ลิซานเผ้าไม่พอใจขึ้นมาทันที “นายมันก็แค่ไอ้กระจอก”
ชิวมู่เฉิงได้ยินซานลิเผ่าว่าน้องชายตัวเองเช่นนี้ก็โมโห “ผู้อำนวยการลิช่วยให้เกียรติกันด้วย”
“ผมไม่เห็นต้องให้เกียรติอะไรพวกคุณ บริษัทของคุณมันก็แค่บริษัทเล็กๆ ออกจากตระกูลชิวแล้วคุณไม่เหลืออะไร ผมไม่ได้เป็นคนเรียกพวกคุณมา จะมาขอร้องกันก็ช่วยทำท่าทางให้ดีด้วย! ถ้าไม่มีเงินก้อนนี้มาให้ก็ได้ ถึงเวลานั้นให้หุ้นผมก็แล้วกัน พอห้างร้านเสร็จ ผมขอสักสิบร้านก็แล้วกัน!”
“ผมว่าคุณอย่าเป็นผู้อำนวยการเลย ไปเป็นโจรจะดีกว่า ในธนาคารมีเงินตั้งเยอะ ไปปล้นในนั้นเลยดีกว่าไป!”
เนี่ยเฟิงอดทนมาตั้งแต่เมื่อครู่ มองดูไอ้หัวหมูตอนนี่ ความโกรธก็พลุ่งพล่าน อีกทั้งเจ้าลิซานเผ้าก็ใช้สายตาลวนลามมองดูพี่ใหญ่ของเขา
“ในเมื่อท่าทางคุณเป็นอย่างนี้ งั้นผมก็ไม่จำเป็นต้องร่วมมือกับคุณ แต่ขอพูดแบบไม่เข้าหูไว้ก่อนก็แล้วกัน ถ้าถึงเวลาพวกคุณคิดจะมาขอร้องผม ผมคงไม่รับปากแล้ว!”
“ผู้อำนวยการลิ ฉันให้เกียรติคุณถึงได้เรียกคุณว่าผู้อำนวยการ อย่าคิดว่าเป็นคนของเว่ยซื่อกรุปแล้วจะยิ่งใหญ่ สายลมสายน้ำย่อมแปรผัน อย่าดูถูกคนหนุ่มสาวว่าจน ถึงตอนนี้บริษัทฉันจะไม่ใหญ่ แต่ต้องมีสักวันที่ฉันจะเหยียบอยู่บนหัวพวกคุณ”
ชิวมู่เฉิงก็ไม่ใช่คนที่ใครจะเอานิ้วมาบี้ก็ได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พี่สาวเจ็ดคนที่สวยสง่าของผม(16+)