พี่สาวเจ็ดคนที่สวยสง่าของผม(16+) นิยาย บท 77

บทที่ 77บัตรกำนัล

พอคางเมิ่งดีใจได้สักพัก เธอก็รู้ตัวว่าการแสดงท่าทีแบบนี้ให้คนแปลกหน้าเห็นมันจะดูไม่ค่อยเหมาะสมสักเท่าไหร่ ว่าแล้วเธอก็รีบแสร้งทำเป็นไอ จากนั้นก็พูดด้วยความสงบเสงี่ยมว่า

“ขอบคุณคุณมากนะคะท่านประธานกรรมการ!”

จินไห่เวยเผยรอยยิ้มที่ใจดีออกมา “มันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรเลยครับ เดิมทีมันก็เป็นเพราะทางเราดูแลได้ไม่ดีพออยู่แล้ว จึงทำให้พวกคุณต้องเดือดร้อนไปด้วย ต้องขออภัยเป็นอย่างสูงครับ และขอให้พวกคุณช่วยรับบัตรกำนัลใบนี้ไว้ด้วยนะครับ”

ระหว่างที่พูด จินไห่เวยก็ยื่นบัตรใบหนึ่งที่มีโลโก้สีทองของอาคารตี้กั๋วพิมพ์ไว้ ซึ่งมันก็คือบัตรวีไอพีศูนย์แปดตัว

“ต่อไปไม่ว่าพวกคุณอยากซื้ออะไรในก็ตาม ราคาทั้งหมดจะถูกหักจากในบัตรนี้ ถือซะว่าเป็นการชดเชยที่ทำให้พวกคุณต้องตกใจ!”

คางเมิ่งรีบโบกไม้โบกมือ “ไม่ได้หรอกค่ะ! จะให้เรารับบัตรกำนัลจากคุณได้ยังไงล่ะคะ?”

คางเมิ่งเองก็ยังรู้สึกผิดอยู่ เมื่อกี้พวกเธอเพิ่งก่อความวุ่นวายซะขนาดนั้นแท้ๆ จินไห่เวยไม่เพียงไม่ให้พวกเธอชดใช้อะไรเลย แต่กลับมอบบัตรกำนัลให้พวกเธออีก นี่มันไม่คุ้มไปหน่อยเหรอ?

“ถ้าพวกคุณไม่ยอมรับบัตรกำนัลใบนี้ไว้ละก็ผมคงต้องรู้สึกผิดมากแน่ๆ ถ้าเรื่องนี้ถูกแพร่งพรายออกไปชื่อเสียงของอาคารตี้กั๋วก็อาจดูแย่ไปด้วย”

พอเห็นสีหน้าที่รู้สึกผิดของจินไห่เวยแล้ว คางเมิ่งเองก็รู้สึกเห็นใจขึ้นมาทันที เธอคิดแล้วคิดอีก ถึงรับบัตรใบนี้ไปแต่ถ้าไม่มาซื้อของที่นี่ก็ไม่เป็นไรแล้วนี่จริงไหม? ว่าแล้วคางเมิ่งก็พยักหน้า “ก็ได้ค่ะ ฉันจะรับมันไว้ก็ได้!”

“ขอบคุณทั้งสองท่านที่เข้าใจครับ!”

คางเมิ่งยิ้มเบาๆ จากนั้นก็เหมือนจะนึกอะไรได้ เธอจึงถามขึ้นมาด้วยความสงสัยว่า “เสี่ยวเฟิง เมื่อกี้โทรศัพท์ที่แกโทรไปนี่มันยังไงกันแน่? ทำไมท่านประธานกรรมการจินถึงมาที่นี่ได้? หรือว่าพวกแกรู้จักกันอย่างนั้นเหรอ?”

เนี่ยเฟิงส่ายหน้า “ผมจะไปมีปัญหาทำแบบนั้นได้ยังไงล่ะครับ? ผมก็แค่เล่นละครเท่านั้น ไม่นึกเลยว่าจะโชคดีขนาดนี้!”

“ความจริงวันนี้ผมมาลงมาตรวจดูหน้างานที่อาคารจินไห่นี่พอดี พอได้ยินว่าตรงนี้มีปัญหาผมเลยเดินเข้ามาดู ซึ่งคนอย่างผมก็มักจะตัดสินทุกอย่างด้วยเหตุผลต่อให้อีกฝ่ายจะเป็นญาติพี่น้องก็ตาม”

คางเมิ่งยิ้มหวานออกมา “โชคดีจริงๆ ที่ท่านประธานกรรมการเป็นคนแบบนั้น ไม่อย่างนั้นเมื่อกี้เราสองคนคงเถียงสู้ไม่ไหวแน่ๆ ค่ะ!”

พี่เจ็ดครับ ผมว่าพี่ไปพักตรงนู้นก็ดีกว่า เดี๋ยวผมจะช่วยเก็บกวาดเสื้อผ้าตรงนี่ก่อน”

“ให้ฉันอยู่ช่วยอีกแรงดีมั้ย?”

คางเมิ่งนึกขึ้นได้ว่าพวกเธอนี่แหละที่เป็นคนทำให้เสื้อผ้าพวกนั้นยุ่งเหยิงเอง เธอจึงรู้สึกผิดขึ้นมา

“ไม่ได้หรอกครับ วันนี้พี่อุตส่าห์แต่งตัวสะสวยเพื่อพาผมมาซื้อเสื้อผ้าแท้ๆ ถ้าพี่มาช่วยเก็บกวาดละก็ เดี๋ยวพี่ก็เหงื่อออกจนเหม็นไปทั้งตัวหรอกครับ อีกอย่างผมมันแรงเยอะไม่เป็นไรหรอกครับ!”

คางเมิ่งลังเล แต่เนี่ยเฟิงก็ยังยืนยันว่าไม่ให้เธอช่วย สุดท้ายคางเมิ่งก็จำต้องชี้ไปข้างหน้าแล้วพูดว่า “ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวฉันไปรอที่ร้านกาแฟตรงนั้นแล้วกันนะ”

พอคางเมิ่งจากไป จินไห่เวยก็พาเนี่ยเฟิงไปที่ห้องพักที่อยู่ด้านหลัง จากนั้นจินไห่เวยก็คุกเข่าลงข้างหนึ่ง “คารวะราชามังกร! ข้าน้อยสมควรได้รับโทษที่มาช้า!”

เมื่อกี้บนหน้าของเนี่ยเฟิงยังมีรอยยิ้มอยู่เลย แต่ตอนนี้รอยยิ้มเหล่านั้นได้หายไปจนหมดแล้ว

“คุณสมควรได้รับโทษจริงๆ”

เนี่ยเฟิงมองจินไห่เวยด้วยความไม่พอใจ “ถึงกับให้ฉันต้องลงมือจัดการหน้าร้านด้วยตนเอง พนักงานที่นี่ช่างอวดเบ่งกันซะจริงนะ”

จินไห่เวยกลืนน้ำลายเฮือกใหญ่ ความจริงแล้วเขาไม่ใช่ประธานกรรมการของอาคารจินไห่แห่งนี้ซะหน่อย เขาเป็นแค่ตัวแทนเท่านั้น เพราะประธานกรรมการตัวจริงก็คือเนี่ยเฟิงต่างหาก!

“ต้องขออภัยเป็นอย่างสูง! ขอราชามังกรโปรดลงโทษด้วย!”

จินไห่เวยก้มหน้าก้มตา ดูแล้วต้อยต่ำเหลือเกิน

“ผมจำได้ว่าคุณทหารระดับอี๋”

จินไห่เวยรีบพยักหน้า พวกเขาถูกแบ่งเป็นเจี๋ยอี๋ปิ่นติงสี่ระดับ การจะเลื่อนขั้นแต่ละครั้งนั้นมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย

ถ้าจะให้พูดก็คือ แผนงานของแต่ระดับขั้นในสำนักมังกรนั้นค่อนข้างเข้มงวด ในที่สุดเขาก็ขึ้นมาอยู่ในระดับอี๋ได้สักทีแต่นี่เขาเพิ่งได้นั่งในตำแหน่งนี้ไม่นานเองนะ อย่าบอกนะว่าความพยายามทั้งหมดที่เขาทำมากำลังจะสูญเปล่า?

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พี่สาวเจ็ดคนที่สวยสง่าของผม(16+)