ห้องผู้ป่วยนี้เป็นห้องผู้ป่วยธรรมดา ด้านในมีเตียงสามเตียง นอกจากหลี่ฉินแล้วก็ยังมีผู้ป่วยอีกสองเตียงที่นอนพักอยู่บนเตียง
“นี่เจ้าหนุ่ม ข้าวน่ะจะกินอะไรก็ได้แต่คำพูดจะพูดจาส่งเดชไม่ได้นะ!”
“หลี่ฉินก็อยู่โรงพยาบาลมาตั้งนาน แม้แต่หมอในโรงพยาบาลหลายคนก็หมดปัญญาจะรักษาแล้ว!”
“เธอยังเด็กขนาดนี้แถมก็ไม่ใช่หมอเฉพาะทาง จะมีความสามารถรักษาให้หายได้อย่างไร!”
“นั่นน่ะสิ! อย่าคิดแค่ว่าตัวเองเรียนทักษะการแพทย์มานิด ๆ หน่อย ๆ ก็ถือว่าเป็นหมอแล้ว ถ้ารักษาคนอื่นแล้วเป็นอะไรไป ใครจะรับผิดชอบไม่ทราบ!”
...
ผู้ป่วยทั้งสองคนต่างส่ายหน้า ใคร ๆ ก็ดูถูกทักษะการแพทย์ของฉินหมิง
เฉินฮ่าวสงสัยอยู่แล้วว่าแรงจูงใจของฉินหมิงนั้นไม่บริสุทธิ์ พอยิ่งได้ฟังผู้ป่วยสองคนพูดขนาดนี้แล้ว เขายิ่งไม่เชื่อในทักษะการแพทย์ของฉินหมิงขึ้นไปอีก!
“นี่พี่ ที่ลุงสองคนพูดมาก็ถูกนะ พวกเราไม่สามารถเอาชีวิตแม่มาล้อเล่นได้นะ!”
“นี่…”
เมื่อกี้เฉินถิงถิงได้เชื่อในตัวฉินหมิงไปแล้ว แต่ตอนนี้เมื่อมีชีวิตของแม่เธอเป็นเดิมพัน เธอจึงอดลังเลใจขึ้นมาไม่ได้
“ในเมื่อคุณไม่เชื่อผมก็ช่างเถอะ”
“แต่ว่าผมจะขอเตือนคุณอีกสักประโยคหนึ่งนะครับ อาการป่วยของคุณป้าหลี่ยังอยู่ในระดับที่รักษาได้ พวกคุณควรจะคิดหาวิธีให้รักษาให้เร็วที่สุดถึงจะได้!”
“ไม่อย่างนั้นหากว่าโรคแทรกซ้อนลุกลามต่อไปจนร่างกายเป็นอัมพาตไปหมด ตอนนั้นก็คงสายเกินไปแล้วนะครับ!”
ฉินหมิงถอนหายใจ ลุกขึ้นอย่างหมดกำลังใจและกำลังจะเตรียมตัวขอลากลับ
แต่เมื่อว่านี่คือชีวิตหนึ่ง เขายังคงให้คำแนะนำที่เกี่ยวข้องก่อนที่จะออกไป
“คุณไม่ต้องมาทำให้พวกเรากลัวไปหน่อยเลย คุณคิดว่าพวกเราจะเชื่อคุณเหรอ?”
เฉินฮ่าวทำท่าทางเยาะเย้ย
“ไม่ พี่เชื่อเลขาฉิน!”
ถึงแม้เฉินถิงถิงเกิดลังเลเล็กน้อย แต่เธอก็พยักหน้าอย่างหนักแน่น
เธอไม่เหมือนกับเฉินฮ่าว วันนี้ฉินหมิงช่วยเธอที่บริษัท แค่เหตุการณ์นี้เพียงอย่างเดียวก็ทำให้เธอไว้วางใจฉินหมิงมากขึ้น
เธอเชื่อมั่นในความซื่อสัตย์ของฉินหมิงว่าเขาไม่ใช่คนที่จะพูดจาไร้สาระอย่างแน่นอน!
“แม่ก็เชื่อในตัวเขา…”
หลี่ฉินพยายามประคองร่างของเธอขึ้นและพูดอย่างไร้เรี่ยวแรง
จริง ๆ เธอเองก็ไม่ได้เชื่อทักษะการแพทย์ของฉินหมิงจริง ๆ หรอก แต่เธออยู่โรงพยาบาลนี้มาตั้งนานแล้ว ทุกวันก็ต้องจ่ายค่าหมอแพงแสนแพง ซึ่งเป็นการสร้างภาระหนักให้กับลูกทั้งสองคนของเธอ
เธอทนที่จะเป็นตัวถ่วงลูกสาวและลูกชายของเธอต่อไปไม่ไหว!
เธอยินยอมที่จะให้ฉินหมิงทดลองดู ถึงแม้จะเกิดเหตุไม่คาดฝันจนเสียชีวิตก็ไม่เป็นไร อย่างน้อยนี่ก็สามารถปล่อยลูกทั้งสองของเธอเป็นอิสระได้เร็วที่สุด!
“แม่ พี่ พวกพี่…”
เฉินฮ่าวร้อนใจมาก เขาอยากจะพูดบางอย่างเพื่อห้ามปรามพวกเธอ แต่ก็ถูกเฉินถิงถิงขัดจังหวะเสียก่อนก่อนที่เขาจะพูดอะไรได้
“เฉินฮ่าวไม่ต้องพูดแล้ว พี่ตัดสินใจเรื่องนี้ไปแล้ว!”
ดวงตาของเฉินถิงถิงจ้องไปที่ฉินหมิง เธอกล่าวด้วยความจริงใจ “เลขาฉินคะ เมื่อกี้เราผิดเองที่สงสัยในทักษะการแพทย์ของคุณ ฉันต้องขอโทษคุณด้วยนะคะ…”
“อาการป่วยของแม่ฉันคงต้องไหว้วานคุณด้วยแล้วล่ะค่ะ ขอแค่คุณรักษาาแม่ฉันให้หายดี บุญคุณครั้งนี้ฉันจะจดจำใส่ใจไม่มีวันลืมแน่นอน!”
ทันทีที่เฉินถิงถิงพูดจบ หลี่ฉินก็พูดเสริมอย่างอ่อนแรง “เลขาฉิน ชีวิตของฉันแม้ว่าจะรักษาไม่หายก็ไม่เป็นไรนะ คุณไม่ต้องกดดันตัวเองนะคะ...
“พวกคุณวางใจเถอะครับ ผมจะพยายามอย่างถึงที่สุด!”
ฉินหมิงยิ้มให้ พอเห็นท่าทีของสองแม่ลูกนี้ก็ทำให้เขามีกำลังใจเพิ่มมากขึ้น
หลังจากนั้นฉินหมิงหยิบเข็มเงินออกมาและเริ่มการฝังเข็มให้กับหลี่ฉิน
เมื่อคืนที่หลังจากได้รับมรดกเป็นตำราแพทย์ เขาได้รู้แล้วว่าชื่อของการฝังเข็มชุดนี้จริง ๆ แล้วเรียกว่าหกเข็มพลิกชะตา!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พลิกชะตารัก มรดกเซียน
รออัพเดท ตอนต่อ ๆ ไป ครับ...