"ผมเปล่า......"
"ผู้อำนวยการหู ได้โปรดฟังผมอธิบายก่อนครับ ตัวยาที่ผมจัดให้คนไข้มีประโยชน์และไม่เป็นอันตรายแน่นอน..."
เถียนปั๋วรู้สึกตื่นตระหนก เขาอยากจะอธิบาย แต่เมื่อมีสถานะอันสูงส่งของฉินหมิงค้ำคออยู่ เขาย่อมไม่มีทางกล่าวหาคนตัวเล็ก ๆ อย่างผิด ๆ ไม่ว่าจะอธิบายอย่างไรก็รังแต่จะทำให้เขาดูโง่เง่า!
"ฉันไม่อยากฟังคำแก้ตัวของแกอีก!"
"เถียนปั๋ว นับแต่บัดนี้เป็นต้นไป แกถูกไล่ออกแล้ว เก็บข้าวของแล้วไสหัวออกไปเดี๋ยวนี้เลย!"
ผู้อำนวยการหูทุบโต๊ะแล้วตะโกนด้วยความโมโหจัด
"ไม่นะ......"
"ผู้อำนวยการหู ได้โปรดให้โอกาสผมอีกสักครั้ง..."
เถียนปั๋วคร่ำครวญแล้วคลานเข้าไปแทบเท้าของผู้อำนวยการหู จากนั้นก็ขอร้องไม่หยุดหย่อน
"ไสหัวไป!"
"รปภ. โยนมันออกไปซะ!"
ผู้อำนวยการหูถีบเถียนปั๋วออกไปแล้วโบกมือ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยหลายคนก้มตัวลงกระชากตัวเถียนปั๋วแล้วลากเขาออกไปราวกับสุนัขตาย!
"ดี!"
"ดีมาก!"
"ไอ้เศษสวะที่ไร้จรรยาบรรณแพทย์แบบนี้สมควรโดนแบบนี้แล้ว โล่งอกไปที!"
...
ผู้ป่วยอีกสองคนในแผนกต่างปรบมือและส่งเสียงโห่ร้อง
"คุณฉิน โปรดรอสักครู่นะครับ ผมจะช่วยดำเนินขั้นตอนจำหน่ายคนไข้ออกจากโรงพยาบาลให้เอง"
ผู้อำนวยการหูยิ้มให้ด้วยความนอบน้อม จากนั้นก็รับบัตรเครดิตของฉินหมิงแล้วรีบเดินจากไป
เมื่อแผ่นหลังของผู้อำนวยการหูลับตาไปแล้ว เฉินถิงถิงกับน้องชายก็มองหน้ากันแล้วเดินเข้ามาคุกเข่าดังตุ้บให้ฉินหมิงพร้อมกัน
"เลขาเฉิน คุณทำอะไรน่ะ?"
ฉินหมิงรู้สึกประหลาดใจ
"เลขาฉิน คุณช่วยพวกเราไว้เยอะเลย พวกเราพี่น้องไม่มีอะไรจะตอบแทน ได้โปรดรับการคำนับของพวกเราด้วย..."
พี่น้องเฉินถิงถิงกับเฉินฮ่าวคุกเข่าโขกศีรษะให้ฉินหมิงเพื่อแสดงความขอบคุณ
"พวกเราเป็นทั้งเพื่อนร่วมงานและสหายก็ควรจะช่วยเหลือซึ่งกันและกัน คุณไม่ต้องเกรงใจขนาดนั้นก็ได้..."
ฉินหมิงรู้สึกสับสนอยู่บ้างแล้วรีบเข้าไปช่วยประคองเฉินถิงถิงกับน้องชายให้ลุกขึ้น
"พ่อหนุ่ม คุณเป็นคนดีเสียขนาดนั้น!"
"สังคมทุกวันนี้ มีคนใจดีอย่างคุณไม่มากหรอกนะ!"
...
ผู้ป่วยอีกสองคนถึงกับยกนิ้วหัวแม่มือให้ฉินหมิงแล้วเอ่ยปากชื่นชม
"ลุงสองคนตื้นตันใจมากเชียวล่ะ..."
ฉินหมิงยิ้มจืดเจื่อน
เขารู้ว่าเนื้อแท้ของมนุษย์เป็นคนดี ที่จริงแล้วในสังคมมีคนใจดีอยู่ตั้งมากมายและเขาก็ไม่นับว่าพิเศษอะไรขนาดนั้น
"พ่อหนุ่มเอ๋ย พวกเรามีเรื่องอยากจะขอร้องสักหน่อย ในเมื่อฝีมือการรักษาของคุณสูงส่งขนาดนั้น คุณช่วยตรวจรักษาพวกเราสองคนได้ไหมล่ะ?"
"ใช่แล้วล่ะ พวกเราสองคนจะจ่ายค่ารักษาให้ ไม่รบกวนคุณเปล่า ๆ ปลี้ ๆ หรอกนะ..."
ผู้ป่วยทั้งสองคนขอร้องด้วยสายตาคาดหวัง
"ไม่ต้องจ่ายค่ารักษาหรอกครับ ถ้าพวกคุณไม่รังเกียจฝีมือการรักษาอันตื้นเขินของผมล่ะก็ ผมจะช่วยพวกคุณเอง"
ฉินหมิงเอ่ยพลางยิ้มให้
ผู้ป่วยทั้งสองคนต่างรู้สึกลิงโลด "คุณล้อเล่นหรือไง? ฝีมือการรักษาของคุณสูงส่งถึงขนาดนั้น พวกเราทั้งสองคนล้วนต้องการมาก ๆ แล้วจะรังเกียจได้ยังไงกัน!"
หลังจากนั้น ฉินหมิงจับชีพจรของผู้ป่วยทั้งสองคนตามลำดับ
พวกเขาสองคนอาการไม่ร้ายแรงมากไปกว่าหลี่ฉิน หนึ่งในนั้นมีอาการปอดติดเชื้อ แน่นหน้าอก หายใจไม่อิ่มและอีกคนมีอาการท้องไส้ไม่ดีจนกินอะไรไม่ได้
ฉินหมิงจึงฉีดยาให้พวกเขาไปสองสามเข็ม จากนั้นก็เขียนใบสั่งยาให้พวกเขาแต่ละคนพร้อมกับบอกให้พวกเขากินยาตามใบสั่งแล้วอีกไม่นานพวกเขาก็จะหายดี
"ขอบคุณ ขอบคุณ......"
ผู้ป่วยทั้งสองคนต่างรู้สึกขอบคุณอย่างสุดซึ้งแล้วรับใบสั่งยาไป
"เลขาเฉิน ผมก็เขียนใบสั่งยาให้คุณป้าด้วยนะ ร่างกายของท่านยังค่อนข้างอ่อนแอ การกินยาจีนตรงตามเวลาหลายวันไม่เพียงจะทำให้ร่างกายแข็งแรง แต่ยังช่วยให้ร่างกายของเธอหายดีโดยเร็วอีกต่างหาก!"
ฉินหมิงยิ้มพลางเขียนใบสั่งยาแล้วยื่นให้แก่เฉินถิงถิงกับน้องชาย
เฉินถิงถิงพี่น้องอดไม่ได้ที่จะแสดงความขอบคุณ
หลังจากนั้นไม่นาน ด้วยความช่วยเหลือของผู้อำนวยการหู ขั้นตอนการจำหน่ายออกจากโรงพยาบาลของหลี่ฉินก็เสร็จสิ้นอย่างรวดเร็วแล้วพวกเขาก็ออกจากโรงพยาบาลไปพร้อมกัน
เมื่อออกมาข้างนอกแล้ว
เฉินถิงถิงก็เรียกรถแท็กซี่ จากนั้นเธอกับน้องชายก็ประคองแม่ของตนเองขึ้นรถ
ก่อนจะจากไป เฉินถิงถิงก็เชิญฉินหมิงไปทานอาหารมื้อค่ำที่บ้านของเธอเพื่อแสดงความขอบคุณอย่างสุดซึ้งแก่ฉินหมิง
แต่ฉินหมิงกลับปฏิเสธ
เฉินถิงถิงคิดว่าแม่ของเธอเพิ่งจะออกจากโรงพยาบาลและไม่สะดวกหลายอย่างจริง ๆ ในที่สุดเธอก็ยอมแพ้และคิดว่าเอาไว้มีโอกาสเมื่อไรค่อยคุยเรื่องนั้นกันทีหลัง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พลิกชะตารัก มรดกเซียน
รออัพเดท ตอนต่อ ๆ ไป ครับ...