“สวัสดีครับ หมอเซียว ผมได้ยินเรื่องคุณมาเยอะเลย!” ฉีหลงหัวเราะร่วน เขาเอื้อมมือเขย่ามือเซียวอี้อย่างหนักแน่น
เซียวอี้ยิ้ม ในใจนึกชื่นชมบุรุษตรงหน้า "ช่างเป็นชายที่เฉียบขาด!"
ชายที่อยู่ตรงหน้าเขาคือผู้แข็งแกร่งเทียบเท่าขั้นต้นของระดับโลก นอกจากนี้เขาคงเคยฝึกศิลปะการต่อสู้หยางมาแล้ว ขณะที่เขายืนอยู่ตรงนั้น พละกำลังแข็งแกร่งประดุจต้นสนใหญ่ และความเที่ยงตรงยุติธรรมของเขาโดดเด่นแกร่งกล้าจนไม่มีใครอาจหาญดูหมิ่นเขา
เมื่อฉีหลงพบเซียวอี้ เขาก็อดผิดหวังนิดหน่อยไม่ได้ ช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา เขาได้ยินเฮยเฟิงชื่นชมความกล้าหาญของเซียวอี้หลายครั้ง เขาเลยสงสัยมานานแล้ว ดังนั้นเมื่อทราบว่าเฮยเฟิงจะไปรับเซียวอี้ เขาจึงรออยู่ที่นี่ด้วยใจจดจ่อ ไม่คาดว่าเซียวอี้จะดูธรรมดาอย่างยิ่ง เขาเหมือนหมอขี้โรคคนหนึ่ง
ถึงเขาจะผิดหวัง แต่ขณะที่จับมือเซียวอี้ ฉีหลงก็ใช้กำลังภายในเล็กน้อย
วินาทีต่อมาฉีหลงพลันตื่นตระหนก เขารับรู้ถึงขุมกำลังภายในลึกล้ำไร้ก้นบึ้งจากฝ่ามือของเซียวอี้ ความแข็งแกร่งจากฝ่ามือเขาถูกเซียวอี้ข่มขวัญอย่างเงียบงัน เสมือนรูปปั้นดินเหนียวจมสู่ก้นบึ้งทะเล
"เฮือก..." ฉีหลงอดสูดหายใจลึกไม่ได้ เขาคลายมือออกอย่างรวดเร็ว ก่อนโค้งคำนับ และเอ่ยว่า "ขออภัยด้วยครับ ผมไม่คิดว่าหมอเซียวจะมีเบื้องหลังลึกลับเพียงนี้!"
"ฮ่า ๆ ไม่เลวเลย ในวัยนี้คุณสามารถทะลวงถึงขั้นต้นของระดับโลกได้แล้ว คนทั่วไปต่อให้ตั้งใจมากเท่าไร ก็มาถึงจุดนี้ไม่ได้ด้วยซ้ำ" เซียวอี้กล่าวด้วยรอยยิ้มจริงใจ
สีหน้าของฉีหลงพลิกเปลี่ยนอีกครา เขาไม่คิดว่าเซียวอี้จะประเมินความแข็งแกร่งของเขาจนทะลุปรุโปร่งอย่างง่ายดาย แสดงว่าขอบเขตของเซียวอี้ต้องเหนือกว่าเขาแล้วแน่! ยิ่งไปกว่านั้นขณะที่เซียวอี้เอ่ยวาจาก็ดูสุขุมสงบนิ่ง หายากที่คนหนุ่มเช่นเขาจะมีท่าทีเยือกเย็นน้ำใจกว้างขวางเช่นนี้
ฉีหลงอดหนาวเยือกในใจไม่ได้ เขาโค้งเคารพอีกครั้ง แล้วพูดว่า "หมอเซียว คุณยกย่องผมเกินไปแล้ว!"
"ฉีหลง ฉันพูดถูกใช่มั้ย? วันนี้นายเจอคู่ต่อสู้แล้วล่ะ" เฮยเฟิงกอดอกมองพวกเขาด้วยรอยยิ้มกริ่ม
"ใช่แล้ว! หากมีโอกาส หวังว่าหมอเซียวจะช่วยชี้แนะผมด้วยนะครับ!" ดวงตาของฉีหลงทอประกาย เขาไม่โศกเศร้าเพราะว่าเซียวอี้อยู่ในระดับขั้นสูงส่งกว่าเขาเลย ในทางกลับกัน เขากลับปิติยินดีราวกับเพิ่งพบสหายคู่ใจ
“ได้สิ!” เซียวอี้ตอบตกลงด้วยรอยยิ้ม เขาไม่แสร้งทำตัวสุภาพอีกต่อไป
"เอาล่ะ ฉีหลง หากนายต้องการแข่งกับเซียวอี้ ต่อจากนี้ยังมีเวลาแข่งอีกมาก ตอนนี้ให้เซียวอี้ตรวจดูอาการของหลางหวางก่อนเถอะ!" เฮยเฟิงก้าวออกมาเตือนสหายด้วยรอยยิ้ม
"ใช่แล้ว เป็นความผิดของฉันเอง" ฉีหลงยิ้มเขิน ๆ แล้วกล่าวว่า "อย่าถือสาผมเลยครับหมอเซียว เชิญที่ชั้นบนเลยครับ"
ฉีหลงเป็นผู้นำทาง ทั้งสามคนเดินขึ้นไปยังชั้นสอง และเดินเข้าไปในห้องนอนทางทิศใต้
มันคือห้องนอนที่กว้างขวางโอ่โถงมาก เครื่องเรือนทั้งหมดเรียบง่ายไม่ซับซ้อน อย่างไรก็ตามสิ่งที่ทำให้เซียวอี้แปลกใจคือประตูและหน้าต่างทั้งหมดในห้องนอนถูกปิดสนิทมิดชิด ใจกลางห้องมีเตาสามขาขนาดใหญ่จุดไฟอยู่ ทว่าทันทีที่เขาเดินผ่านเข้าประตู กลับรู้สึกหนาวเย็นเสียดกระดูก
การหยั่งรู้ศักดิ์สิทธิ์ของเซียวอี้กวาดมองรอบ ๆ เขาตกใจมากเมื่อตระหนักว่าความหนาวเย็นทั่วห้องนอนแผ่ออกมาจากเตียงไม้สีแดงขนาดใหญ่
"เอ๊ะ?" เซียวอี้อุทานเสียงเบาด้วยความประหลาดใจ
"หมอเซียว เส้นประสาทของหลางหวางเริ่มหดตัวตั้งแต่ 3 ปีก่อนครับ นอกจากนี้ร่างกายยังหนาวเกินบรรยาย แม้ในวันที่อากาศร้อน ร่างกายของหลางหวางก็ยังเย็นเฉียบ พวกเราไม่สามารถใช้เครื่องปรับอากาศ และเครื่องทำความร้อนได้ ทำได้เพียงเผาถ่านหินในเตาใหญ่นี้เท่านั้นจึงจะช่วยบรรเทาอาการได้บ้างเล็กน้อย” ฉีหลงซึ่งยืนข้างเซียวอี้บอกเล่าอาการป่วยของหลางหวางคร่าว ๆ
ดวงตาของเซียวอี้เหลือบมองตามคำบอกเล่าของฉีหลง เขาอดชำเลืองมองเตาขนาดใหญ่ซึ่งมีรูปลักษณ์แปลกตาไม่ได้
เตาสามขามีหูจับสองข้าง ตัวหม้อมีก้นลึก และมีขาตั้งทั้งสาม ที่เตามีลวดลายมังกร 9 ตัวซึ่งดูมีชีวิตชีวาเหมือนจริง ลักษณะของมังกรแต่ละตัวแตกต่างกันออกไป เรื่องน่าแปลกคือเครื่องเรือนตกแต่งลายมังกรทั่วไปมักจะวาดให้เศียรมังกรปรากฏเด่นเป็นสง่า ทว่ามังกรทั้งเก้านี้กลับแตกต่างเป็นอย่างมาก เศียรมังกรทั้งเก้าล้วนปรากฏอยู่ที่บริเวณด้านล่างของเตาสามขา
ขณะที่เซียวอี้กำลังสับสน จู่ ๆ ชื่อเสียงเรียงนามของสมบัติหายากชิ้นหนึ่งก็พาดผ่านเข้ามาในหัวเขา
“ฮะ... คงไม่ใช่สมบัตินั้นหรอกมั้ง?” ร่างกายของเซียวอี้สั่นสะท้าน เขารีบใช้การหยั่งรู้ศักดิ์สิทธิ์แผ่คลุมทั่วเตา และตรวจสอบด้วยความระมัดระวังทันที
เมื่อตรวจสอบแล้ว ใบหน้าเซียวอี้พลันซีดขาวด้วยความตื่นตระหนก เขาแทบควบคุมอารมณ์ไม่อยู่จนเกือบจะร้องตะโกนออกมา
"นี่คือเตามังกรอัคคี เตามังกรอัคคีของจริง! ลวดลายด้านในคือมังกรทั้งเก้า ท่านผู้เฒ่า นี่คือชะตากรรมของข้าน้อยหรือ? ข้าน้อยถึงได้เจอเตามังกรอัคคีในตำนาน ณ เวลานี้!" เซียวอี้พยายามควบคุมอารมณ์อย่างเต็มที่ ภายนอกจึงดูสงบนิ่งไม่ผิดแผกจากเดิม
เตามังกรอัคคีสลักอักขระเวทย์โบราณไว้ ยามถูกปลุกขึ้นมา มันจะสามารถปล่อยเปลวเพลิงอัคคีที่แท้จริงออกมา ไร้ข้อติดขัดทุกประการยามที่กลั่นโอสถและหลอมอาวุธ แต่เตานี้หายสาบสูญหายไปนานหลายปีแล้ว ผู้คนจำนวนมากจึงจดจำสมบัติล้ำค่าชิ้นนี้ไม่ได้อีกต่อไป
อย่างไรก็ตามลูกดอกมังกรอัคคีซึ่งหลอมโดยเตามังกรอัคคีนั้นมีชื่อเสียงเลื่องลือยาวนานนับพันปีในโลกแห่งผู้ฝึกตนว่ามีพลังสูงส่งแก่กล้ายิ่ง
โลกรู้จักแค่ลูกดอกมังกรอัคคี แต่พวกเขาหารู้ไม่ว่าเตามังกรอัคคีตรงหน้าสามารถหลอมลูกดอกมังกรอัคคีได้!
เซียวอี้ไม่นึกฝันมาก่อนว่าเตามังกรอัคคีที่สูญหายไปนานจะปรากฏตัวขึ้น ณ คฤหาสน์มืดมิดซอมซ่อแห่งนี้ และถูกใช้งานเพื่อจุดไฟอย่างน่าเศร้าสลด!
"ฟู่!" เซียวอี้ถอนหายใจยืดยาว เขาพยายามระงับความต้องการที่จะพุ่งเข้าไปตรงนั้น ความปรารถนาในฐานะนักเล่นแร่แปรธาตุที่มีต่อวัตถุอายุวัฒนะชั้นสูงนั้นยากที่จะแสดงออกมาเหลือเกิน
“เซียวอี้ เป็นอะไรรึเปล่า?” เมื่อเฮยเฟิงเห็นสีหน้าแปลก ๆ ของเซียวอี้ เธอจึงถามเขา
“ไม่มีอะไร ผมขอตรวจผู้ป่วยก่อน!” เซียวอี้บังคับให้ตัวเองถอนสายตาจากเตามังกรอัคคี เขาสงบสติอารมณ์ แล้วเดินเข้าไปหาชายชราที่นอนอยู่บนเตียงใหญ่
ชายชรามีเครื่องหน้าโดดเด่นคมคาย ผิวหน้าหย่อนคล้อย ริ้วรอยนูน คิ้วกว้างดกหนา สีหน้าไม่เกรี้ยวกราดทว่าเต็มไปด้วยศักดิ์ศรีองอาจ ยามนี้เขาไม่ได้นอนหลับอยู่ แต่กำลังเหม่อมองเพดานด้วยแววตาเลื่อนลอย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมเกิดใหม่ เป็นหมอเทวดามือวิเศษ
รออยู่ครับ...