"ไม่ เรียกผู้บริหารเซียวกรุ๊ปทุกคนมาที่นี่ แล้วใช้เส้นสายทั้งหมดตามหาหมอชื่อดังมารักษาน่าน่าให้ได้! ถ้าไอ้เซียวอี้มันรักษาโรคนี้ได้ ก็ต้องมีหมอชื่อดังสักคนในบรรดาหมอทั้งหลายที่รักษาโรคนี้หายเหมือนกัน!" เหยาจิงทุบโต๊ะดังปัง ก่อนจะตัดสินใจแน่วแน่
ทันทีที่ได้รับคำสั่ง ผู้บริหารของเซียวกรุ๊ปก็รีบรุดไปที่นั่นทันที ทุกคนมีท่าทางราวกับกำลังเผชิญหน้าศัตรูอันน่าพรั่งพรึง ทุกคนใช้วิทยาการที่ล้ำหน้าที่สุด และทรัพยากรทุกอย่างเท่าที่มีเพื่อตามหาหมอ
เซียวเทียนเซี่ยง และเหยาจิงกระสับกระส่ายร้อนรนมาก พวกเขานึกถึงเรื่องที่บุตรสาวหัวแก้วหัวแหวนของตนเพิ่งถูกไล่ออกมาจากโรงพยาบาลในเครือ และเกือบถูกย้ายไปที่โรงพยาบาลโรคติดเชื้อ เธอตกอยู่ในอันตรายอย่างใหญ่หลวง แต่อิงรั่วกลับได้เซียวอี้ช่วยรักษาจนหายดี นังเด็กเนรคุณนั่นหนีออกจากตระกูลเซียวโดยไม่พูดอะไรสักคำ
ทั้งสองคนโกรธแค้นยิ่งนัก เหยาจิงทุบโต๊ะเสียงดังลั่น แล้วลุกขึ้นยืน เธอตะคอกใส่หน้าเซียวเผิงโป บุตรชายของเธอ "เผิงโป ส่งคนไปสืบว่านังอิงรั่วหนีไปที่ไหน? ไม่ว่ามันจะอยู่ที่ไหนก็ตาม แม่ไม่ปล่อยให้มันมีชีวิตอย่างสงบสุขเด็ดขาด! แม่อยากให้มันสำเหนียกว่าถ้าออกจากตระกูลเซียวแล้ว มันก็อยู่ในเมืองไห่ไม่ได้อีก!”
“ไม่ต้องห่วงครับแม่ ผมจะรีบจัดการทันที นังเด็กแพศยานั่นทรยศพวกเรา เราจะปล่อยมันไว้ได้อย่างไร?” ใบหน้าเซียวเผิงโปเย็นเยียบชวนขนลุก เขาเดินออกจากห้อง และเตรียมการทุกอย่างทันที
เหยาจิงค่อยรู้สึกว่าลมหายใจของเธอโล่งขึ้นเล็กน้อย เธอเดินไปหาลูกน้องใต้บังคับบัญชา แล้วถามอย่างกระตือรือร้น "เป็นอย่างไรบ้าง? พบเบาะแสหมอที่มีชื่อทางด้านนี้มั้ย?"
ลูกน้องทุกคนต่างส่ายศีรษะอย่างระมัดระวัง ตอนนี้พวกเขาแทบโทรหาทุกโรงพยาบาลและคลินิกครบทุกประเภทแล้ว รวมถึงสถาบันการแพทย์ต่าง ๆ ที่ต่างประเทศด้วย แต่เมื่อสถานพยาบาลได้ยินชื่อโรคมะเร็งเนื้อเยื่อบ็อกซิกา ทุกคนก็ไม่ยอมตอบกลับเลย คำตอบจากทุกที่ล้วนเหมือนกัน: "โรคนี้รักษาไม่หาย! ขอแสดงความเสียใจ!"
เมื่อเห็นฉากเบื้องหน้า หัวใจของเหยาจิงพลันดิ่งวูบ เธอทุบโต๊ะเสียงดังอีกครั้ง แล้วตะคอกเสียงดัง "หาต่อไป หาต่อไปเรื่อย ๆ! ถ้าคืนนี้หาคนไม่ได้ ห้ามใครกลับบ้านทั้งนั้น!"
เหล่าลูกน้องต่างเหงื่อแตกซิก แต่พวกเขาก็ต้องกัดฟันตามหาคนต่อไป ทุกคนคิดในใจเป็นเสียงเดียวกันว่า "ลูกสาวหล่อนติดเชื้อน่ารังเกียจ แต่หล่อนกลับลากพวกเราไปลงนรกด้วย! นี่คือเชื้อบ็อกซิกานะ มันจะรักษาง่ายปานนั้นเลยเรอะ?"
ทว่าก็ไม่มีใครกล้าพูดประโยคเหล่านี้ออกมา เหยาจิงเปรียบเสมือนนางพญาแห่งเซียวกรุ๊ป เธอมีอำนาจมหาศาลอยู่ในมือ ใครจะกล้าหาเรื่องเธอเล่า?
“อ๊ะ ผู้จัดการ คุณผู้หญิงครับ พวกเราหาเจอแล้วครับ!” จู่ ๆ ลูกน้องหนุ่มคนหนึ่งก็ตะโกนขึ้นมาด้วยความตื่นเต้น "เมื่อเร็ว ๆ นี้มีวิดีโอหนึ่งกำลังแพร่หลายทั่วโลกออนไลน์ เป็นหมอชื่อดังที่รักษาโรคมะเร็งเนื้อเยื่อบ็อกซิกาหายครับ!"
เมื่อได้ยินเช่นนี้ เซียวเทียนเซี่ยง และเหยาจิงก็ดีใจมาก พวกเขารีบเดินเข้ามาดูทันที
“หมอเทวดาคนนี้อยู่ที่ไหน? ไม่ว่าเขาจะอยู่ที่ไหน ก็ต้องเชิญเขามาที่นี่เพื่อรักษาน่าน่าให้เร็วที่สุด!” เหยาจิงพูดอย่างรีบเร่ง ขณะตาจ้องคอมพิวเตอร์ไม่กะพริบ
“หมออาศัยอยู่ในเมืองไห่ของเราด้วยครับ!” ลูกน้องหนุ่มกล่าวอย่างดีอกดีใจ และรับชมวิดีโอพร้อม ๆ กับเซียวเทียนเซี่ยง และเหยาจิง
แต่เมื่อเซียวเทียนเซี่ยง และเหยาจิงเห็นโฉมหน้าของหมอเทวดาในวิดีโอแล้ว สีหน้าของพวกเขาพลันเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังเท้า ความสุขบนใบหน้าเลือนหายไปจนหมด กลับกลายเป็นความอาฆาตแค้น
เพราะหมอที่กำลังพูด และส่งเสียงหัวเราะอยู่ในวิดีโอไม่ใช่ใครอื่นนอกจากเซียวอี้!
"อา..." เหยาจิงทรุดตัวลงพื้น มือปัดคอมพิวเตอร์หล่นกระจายทั่วพื้นอย่างเกรี้ยวกราด เธอกัดฟันกรอด และกรีดร้องเสียงสูง "ออกไป ออกไปให้หมด พวกแกทุกคน!"
แม้เหล่าลูกน้องจะถูกด่าทอรุนแรง แต่ทุกคนก็รีบเผ่นหนีอย่างว่องไวราวได้รับการลุแก่โทษ
"ทำไม? ทำไมถึงไม่มีใครรักษาโรคนี้ได้นอกจากไอ้สวะนั่น?" ใบหน้าของเหยาจิงดูแก่ชราลงนับสิบปีในพริบตาเดียว
เวลานี้จู่ ๆ เซียวเผิงโปก็เดินเข้ามาในห้องด้วยใบหน้าซีดขาว
เหยาจิงหันหน้ามองอย่างชิงชัง แล้วถามว่า "เกิดเรื่องอะไรขึ้น?"
เซียวเผิงโปขยับริมฝีปากอยู่ 2-3 ครั้ง ในที่สุดจึงเค้นคำพูดออกมา "นังอิงรั่วถูกส่งไปอยู่กับชูว่าน ต้นคิดคือไอ้เซียวอี้!"
“ชู ชูว่านเหรอ?” เมื่อได้ยินเช่นนี้ เหยาจิงก็ประคองร่างตัวเองไม่ไหวอีกต่อไป เธอล้มพับบนโซฟา แล้วถามด้วยความตระหนก "มันไปอยู่กับตระกูลชูได้อย่างไร?"
"ช่วงนี้ไอ้เซียวอี้สนิทสนมกับชูว่านมาก!" เซียวเผิงโปนึกถึงเสน่ห์เย้ายวนหาใดเปรียบของชูว่าน และเมื่อนึกถึงชูว่านกำลังหัวร่อต่อกระซิกกับเซียวอี้ เขาก็อดเคียดแค้นไม่ได้
เมื่อมองเศษซากคอมพิวเตอร์เกลื่อนทั่วพื้น เซียวเผิงโปก็ถามว่า "เรื่องหมอมีความคืบหน้าอะไรมั้ยครับ?"
เซียวเทียนเซี่ยง และเหยาจิงต่างส่ายหัวอย่างจนใจ
แน่นอนว่าเซียวอี้ไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้นภายในคฤหาสน์ของตระกูลเซียว ณ ริมชายฝั่งเมืองไห่
หลังรับประทานยาเปลี่ยนเส้นเอ็นเสริมกระดูก และนั่งโคจรลมปราณอยู่พักใหญ่ ก็เป็นเวลาห้าทุ่มพอดิบพอดี ที่ด้านนอกมีเสียงจักจั่นและกบร้อง ช่างสงบสันโดษยิ่งนัก ยามนี้มีเซียวอี้เพียงคนเดียวในหอจี้ซื่อ เขาไม่ต้องกลัวว่าใครจะมาหาเรื่องอีก เซียวอี้จึงลุกขึ้น และเดินไปที่สวนสาธารณะเจี๋ยซินฝั่งตรงข้ามเพื่อฝึกฝนหมัดกำลังภายในมังกรพยัคฆ์แผลงฤทธิ์
นี่คือของขวัญตอบแทนจากจอมยุทธบำเพ็ญตบะที่เซียวอี้เคยช่วยเหลือเอาไว้ในชาติที่แล้ว ชาติที่แล้วเซียวอี้ผู้สำเร็จสมบูรณ์พร้อมทุกประการไม่เคยนึกจริงจังกับวิชานี้ อย่างไรก็ตามในชาติปัจจุบัน หมัดชุดนี้นับว่าเหมาะสมที่สุดในการฝึกปรือร่างกาย ยิ่งไปกว่านั้นดูเหมือนหมัดชุดนี้จะมีความพิเศษเฉพาะตัวอย่างมาก ไม่แปลกใจเลยที่จอมยุทธผู้นั้นสามารถเปลี่ยนมาเป็นผู้ฝึกตนได้ด้วยหมัดชุดนี้
หลังฝึกฝนรูปแบบทั้งเก้าของระดับแรกรวดเดียวจบ เซียวอี้พลันรู้สึกร้อนผ่าวทั่วร่างกาย หมัดชุดนี้สมฉายาของมันจริง ๆ ทั้งแข็งแกร่ง และทรงพลังมาก
“พยัคฆ์กระโจนจากพงไพร!” ก่อนเซียวอี้จะสิ้นสุดการฝึกศิลปะการต่อสู้ เขาก็ยกหมัดชกต้นป็อปล่าซึ่งมีลำต้นหนาพอ ๆ กับถังเหล็กทันที
"ตูม!" เกิดเสียงระเบิดดังขึ้น กำปั้นเซียวอี้พุ่งทะลุต้นไม้เป็นรูโหว่ขนาดใหญ่ เศษซากต้นไม้ลอยคล้างในอากาศกระเด็นห่างออกไปหลายเมตร
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมเกิดใหม่ เป็นหมอเทวดามือวิเศษ
รออยู่ครับ...