ภพนี้ตราบภิรมย์รัก นิยาย บท 153

หลินเมิ่งหวันนั่งอยู่บนที่นอนนุ่มๆ และยังคงรู้สึกว่าไม่จริง

งานแต่งงานของนางกับฉู่โม่หยวน เป็นไปอย่างราบรื่น

ตอนนี้นางเป็นภรรยาที่ถูกต้องตามหลักทำนองคลองธรรมของฉู่โม่หยวนแล้ว เป็นจิ่งหวังเฟย!

หลินเมิ่งหวันถอนหายใจยาวด้วยความโล่งอก ในที่สุดหัวใจที่ห้อยอยู่ก็หล่นลงมา

ในตอนนี้แค่รอเวลายามค่ำคืน จากนั้นจะเป็นคืนเข้าหอของนางกับหฉู่โม่หยวน......

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ แก้มของหลินเมิ่งหวันก็ร้อนผ่าวขึ้นมา และกุมสองมือไว้แน่น

นางแอบด่าตัวเองว่าไม่รู้จักอายที่เฝ้ารอเรื่องเช่นนั้น

อย่างไรก็ตาม ในชาติที่แล้วนางทำลายงานแต่งงานของตัวเอง ในชาตินี้จึงอดใจรอแทบไม่ไหวที่จะชดเชยเรื่องที่น่าเสียดาย

ในขณะที่ความคิดวนเวียน หลินเมิ่งหวันก็ได้ยินเสียงเปิดประตู

หลินเมิ่งหวันตกตะลึง จากนั้นได้ยินคนรับใช้กล่าวด้วยความเคารพ “คารวะจิ่งอ๋องเตี้ยนเซี่ย”

หัวใจของนางเต้นแรงในทันที และมือเล็กๆ ของนางก็กุมแน่นยิ่งขึ้น

ฉู่โม่หยวนมาได้อย่างไร?

เสียงฝีเท้าค่อยๆ เข้าใกล้ หลินเมิ่งหวันเห็นรองเท้าที่ปักอย่างประณีตคู่หนึ่ง สะท้อนเข้ามาในม่านตาของตัวเองภายใต้ผ้าคลุมศีรษะ

และบนรองเท้านั่นมีชายเสื้อสีแดงสด ด้านบนปักมังกรทองสี่เล็บ ซึ่งเหมือนจริง

หลินเมิ่งหวันหายใจถี่ขึ้นโดยไม่รู้ตัว

ตอนนี้เป็นเวลากลางวันแสกๆ ฉู่โม่หยวนมาทำอะไรที่ห้องหอ? ตามกฎของแคว้นตงเยว่ ในเวลานี้ฉู่โม่หยวนควรจะต้อนรับแขกอยู่ด้านนอก รอจนกระทั่งหัวค่ำที่แขกแยกย้ายกลับไปแล้ว เขาถึงจะเข้ามาร่วมห้องหอกับนาง

นางจำได้ว่าชาติที่แล้ว ฉู่โม่หยวนก็เข้ามาในห้องช่วงหัวค่ำ

และถูกนางไล่ออกไป......

ไม่สิ นั่นไม่ใช่ประเด็น ประเด็นคือทำไมฉู่โม่หยวนถึงเข้ามามาเร็วเช่นนี้?

หรือว่ามีอะไรเกิดขึ้น?

หลินเมิ่งหวันหัวใจเต้นแรงขึ้น และไม่สบายใจมากขึ้นเรื่อยๆ นางแทบอยากจะเปิดผ้าคลุมศีรษะออก แล้วถามว่าเกิดอะไรขึ้น

ในขณะที่ครุ่นคิด ฉู่โม่หยวนก็จับมือเล็กๆ ของหลินเมิ่งหวัน

หลินเมิ่งหวันหดตัวโดยไม่รู้ตัว เมื่อเห็นปฏิกิริยาที่เขินอายของนาง ฉู่โม่หยวนก็ยกริมฝีปากขึ้นในทันที

เขายืนขึ้นและเอนไปข้างหูของหลินเมิ่งหวัน “ข้าจะใจแข็งให้หวังเฟยรอนานได้อย่างไร? แน่นอนว่าการอยู่กับหวังเฟยสำคัญกว่า”

ในชั่วพริบตาเดียว หลินเมิ่งหวันก็รู้สึกเพียงว่าเลือดลมพลุ่งพล่าน แก้มร้อนผ่าวจนเกือบจะไหม้

ฉู่โม่หยวนยิ้มและนั่งลงข้างๆ หลินเมิ่งหวัน จากนั้นก็เปิดผ้าคลุมศีรษะของหลินเมิ่งหวัน

นางหน้าตาอิ่มเอิบ ใบหน้าแดงราวกับพระอาทิย์ยามอัสดง นางรู้สึกว่าผ้าคลุมศีรษะถูกยกขึ้น ขนตาที่ยาวราวกับปีกผีเสื้อสั่นไหวสองครั้ง และเงยศีรษะขึ้นมองฉู่โม่หยวนโดยไม่รู้ตัว

ฉู่โม่หยวนรู้สึกว่าหัวใจของตนเองเต้นแรง และเมื่อถูกมองด้วยดวงตาที่เปียกปอนคู่นั้น เขาก็ลืมหายใจไปชั่วขณะหนึ่ง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ภพนี้ตราบภิรมย์รัก