บทที่ 35 รับคนที่สนามบิน
“นาย กำลังพูดกับใคร?”
เฉินเทียนหย่างกัดฟันพูดออกมาคำหนึ่ง
คนหนุ่มๆในวงศ์ตระกูล ใครที่ไม่อยากควบคุมวงศ์ตระกูล?
แต่อยู่ดีๆท่านปู่ก็วิ่งไปข้างนอกหาไอ้ลูกสวะคนนี้ คิดอยากจะพากลับมาอยู่ในตระกูล แบบนี้มันตบหน้าพวกเขาชัดๆ
ในฐานะที่เป็นลูกศิษย์เอกของวงศ์ตระกูล จะยอมหลีกทางให้ไอ้ลูกสวะคนนี้ได้ยังไง?
เฉินตงยิ้มๆอย่างไม่พอใจ: “คุนหลุน กลับบ้านเถอะ”
นี่ถูกมองข้ามไปเหรอ?
เฉินเทียนหย่างโมโหอย่างมาก สายตาดุร้ายจนจะกินคนได้เลย
แต่เขารู้ดี มีคุนหลุนอยู่ เขาจะทำอะไรเฉินตงไม่ได้เลย
คุณปู่ถึงกับเอาบอดี้การ์ดส่วนตัวไปอยู่ข้างกายของไอ้ลูกสวะนั่น เห็นได้ชัดคุณปู่ให้ความสำคัญแค่ไหน
“แกจะได้รู้ ความแตกต่างของยอดคนกับไอ้ลูกสวะ” น้ำเสียงของเฉินเทียนหย่างเยือกเย็นทิ่มแทงใจมาก
กลับไปถึงบ้าน เฉินตงนั่งลงไปโซฟาด้วยความอ่อนล้า
“เมื่อกี้ ขอบคุณคุณมากนะครับ”
คุนหลุนส่ายหัว: “เป็นหน้าที่ผมอยู่แล้วครับ”
เฉินตงยิ้มๆอย่างไม่เข้าใจ
เมื่อกี้ถ้าคุนหลุนไม่มา เขาไม่กล้าคิดเลยว่าเฉินเทียนหย่างจะทำเขายังไงบ้าง
เหมือนที่ท่านหลงพูดจริงๆว่า พวกเขา.....ไม่กลัวการฆ่าคนเลย
“คุนหลุน เมื่อกี้คุณบอกว่าวิชาต่อสู้ของเฉินเทียนหย่าง คุณเป็นคนสอนเขาเองเหรอ?” เฉินตงยักคิ้ว
“ใช่”
เฉินตงยิ้มๆ แววตาตั้งมั่น: “สอนผมด้วยสิ”
การปรากฏตัวของเฉินเทียนหย่าง ทำให้เขารู้สึกถึงความไม่ปลอดภัย
ไม่ใช่เพราะอยากจะแย่งชิงสิ่งที่มีอยู่ตอนนี้ทั้งหมด แต่เป็นเพราะเฉินเทียนหย่างพวกเขาไม่สนใจในชีวิตคน
เมื่อฝ่ายตรงข้ามมองข้ามชีวิตคน ความรู้สึกไม่ปลอดภัยนั้นจะเหมือนดอกหญ้าข้างทางที่เจริญเติบโตงอกเงยขึ้นมา เพราะเฉินตงยังมีคนที่ต้องปกป้องดูแล
หลังจากวันนั้นแล้ว เฉินตงไปออกกำลังกายตอนเช้าจะไปสวนสาธารณะพร้อมกับคุนหลุน จากนั้นก็เปียกเหงื่อทั้งตัวและกลับไปอาบน้ำ แล้วรีบตรงเข้าทำงานที่บริษัท
ทุกอย่างกำลังดำเนินไปด้วยดี
อาการป่วยของแม่ ก็กำลังหายดีขึ้นเป็นลำดับ
ส่วนเฉินเทียนหย่าง หลังจากที่ปรากฏตัวในตอนเช้าวันนั้น ก็ไม่เคยเห็นเงาเลย
เหมือนเป็นแค่ตอนหนึ่งในชีวิตของเฉินตง ทำให้มีคลื่นพายุซัดมา แล้วก็สงบเงียบไป
พริบตาเดียว ก็ถึงวันที่1เดือน9แล้ว
เวลาตอนเที่ยง เฉินตงไม่มีเวลากินข้าวเที่ยง มัวแต่อ่านแผนงานเปิดจองโครงการที่พวกเสี่ยวหม่าส่งมา
โครงการก่อสร้างระยะแรกของย่านสลัมภาคตะวันตกของเมืองได้เสร็จเรียบร้อยแล้ว สามารถทำการเปิดจองโครงการได้แล้ว
มีข่าวคราวของการเข้ามาร่วมลงทุนของบริษัทยี่เคอกรุ๊ปแล้ว เขาให้ความสำคัญกับการเปิดจองโครงการในครั้งนี้อย่างมาก และยังเต็มไปด้วยความมั่นใจ
ดังนั้นความเหน็ดเหนื่อยและความพยายามทั้งหมด ก็ถึงเวลาได้รับผลตอบแทนแล้ว
ในที่สุดก็ได้ตรวจสอบข้อมูลแผนงานเปิดจองโครงการเสร็จเรียบร้อย จากนั้นเซ็นอนุมัติ เฉินตงจับดั้งจมูกที่บวม
มองดูนาฬิกา ก็เป็นเวลาบ่าย1โมงแล้ว
ท้องฟ้าด้านนอก มืดครึ้มมาก
เหมือนฝนกำลังจะตกหนัก
เฉินตงขมวดคิ้ว เหมือนรู้สึกว่าลืมเรื่องอะไรบางอย่าง
เขาหยิบมือถือขึ้นมา เมื่อสักครู่ตอนที่เขากำลังตรวจงานอยู่นั้น มือถือปิดเสียงเงียบไว้
มือขวาเลื่อนไปดูวีแชท อ่านข้อความคร่าวๆสักพัก
ทันใดนั้น แววตาเฉินตงหยุดชะงัก
มองดูข้อความที่กู้ชิงหยิ่งส่งมาในวีแชท
ในที่สุดเขาก็นึกขึ้นได้ว่าลืมอะไรไป
ข้อความวีแชทที่กู้ชิงหยิ่งส่งมา: “เฉินตง คุณมารับที่สนามบินหรือยังคะ?”
ส่วนเวลา คือครึ่งชั่วโมงก่อน
แย่ละ!
ทำไมถึงลืมเรื่องนี้ไปได้?
เฉินตงโมโหมาก ก่อนที่กู้ชิงหยิ่งจะกลับมาได้นัดกับเขาไว้แล้ว
มัวแต่ยุ่งกับงาน จนทำให้เขาผิดนัดสัญญา?
เฉินตงรีบร้อนส่งข้อความให้กู้ชิงหยิ่ง: “ชิงหยิ่ง คุณยังอยู่สนามบินไหม? ขอโทษด้วยครับ เมื่อกี้ผมงานยุ่งมากจนลืม มือถือปิดเสียงไว้”
ตั้งแต่งานแต่งของเขาและหวางหนันหนันเสร็จเรียบร้อยแล้ว กู้ชิงหยิ่งก็ออกนอกประเทศ ส่วนวิธีที่เคยติดต่อกันเมื่อก่อนก็ไม่มีเลย มีเพียงวีแชทเท่านั้นที่ยังติดต่อกันได้
ติง!
“ยังอยู่ค่ะ” กู้ชิงหยิ่งตอบ
“ผมจะไปรับคุณเดี๋ยวนี้เลยนะครับ”
เฉินตงรู้สึกผิดอยู่สักพัก ใส่เสื้อกันหนาวแล้วรีบร้อนวิ่งออกไป
ที่สนามบิน
คนเดินไปเดินมา
แต่คนที่ไปๆมาๆ ต่างก็จะพากันมองหญิงสาวที่อยู่ตรงมุมหนึ่งอย่างตะลึง
หญิงสาวคนนั้นใส่หมวกกันแดด ใส่ชุดกระโปรงยาวสีขาว ใส่รองเท้าผ้าใบสีขาวคู่หนึ่ง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้ชนะเลศคือราชา